เปิดคำพิพากษา "มงคคลกิตติ์" ทำสัญญาประนีประนอมยอมความหมิ่นประมาท "ศักดิ์สยาม" ผ่านหน้าเฟซบุ๊ก Tik Tok เป็นเวลา 15 วัน คงข้อความเอา 10 ปี กรณีกล่าวหา 4 เรื่องไม่เป็นความจริง ทำเสียชื่อเสียง
เมื่อวันที่ 22 ม.ค.68 ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ตัดสินให้ทำ สัญญาประนีประนอมยอมความ คดีหมายเลขดำที่ อ1885/2567 ความอาญาเกี่ยวเนื่องแพ่ง ระหว่าง โจทก์ คือ พนักงานอัยการจังหวัดบุรีรัมย์ โจทก์ร่วมคือ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ โดยมีนายมงคลกิตต์ สุขสินธารานนท์ เป็นจำเลย เรื่องหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา โดยคู่กรณี ขอทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อหน้าศาล มีข้อความตามที่จะกล่าวต่อไปนี้
จำเลยตกลงจะทำการโพสต์ข้อความขอโทษโจทก์ร่วมในเฟซบุ๊กของจำเลยชื่อ "มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์" และโพสต์บันทึกภาพและเสียง(วิดีโอ)ในแอปพลิเคชั่น Tik Tok เป็นเวลาติดต่อกันทุกวัน ตามข้อความตามบันทึกท้ายรายงานกระบวนพิจารณา ฉบับลงวันที่ 21 ม.ค.68 ทั้งนี้ จำเลยได้เริ่มดำเนินแล้วในวันที่ 21 ม.ค.68 คงเหลือระยะเวลาที่ต้องดำเนินการ อีก 14 วัน นับตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค.68
ข้อ 2. เมื่อจำเลยดำเนินการตามข้อ 1. แล้ว จะคงไว้ซึ่งข้อความในเฟซบุ๊ก และบันทึกภาพและเสียง (วิดีโอ) ของจำเลยไว้ในแอปพลิเคชั่น Tik Tok ของจำเลยไว้เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี ยกเว้นมีเหตุปัจจัยอื่นที่ทำให้ข้อความในเฟซบุ๊ก และบันทึกภาพและเสียง (วิดิโอ) ของจำเลยในแอปพลิเคชั่น TIK Tok ของจำเลยตามข้อ 1. สูญหายไปโดยมิใช่ความผิดของจำเลย
ข้อ 3. หากจำเลยไม่ดำเนินการตามข้อ 1. และข้อ 2. หรือดำเนินการไม่ครบถ้วนตามข้อ 1.และข้อ 2. ถือว่าจำเลยผิดนัด ยินยอมชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ร่วมเป็นเงินจำนวน 5,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5 ต่อปี นับแต่วันผิดนัด
ข้อ 4. โจทก์ร่วมและจำเลยตกลงยินยอมตามข้อ 1. ถึงข้อ 3 และไม่ติดใจเรียกร้องสิ่งใดต่อกันอีก
ด้านนายศักดิ์สยาม กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นมาเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และชี้แจงในสภาผู้แทนราษฎร และมีการลงมติแล้ว ซึ่งขณะนั้นนายมงคลกิตติ์ เป็นฝ่ายค้าน รอให้นายมงคลกิตติ์ เมื่อไหร่จะดำเนินการให้เป็นความจริง ซึ่งเมื่อวานนี้ศาลมีการสอบพยาน และนายมงคลกิตติ์ มาทักทาย และขึ้นศาลว่าจะไกล่เกลี่ยกัน ตนไม่ขัดข้อง แต่ต้องทำเรื่องจริงให้ปรากฎ ว่าเรื่องที่กล่าวหากันความจริงเป็นอย่างไร ซึ่งนายมงคลกิตติ์ ยอมรับว่าทุกเรื่องเป็นเรื่องไม่จริง ซึ่งตนเห็นว่านายมงคลกิตติ์ ยอมรับในสิ่งเหล่านี้แล้ว ยินดีจะให้อภัย แต่ว่าประชาชนได้รับทราบข้อมูลที่คลาดเคลื่อนไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว จึงเรียนต่อศาลว่าให้นายมงคลกิตติ์ ช่วยแก้เรื่องนี้ให้ด้วย ทำสัก 15 วัน จริง ๆ มีคนบอกว่าทำไมไม่ทำสัก 10 ปี แต่ตนเห็นว่า 15 วัน เพียงพอแล้ว ให้ทำเพื่อแสดงให้เห็นว่านายมงคลกิตติ์ มีความจริงใจที่จะขอโทษเรื่องนี้ และแก้ไขให้ถูกต้อง
"ที่จริงนายมงคลกิตติ์ เป็น ส.ส. เมื่อสมัยที่ผ่านมา ทำหน้าที่ได้ดี มีคนตามรับฟัง ผมเคยพูดกับนายมงคลกิตติ์ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่าให้ตรวจสอบข้อมูลให้ดี สิ่งเหล่านี้เป็นกรณีศึกษา คนที่ทำหน้าที่ต่อจากนี้ไป ใครก็ตามที่จะกล่าวหาใคร ก็โปรดตรวจสอบข้อมูล เพราะเสียเวลาทั้ง 2 ฝ่าย เสียขื่อเสียงทั้ง 2 ฝ่าย วันนี้ผมก็ดีใจที่นายมงคลกิตติ์ ได้ทำเรื่องนี้ให้คนเข้าใจ หวังว่า นายมงคลกิตติ์ คงไม่ทำอะไรกับผมแบบนี้อีก ในทางการเมือง ทุกคนก็เป็นพี่น้องกัน ผมไม่เคยจะรู้สึกโกรธหรืออะไร ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาถ้าพูดในเรื่องเนื้องาน ไม่เคยดำเนินคดีกับใครเลย แต่นายมงคลกิตติ์ เอาเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่เป็นความจริงมาใช้ จึงจำเป็นต้องดำเนินคดีเพื่อให้เกิดความจริง" นายศักดิ์สยาม กล่าว
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า นายมงคลกิตติ์ ต้องโพสต์ในเพจเฟซบุ๊ก และ ในแอปพลิเคชั่น TIK Tok เป็นเวลา 15 วัน และคงเนื้อหาเอาไว้เป็นเวลา 10 ปี โดยไม่ไปลบข้อความโดยนายมงคลกกิตติ์ เอง หากไปลบจะต้องจ่ายค่าเสียหาย 5 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในเพจเฟซบุ๊ก มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ออกประกาศแถลงขอโทษนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีต รมว.คมนาคม มีข้อความดังนี้
1.ตามที่ข้าพเจ้า live สดเมื่อ 17 เม.ย.64 ใน facebook ของข้าพเจ้ากล่าวในทำนองทำให้บุคคลภายนอกเข้าใจว่าโจทก์ร่วม (นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ) ไปเที่ยวสถานบันเทิงย่านทองหล่อในช่วงปลายเดือน มี.ค.64 ถึงเม.ย.64 ทำให้เกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 และมีผู้ติดเชื้อประมาณ 11,000 คนนั้น ไม่เป็นความจริง
2.ต่อมาวันที่ 24 เม.ย.64 ข้าพเจ้าได้โพสต์ภาพและข้อความใน facebook มีรูปภาพของโจทก์ร่วม (นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ) ขณะเล่นเจ็ตสกี ขณะทานอาหารและร้องเพลงอยู่ในคาราโอเกะ ในลักษณะทำให้บุคคลอื่นเข้าใจว่าโจทก์ร่วมไปเที่ยวและไปทานอาหาร พร้อมร้องเพลงในสถานบันเทิงย่านทองหล่อ ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 และทางราชการห้ามรวมกลุ่ม ไม่เป็นความจริง
3.ตามที่ข้าพเจ้าโพสต์ facebook เมื่อวันที่ 27 เม.ย.64 ในลักษณะที่ทำให้บุคคลอื่นเข้าใจว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ และหญิงอื่น มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาว และหญิงอื่นได้รับทรัพย์สินจากโจทก์ร่วม ไม่เป็นความจริง
4.เมื่อวันที่ 1 พ.ค.64 ตามที่ข้าพเจ้าได้ให้สัมภาษณ์ทีวี PPTV36 ให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ดำเนินคดีกับโจทก์ร่วมเป็นต้นเหตุของการแพร่ระบาดโควิด-19 ไม่เป็นความจริง
ตามไลฟ์สดและการโพสต์ภาพและข้อความดังกล่าวข้างต้น เป็นการนำข้อเท็จจริงที่คลาดเคลื่อนและเข้าใจผิดของข้าพเจ้ามาเผยแพร่ทำให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เสียชื่อเสียงต่อตนเองและวงศ์ตระกูล
ต่อมาพนักงานอัยการจังหวัดบุรีรัมย์ได้ฟ้องคดีข้าพเจ้าในความผิดฐานหมิ่นประมาทต่อศาลจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.1885/2567 ศาลได้นัดสืบพยานโจทก์วันนี้ และได้ทำการไกล่เกลี่ย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ โจทย์ร่วมและข้าพเจ้า เนื่องจากศาลเห็นว่าเป็นความผิดอันยอมความได้
ข้าพเจ้าได้ทำการขอโทษ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ว่าข้าพเจ้าได้กระทำการก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ตามคำฟ้องจริง และจะทำการเผยแพร่ข้อความ "ขอโทษ" นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ใน facebook และ TikTok ส่วนตัว ของข้าพเจ้าเป็นเวลา 15 วันนับแต่วันนี้
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ได้กรุณาให้อภัยในสิ่งที่ข้าพเจ้าได้กระทำตามกล่าวข้างต้น หากข้าพเจ้าได้ดำเนินการโพสต์ใน facebook และ TikTok ตามกำหนดข้างต้น และจะแถลงถอนคำร้องทุกข์ต่อศาลจังหวัดบุรีรัมย์ในส่วนคดีอาญาและไม่ติดใจเรียกร้องค่าเสียหายจากในส่วนคดีแพ่งในวันนี้
ข้าพเจ้าในฐานะจำเลยและเป็นผู้มีอาวุโสน้อยกว่า ขอขอบคุณท่านศักดิ์สยาม ชิดชอบ ที่ให้ความกรุณาอภัยให้กับข้าพเจ้าในสิ่งที่ข้าพเจ้ากระทำละเมิดข้างต้น ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้