18 ปีที่รอคอยคู่รักเจ้าของธุรกิจคลินิกแพทย์แผนไทย จดทะเบียนสมรสเท่าเทียม
เจ้าของธุรกิจคลินิกแพทย์แผนไทย ในอำเภอสวี จ.ชุมพร จูงมือกันจดทะเบียนสมรสคู่ที่ 2 ที่อำเภอเมืองชุมพรพร้อมเผยครองรักกันนาน 18 ปี ตั้งแต่สมัยเรียนชั้นมัธยมจบมหาวิทยาลัยสร้างธุรกิจทำงานอยู่ด้วยไม่เคยห่างไม่คิดว่าวันนี้มีโอกาสจดทะเบียนสมรสหลังจากรอมา 18 ปี
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 23 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ว่าการอำเภอเมืองชุมพร จ.ชุมพร นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าฯจ.ชุมพร นายนวรัตน์ วงศ์ปิ่นเพ็ชร นายอำเภอเมืองชุมพร พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร เดินทางร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีสมรสเท่าเทียม โดยมีคู่รักเดินทางทยอยเข้าร่วมจดทะเบียนสมรสที่มีความประสงค์แจ้งลงทะเบียนเบื้องต้นแล้วประมาณ 20 คู่
สำหรับบรรยากาศช่วงเช้าบริเวณห้องทะเบียนชั้น 1 ที่ว่าการอำเภอเมืองชุมพรเต็มไปด้วยความอบอุ่นหอมหวนไปด้วยความรักความชื่นมื่นของคู่รักเองและของเจ้าหน้าที่ส่วนราชการที่เดินทางมาเป็นสักขีพยานการจดทะเบียนสมรสในครั้งนี้ โดยนายเธียรชัยฯ ผู้ว่าฯจ.ชุมพร กล่าวคำอวยพรให้คู่รัก พร้อมเปิดเผยว่า กว่า 20 ปีที่มีการผลักดันเรื่องจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม ต่อไปจะไม่มีคำว่าสมรสชายหญิง ถือว่าเป็นการจดทะเบียนครั้งประวัติศาสตร์ประเทศไทยเป็นประเทศที่ 37 ของโลก เป็นประเทศแรกในอาเซียน และเป็นประเทศที่สามของทวีปเอเชียรองจากประเทศไต้หวันและเนปาล ขอแสดงความยินดีกับคู่สมรสทุกคู่และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน สิทธิความเป็นมนุษย์ ความเท่าเทียมความเสมอภาคเป็นเรื่องสำคัญ
ทั้งนี้จังหวัดชุมพรเปิดระบบ มีคู่สมรสหลายคู่ต่างแสดงความประสงค์เข้ามาวอร์คอินมาแล้วเบื้องต้นประมาณ 20 คู่ หลังจากนี้ยังสามารถเดินทางมาจดทะเบียนสมรสได้ทุกวันในเวลาราชการ ปัจจัยสำคัญในการใช้ชีวิตคู่หมายถึงทุกเพศสภาพ ต้องเห็นใจกันเอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าทำได้อย่างอื่นไม่มีปัญหา” ผู้ว่าฯจ.ชุมพร กล่าวไว้
ด้านน.ส.ภคพร บุญเอื้อ อายุ 31 ปี และน.ส.นราทิพย์ โสมสุข อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79/4 หมู่ 5 ตำบลครน อ.สวี จ.ชุมพร เจ้าของคลินิกแพทย์แผนไทย คู่รักที่เดินทางมาจดทะเบียนสมรสเท่าทียมเป็นคู่ที่ 2 ของวันแรก ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองชุมพร กล่าวว่า ทั้งสองพบรักกันตั้งแต่เรียนระดับชั้นมัธยมในอำเภอสวี จบออกมาก็ไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยทางภาคเหนือด้วยกันจบการศึกการก็มาเปิดคลีนิคแพทย์แผนไทยอยู่ด้วยกันตลอดมา
หลังจากที่มีประกาศให้มีสมรสเท่าเทียมดีใจสุดๆรอวันนี้มานาน 18 ปี ก่อนหน้านี้คิดว่าคงไม่มีโอกาสถ้าเมืองไทยไม่มีการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมตั้งใจว่าจะเดินทางไปจดทะเบียนสมรสที่ต่างประเทศ แต่การใช้ชีวิตคู่หลังจากนี้ก็ปกติเหมือนที่ผ่านมา ประสบการณ์เมื่อ 2 ปีก่อนตอนที่ไม่มีใบทะเบียน คู่สมรสเคยไปผ่าตัดไปเซ็นต์เอกสารเจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่มีผลทางกฎหมาย ขณะนั้นตนเองอึ้งไปเหมือนกัน หลังจากนี้ใบทะเบียนสมรถเป็นการช่วยยืนยันมีสิทธิต่างๆทางกฎหมายได้แล้ว สิ่งที่สำคัญในการใช้ชีวิตคู่กันมายาวนานถึง 18 ปี เราสองคนเข้าใจกัน และทะเลาะกันน้อยมากคือยอมกัน” น.ส.ภคพรและน.ส.นราทิพย์ฯ เผยถึงการใช้ชีวิตคู่