กมธ.ความมั่นคงฯ เชิญหน่วยงานขายไฟชายแดน หารือต้นตอแก๊งคอล ถามมท. มีอำนาจตัดทำไมไม่ทำ
GH News January 23, 2025 01:24 PM

กมธ.ความมั่นคงฯ เชิญหน่วยงานไฟฟ้า หารือต้นตอแก๊งคอล ถามมท. มีอำนาจตัดไฟทำไมไม่ทำ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 23 มกราคม ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมกมธ. ว่า วันนี้จะเป็นการพิจารณาปัญหาตามแนวชายแดนทั้งแก๊งคอลเซนเตอร์ ยาเสพติด โดยที่จะโยงกลับมาที่ทรัพยากรของประเทศเรา ที่ป้อนให้กับกระบวนการอาชญากรข้ามชายเหล่านี้คือไฟฟ้า ซึ่งกมธ.ได้เชิญกระทรวงมหาดไทย สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) รวมถึงการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแม่สาย

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า อย่างการไฟฟ้าแม่สายอาจสัมพันธ์กับเรื่องเครือข่ายยาเสพติด และสัมพันธ์เปิดบริษัทนอมินีเพื่อมารับสัญญาแทนบริษัทเดิมที่มีข่าวว่าจะเปลี่ยนบริษัท นั่นหมายความว่าทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคดูแล้วว่ายังคงที่จะขายไฟฟ้าให้กับประเทศเพื่อนบ้านหรือบริษัทที่อาจจะมีพิรุธว่าเกี่ยวข้องกับเครือข่ายอาชญากรข้ามชาติ

นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า ดังนั้น วันนี้เราคงพยายามพูดคุยและหาแนวทางข้อสรุป และเราได้ข้อมูลใหม่ๆ ว่าตั้งแต่ยุคนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี จริงๆ เคยมีคำสั่งให้ทบทวนในการพิจารณาตัดสาธารณูปโภคพื้นฐานต่างๆ แล้ว และมีคำสั่งของกระทรวงมหาดไทยในการพิจารณาว่าให้ติดตามตามมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ดังนั้นมีคำสั่งหลายอย่างที่ควรจะเดินหน้าได้ แต่ติดอะไร ทำไมถึงกลายเป็นว่าการที่พิจารณาตัดไฟถึงยากขนาดนี้ ทั้งที่หลักฐานประจักษ์ชัดแจ้ง

“ผมจึงอยากตั้งคำถามไปถึงการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคว่าท่านสามารถที่จะดำเนินการตัดได้เลย ผมอยากจะตั้งหลักว่า ที่ผ่านมากฟภ.จะบอกว่าก่อนเขาจะเปิดหรือขายต้องไปถามหน่วยงานความมั่นคงอะไรต่างๆ แต่เมื่อเขาจะตัดก็ต้องถามหน่วยงานความมั่นคงย้อนกลับมา ซึ่งถามว่าเป็นสิ่งที่กฎหมายกำหนดหรือไม่นั้น ไม่ใช่ กฎหมายไม่ได้เขียนกำหนดไว้ให้ทำเป็นแค่สิ่งที่กฟภ.บอกว่าจะทำ ดังนั้น การที่ประเทศไทยยังต้องอยู่กับแก๊งคอลเซนเตอร์ โดยที่กฟภ.ขายไฟให้ ผมคิดว่ากฟภ. ต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ และวันนี้ผมจะถามว่ากฟภ. ยืนยันสิ่งเดิมที่ตัวเองดำเนินมาตลอดใช่หรือไม่” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ฝากไปยังนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่าเรื่องนี้กระทรวงมหาดไทยในฐานะดูแลกฟภ. มีอำนาจในการดำเนินการได้เลย และตนคิดว่าท่านน่าจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ อย่าให้คนซุบซิบนินทาว่าสุดท้ายท่านอาจจะมีส่วนร่วมกับกระบวนการหรือเครือข่ายอาชญากรข้ามชาติไปด้วย

เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่ทหารเมียนมาระบุว่าการปราบแก๊งคอลเซนเตอร์ในเมียนมาไม่สำเร็จ เพราะมีประเทศเพื่อนบ้านคอยส่งไฟเข้าไป นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เห็นได้ชัดว่าแม้กระทั้งประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นสถานที่ตั้งแก๊งคอลเซนเตอร์ ซึ่งตนเข้าใจว่าทหารเมียนมาโดยทางปฏิบัติเขาไม่สามารถปราบได้จริงๆ เพราะพื้นที่ตรงนั้นเป็นพื้นที่เขตอิทธิพลของชนกลุ่มน้อย ดังนั้น การปราบปรามคงไม่ง่าย และสิ่งที่รัฐบาลทหารเมียนมาพูดมาเป็นการคอนเฟิร์มว่าปัญหาที่ตนพูดมาทั้งหมด ตั้งแต่อภิปรายในสภาฯ เป็นประธานกมธ. พยายามแนะนำให้ข้อเสนอแนะกับหน่วยงานรัฐทางกฟภ. ว่าเราต้องตัดไฟ เป็นการคอนเฟิร์มว่าจริง

“เราต้องทบทวนตัวเองว่าน่าละอายขนาดไหนที่เราปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น เราไม่ใช่แค่แบตเตอรี่ธรรมดา แต่มีส่วนสำคัญในหลายส่วนที่สร้างแก๊งคอลเซนเตอร์ขึ้นมา และนี่คือปัญหาที่ประเทศไทยต้องปราบได้แล้ว ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นในแต่ละวันมีคนตายจำนวนมาก รัฐบาลรับผิดชอบไม่ไหว” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า บริษัทที่เป็นคู่สัญญากับการไฟฟ้าเป็นบริษัท เช่นที่แม่สอดเป็นบริษัทที่เป็นนอมินีของหม่องชิตตู ซึ่งเป็นผู้นำคนสำคัญของ KNA ซึ่งเป็นที่ตั้งของคอลเซนเตอร์ ไฟฟ้าเหล่านี้ถูกไปจำหน่ายให้แก๊งคอลเซนเตอร์ ดังนั้น การขายไฟที่บอกว่าบริษัทตัวแทนของรัฐบาลเมียนมาก็ถูกส่วนหนึ่ง แต่การเมืองภายในของเขาต้องยอมรับว่าเป็นการเมืองที่ล้มเหลว และสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นสงครามกลางเมืองไปแล้ว นายอนุทินต้องเข้าใจ และที่ตนเคยเปิดในสภาว่ามีหนังสือที่ตามมาที่กระทรวงมหาดไทยโดยอ้างถึงว่าเป็นมติครม. คำถามคือมติครม.กระทรวงมหาดไทยไม่ต้องทำตามใช่หรือไม่ แล้วปลัดกระทรวงก็เห็นหนังสือว่าเคยส่งตามไปเช่นเดียวกัน ทำไมการไฟฟ้ายังขายต่อ ตนจึงคิดว่าการตัดไฟตัดได้แต่ที่ตัดไม่ได้เพราะผลประโยชน์หรือไม่

เมื่อถามว่า เรื่องบัญชีม้ามีข้อมูลเพิ่มเติมหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ข้อมูลล่าสุดมีประมาณเกือบล้านบัญชี ดังนั้น ต้องคอนเฟิร์มว่าตกลงจำนวนบัญชีม้ามีเยอะตามข่าวหรือไม่ ส่วนเรื่องปราบปรามต้องจริงจัง และความรับผิดชอบของหน่วยงานธนาควรต่างๆ ที่มีส่วนสำคัญในการปล่อยให้มีการเปิดบัญชีม้า แต่เรื่องนี้ต้องพูดคุยกับหน่วยงานที่มีอำนาจรับผิดชอบโดยตรง ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย หรือปปง. ต่อไป และในอนาคตจะมีการพูดคุยเรื่องฟรีวีซ่าว่าเราอาจจะต้องมีการทบทวน หรือมีมาตรการหรือไม่ บางพื้นที่อาจจะต้องขอวีซ่าใหมีอีกรอบ ไม่ถึงขนาดเรียกว่าวีซ่าอาจจะเป็นการขออนุญาตการเดินทางก็ได้แล้วแต่จะออกแบบระบบอย่างไร

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.