ทช.เตรียมซ่อม ‘สะพานพุทธ’ หลังกลางปี’68 เร่งทำ TOR หาผู้รับจ้าง ตั้งงบ 350 ล้าน ยกระดับคมนาคมขนส่งทั้งทางบก-ทางน้ำ เพิ่มความปลอดภัยให้ปชช.
เมื่อวันที่ 23 มกราคม นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า ปัจจุบันกรมทางหลวงชนบท (ทช.) อยู่ระหว่างการเตรียมดำเนินโครงการบูรณะและปรับปรุง สะพานพระพุทธยอดฟ้า กรุงเทพมหานคร เพื่อบูรณะซ่อมแซมให้สะพานมีความมั่นคงแข็งแรงในการใช้งาน เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนที่สัญจรบนสะพาน พร้อมอำนวยความสะดวกในการคมนาคมทางน้ำให้สามารถสัญจรลอดผ่านใต้สะพานได้อย่างปลอดภัย
นายมนตรีเผยว่า ขณะนี้โครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการจัดทำแบบ ประมาณราคา จัดทำขอบเขตของงานจ้าง (TOR) จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง และเซ็นสัญญาต่อไป โดยคาดว่าจะได้ผู้รับจ้างประมาณเดือนพฤษภาคม 2568 และคาดว่าจะเริ่มเข้าพื้นที่ดำเนินการได้ในช่วงหลังกลางปี 2568 เป็นต้นไป
อธิบดีกรมทางหลวงชนบทให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า สะพานพระพุทธยอดฟ้าเป็นสะพานเหล็กโบราณที่มีอายุมากว่า 92 ปี เชื่อมระหว่างเขตพระนครกับเขตธนบุรี ซึ่งระบบเปิด-ปิดสะพานได้ถูกยกเลิกเนื่องจากการเสื่อมสภาพของโครงสร้างและการใช้งานเกินพิกัดน้ำหนักบรรทุก โดยในปัจจุบันยังมีเรือบรรทุกสินค้าและเรือขนาดใหญ่ลอดผ่านใต้สะพานเป็นประจำ ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุเรือชนท้องสะพานอยู่บ่อยครั้ง
“เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าวและเสริมความมั่นคงแข็งแรงให้กับสะพานที่เกิดการเสื่อมสภาพ ยกระดับการคมนาคมขนส่งทั้งทางบกและทางน้ำ เพิ่มความสะดวกปลอดภัยในการเดินทางให้กับประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม ทช.ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ศึกษาตรวจสอบสภาพความเสียหายและทดสอบพฤติกรรมการรับน้ำหนักของสะพาน ผลปรากฏว่าโครงสร้างสะพานมีระดับความเสียหายในระดับที่มีผลกระทบต่อกำลังความสามารถในการรับน้ำหนักบรรทุก
การซ่อมบำรุงรักษาสะพานจะประกอบด้วย การเสริมกำลังรับน้ำหนักบรรทุกของโครงสร้างสะพาน ปรับปรุงจุดต่อของโครงสร้างสะพาน ซ่อมแซมโครงสร้างเหล็กภายในตอม่อที่เกิดการชำรุด ซ่อมแซมฐานรองรับสะพาน (Pot Bearing) และปรับปรุงพื้นสะพานแทนของเดิมที่มีการแตกร้าวและเริ่มเสื่อมสภาพ คาดว่าจะใช้งบประมาณในการดำเนินงาน 350 ล้านบาท เป็นงบผูกพันระยะเวลา 3 ปี (2568-2570)” อธิบดี ทช.ระบุ
อธิบดี ทช.ระบุด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่มีการบูรณะซ่อมแซมสะพานพระพุทธยอดฟ้า ประชาชนสามารถใช้ สะพานพระปกเกล้า ทดแทนได้ โดยในอนาคต ทช.จะมีการประชาสัมพันธ์แจ้งให้ประชาชนได้รับทราบล่วงหน้าอีกครั้งต่อไป