พีท ทองเจือ โต้ข่าวรีโนเวตบ้าน 100 ล้านบาท คืบหน้าแล้ว 90% ยอมรับมูลค่าสูง แต่ไม่ถึง 3 หลัก ชี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเป็น ‘สามี-พ่อ’ ตัวอย่าง หยอดคำหวาน ‘เจ็ง’ ตอนนี้ตกหลุมรักอีกครั้ง

เป็นอีกหนึ่งครอบครัวตัวอย่างที่น่ารักมาก สำหรับ พีท ทองเจือ และภรรยาสุดสวย เจ็ง วิไลลักษณ์ ที่มีโซ่คล้องใจ 3 คน นั่นก็คือสองสาว เซย่า-มิย่า และลูกชายคนเล็ก น้องโรเตอร์ ที่โปรไฟล์แต่ละคนเรียกว่าครบเครื่อง ซึ่งตอนนี้ขยับขยายกำลังสร้างบ้านหลังใหม่ได้ 90% แล้ว คาดว่าอีก 2-3 เดือนพร้อมเข้าอยู่

ล่าสุดวันนี้ (23 มกราคม) ไทยพีบีเอส บวงสรวงละคร 3 เรื่อง ซึ่ง “พีท ทองเจือ” มาร่วมงานและเป็นหนึ่งในนักแสดงของเรื่อง “ฝันของฉันคือฟันดาบ” จากนั้นให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงงานแสดง เผยถึงเรื่องการสร้างบ้าน และแชร์เคล็ดลับในการเป็นคุณพ่อและสามีที่ดี

เป็นผลงานการแสดงในรอบกี่เดือน?
“ผมแสดงเรื่อยๆ แต่ว่าช่วงหลังเรื่องที่แสดงส่วนมากออกไปอยู่ในแพลตฟอร์มอื่น เลยไม่ค่อยเห็นในทีวีเท่าไหร่ จะไปอยู่ที่อเมซอนไพร์ม 3 เรื่องติดแล้ว มีผลงานตลอด ล่าสุดก็มีช่องเวิร์คพอยท์ เรื่องเถ้ากระดังงา”

ในปีนี้จะมีผลงานการแสดงให้แฟนๆ ได้ชมกันอีกไหม?
“ก็มีอีกเรื่อยๆ ครับ ด้วยระบบของวงการบันเทิงเปลี่ยนไปเยอะ มีสตรีมมิ่ง มีแพลตฟอร์มต่างๆ ทำให้การกระจายการมองเห็นของเรามันออกไปในพื้นที่ที่กว้างกว่า แต่ในความแคบของการมองเห็นปกติทุกคนจะได้ดูทางช่องหลัก แต่ตอนนี้ช่องหลักน้อยลง”

คิดยังไงที่วงการบันเทิงเปลี่ยนไป มีแพลตฟอร์มต่างๆ เข้ามาเยอะมาก?
“ผมทำงานมาตั้งแต่ช่อง 4 บางขุนพรหม เป็นทีวีขาว-ดำ ต้องใช้มือเดินไปหมุนตรงโทรทัศน์เพื่อเปลี่ยนช่อง จนมาถึงยุคนี้เป็นซุปเปอร์ดิจิทัลไปแล้ว แล้วก็เป็นสตรีมมิ่ง สัญญาณลอยอยู่ในอากาศ ทุกคนดูทุกอย่างได้ 24 ชั่วโมง แค่หยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาดู ไม่ว่าคนดูหรือคนทำงานทุกคนต้องปรับตัวให้ทัน ใครตามไม่ทันก็จะถูกทิ้งไว้ด้านหลัง ต้องปรับตัวไปเรื่อยๆ แม้ทีมโปรดักชั่น หรือวิธีแนวความคิดในการนำเสนอ คอนเทนต์ต่างๆ เยอะมาก การแข่งขันสูงมาก ถ้าวิธีนำเสนอไม่น่าสนใจ เราจะถูกเลื่อนผ่านไปทันที ดีนะเนื้อหาเยอะ แต่ทุกอย่างต้องมีความแข็งแรงด้วยในเรื่องของคอนเทนต์แล้วก็เนื้องาน”

อัพเดตเรื่องบ้านใกล้เสร็จยัง?
“เป็นบ้านที่สาวๆ ที่บ้าน ลูกสาวและคุณเจ็งเป็นคนทำกัน ผมเป็นแค่ผู้ช่วยเฉยๆ (กี่เปอร์เซ็นต์แล้ว?) 90 เปอร์เซ็นต์แล้วครับ”

มีการรีเควส การรีโนเวตเยอะไหม?
“ผมไม่มีส่วนอะไรเลย ให้เขาเลือกแล้วก็ตัดสินใจทำทุกๆ อย่างกันเอง เราแค่ซัพพอร์ตเฉยๆ”

งบเป็นหลัก 100 ล้านเลยไหม?
“ไม่ขนาดนั้น เพราะเราใช้บริษัทใหญ่ทำงาน จะมีตัวเลขที่ค่อนข้างชัดเจน ให้คำแนะนำสำหรับคนที่จะทำบ้านนะครับ อาจจะมีเพื่อนที่มีผู้รับเหมา หรือคนสนิทก็ดี แต่ลักษณะนั้นสุดท้ายปัญหาคืองบจะบานปลาย ถ้าทำงานกับบริษัทใหญ่ๆ ตัวเลขทุกอย่างจะอยู่บนโต๊ะแล้วก็จะจบบนโต๊ะ แล้วก็ไม่มีอะไรมากกว่านั้นด้วย”

บริษัทคุมให้เรา?
“ใช่ๆ เหมือนมีคนคุมบัดเจตให้ ผมว่ามันดีกว่า เราเห็นตัวเลขที่ชัดเจนแน่นอน”

ตอนไปตรวจบ้านเจอปัญหาจุกจิกอะไรไหม?
“ไม่เลย เพราะที่บ้านเป็นบ้านตัวอย่างที่ทางบริษัทขอ สมมุติมีลูกค้าอยากมาดูบ้านของเรา เป็นการบีบบังคับให้เขาทำให้ดีที่สุดด้วย เวลาไปเช็กบ้าน ช่างบอก โห! วันก่อนมีรถตู้มา 5-6 คัน คนมาที่บ้านเป็นร้อยครับ พามาทัวร์ดูบ้าน มาดูความเรียบร้อยในการสร้างว่าเป็นยังไงบ้าง ผมบอกรอบหน้าผมจะเอาหมูปิ้ง เอาก๋วยเตี๋ยวมาจอดขายข้างหน้า คนมาดูเยออะมาก”

ตอนนี้ระยะเวลานานแค่ไหนแล้วในการสร้าง?
“ทำมาเกือบปีเองครับ ถือว่าเร็วครับ เหลืออีกนิดนึงขั้นตอนตกแต่งก็เสร็จแล้ว”

คาดว่าจะเสร็จเมื่อไหร่?
“เร่งมากเลยครับ อยากให้อยู่ภายใน 2-3 เดือนนี้ให้ได้ (อาจจะก่อนสงกรานต์?) จะพยายามครับ น้องเซย่าเพิ่งกลับมาจากอังกฤษด้วย ตอนแรกมีความหวังว่าน้องกลับมาจากอังกฤษจะได้มาอยู่บ้านใหม่เลย สรุปต้องรออีกนิดนึง”

ลูกๆ กับภรรยาตื่นเต้นกันไหมกับบ้านหลังใหม่?
“ก็สนุกในการเลือกของ ก็ให้สาวๆ เขาทำงานกัน (แสดงว่าคุณพ่อตามใจ?) ทุกอย่างครับ ที่บ้านเดินเข้าไปแทบจะไม่มีอะไรที่เราเป็นคนเลือกสักชิ้นเลย เพราะสไตล์ผม ผมชอบเป็นแวร์เฮาส์ เป็นโกดัง เป็นลอฟต์ มันไม่ตรงกับสไตล์ใครเลย เราเลยเป็นคนถอยออมาแล้วให้เขาเลือก”

มีส่วนไหนในบ้านที่เรารีเควสเป็นพิเศษไหม?
“ไม่มีเลยครับ โรงรถก็ถูกลูกชายยึดไป ตอนแรกคิดว่าเราจะได้โรงรถนะ มีห้องทำงานอยู่กับรถที่เราชอบ แต่ปรากฏว่าเขาดึงไปทำหมดเลย ผมก็โอเค ไม่เป็นไร อาจจะเป็นสวน (หัวเราะ)”

ยืนยันว่างบไม่ถึง 100 ล้าน?
“ไม่มีครับๆ อย่างที่บอกว่ามันเป็นแค่การเปลี่ยนบ้านเฉยๆ จากบ้านหลังเก่าเปลี่ยนเป็นบ้านหลังนี้ เผอิญมีมูลค่าค่อนข้างสูง เราแค่เปลี่ยนที่อยู่เป็นอีกหลังนึง ใช้คำว่าไม่เดือดร้อนมาก”

รู้สึกยังไงบ้างที่หลายคนยกให้เป็นคุณพ่อตัวอย่างกับสามีตัวอย่าง?
“มันไม่ใช่เรื่องง่าย หน้าบ้านอาจจะดูโอเค แต่หลังบ้านทุกๆ วันยังอยู่ในขั้นตอนของการพยายามอยู่ในความเป็นผู้นำครอบครัว เป็นสามีหรือเป็นคุณพ่อ ไม่มีเรื่องใดง่ายเลยครับ เพราะว่าน้องๆ ก็กำลังเป็นวัยรุ่นเต็มตัว สังคมก็เหมือนไปเร็ว เราก็ไม่อยากให้น้องเขาถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ขณะเดียวกันก็อยากให้เขาเรียนรู้ในการใช้ชีวิตโดยที่ไม่มีเราให้ได้ด้วย การเป็นพ่อกับการดูแลภรรยาก็ไม่ใช่ง่ายๆ เหมือนกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างอยู่ ปล่อยให้เขาอยู่ตามมีตามเกิด พยายามดูแลให้ดีที่สุด ค่อนข้างยาก ไม่ได้ง่ายเลยครับ”

มีเคล็ดลับเติมความหวานยังไงกับคุณภรรยาบ้าง?
“จริงๆ แล้วเวลาผ่านไปอย่าให้ทุกๆ อย่างที่มันเคยดีจืดชืดลงไป ถ้าเรามีเวลาว่างเราจะนึกถึงวันที่เราได้เจอกันวันแรก แล้วเราจะพยายามรักษาบรรยากาศนั้น หรือว่าถ้ามันหายไปก็พยายามเอามันกลับมาให้ได้ ไม่ใช่อยู่ไปแล้วเริ่มต่างคนต่างอยู่ แยกกัน หรือว่าคุยกันน้อยลง ความรู้สึกผมคือเหมือนเพิ่งจีบกัน เรายังมีความพยายามที่จะทำให้เราประทับใจแล้วก็ชื่นชมเราในความเป็นสุภาพบุรุษ เป็นสิ่งที่เราพยายาม ไม่ใช่อยู่กันมานานแล้ว ไม่ต้องทำสิ่งเหล่านี้ เรายังดูแลอยู่ เดินไปขึ้นรถด้วยกัน เรายังไปเปิดประตูให้เขา ให้เขาขึ้นไปนั่งบนรถปิดประตูให้ เขาหนาวก็หาเสื้อหนาวมาใส่ให้เวลาอยู่ข้างนอก ก็ยังดูแลเหมือนเป็นแฟนวันแรกๆ”

สม่ำเสมอมาตลอด?
“ใช่ มันก็จะมีไทม์ไลน์ที่ตอนเลี้ยงน้องที่พี่รู้สึกว่าด้วยกิจกรรมของน้องอาจทำให้เราห่างกัน แต่ว่าสุดท้ายแล้วพอยิ่งช่วงที่น้องเซย่าไปอังกฤษ เริ่มรู้สึกว่าคนในครอบครัวเริ่มโต เริ่มมีชีวิตของตัวเองแล้ว สิ่งที่เราฉุกคิดขึ้นมาได้ เราควรที่จะต้องใช้เวลาทั้งหมดหันกลับไปสนใจภรรยาให้เยอะขึ้น น้องๆ เริ่มโตขึ้น เริ่มไปทำงานมีชีวิตส่วนตัว สุดท้ายก็จะเหลือแค่พ่อกับแม่ ไม่ใช่พอถึงเวลาเหลือ 2 คนแล้ว แม่ก็ไปมีกิจกรรมของแม่ พ่อก็ไปมีกิจกรรมของพ่อ ไปตีกอล์ฟ ต่างคนต่างอยู่ ไม่ได้ ถ้าถามความรู้สึกตอนนี้นะ ตกหลุมรักเขาอีกทีนึง”