อธิบดีป้ายแดง ‘นุสรา’ กางแผนขับเคลื่อนทรัพย์สินทางปัญญาปี 68 หนุนโทเคน-เพิ่มคุ้มครองนักแสดง
เมื่อวันที่ 23 มกราคม น.ส.นุสรา กาญจนกูล อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยถึงแผนงานกรมทรัพย์สินทางปัญญาในปี 2568 ว่า ปี 2568 เน้นขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ สู่การสร้างงาน สร้างรายได้ และพัฒนาระบบเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน โดยนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อให้บริการ เช่น บริการเร่งรัดสิทธิบัตรมุ่งเป้าในสาขานวัตกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นเทรนด์ธุรกิจแห่งอนาคต เพิ่มจากเดิมที่มีสาขานวัตกรรมทางการแพทย์และนวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต
ทำให้การจดสิทธิบัตรในสาขาดังกล่าวรวดเร็วและต่อยอดธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การจัดทำ Big Data สิทธิบัตร โดยนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาช่วยวิเคราะห์ เปรียบเทียบ ค้นหา ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการได้รับสิทธิบัตรเร็วขึ้น นอกจากนี้ กรมมีแผนลงนาม MOU พัฒนาแพลตฟอร์ม Flips.IP กับภาคเอกชน ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้เจ้าของลิขสิทธิ์เข้าถึงแหล่งเงินทุน ที่อาจอยู่ในรูปแบบการระดมทุน (Investment Token) หรือใช้ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นหลักประกันการกู้ยืมเงินกับสถาบันการเงิน
น.ส.นุสรา กล่าวต่อว่า ด้านปกป้องคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของคนไทย ได้จัดทำโครงการ Trademark Monitor เพื่อเฝ้าระวังการนำเครื่องหมายการค้าของคนไทยไปจดทะเบียนต่างประเทศ โดยไม่สุจริต โดยเฉพาะ MSME ที่มีแผนการขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศ รวมทั้งให้ความรู้ คำแนะนำ และวิธีป้องกันหากถูกละเมิดเครื่องหมายการค้าในต่างประเทศ ในส่วนการป้องปรามการละเมิดทรัพย์สิน ทางปัญญาบนอินเทอร์เน็ต กรมร่วมมือกับเจ้าของสิทธิ์ เจ้าของแพลตฟอร์ม E-commerce และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระงับและปิดกั้นเว็บไซต์จำหน่ายสินค้าละเมิดอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับคู่ค้า นักลงทุน เจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา และป้องกันไม่ให้สินค้าละเมิดถูกนำกลับมาจำหน่ายในท้องตลาดอีก รวมทั้งบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการจับกุม กวาดล้างการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทั่วประเทศอีกด้วย โดยมีหมุดหมายสำคัญในการเดินหน้านำพาประเทศไทยให้หลุดจากบัญชี WL หรือบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง (Watch List)
“ปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย ขณะนี้มีร่างพ.ร.บ.สิทธิบัตร อยู่ระหว่างการรับฟังความเห็นก่อนเสนอเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ร่างพ.ร.บ. คุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์และร่าง พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ อยู่ระหว่างเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี และกรมอยู่ระหว่างเตรียมการยกร่างกฎหมายการจัดเก็บค่าตอบแทนการใช้งานอันมีลิขสิทธิ์และสิทธิของนักแสดง เพื่อตอบรับนโยบาย soft power ของรัฐบาล เพื่อให้การจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์มีความโปร่งใส สะดวกแก่ผู้ใช้งาน และมีมาตรฐานเท่าเทียมกับต่างประเทศ” นางสาวนุสรา กล่าว
น.ส.นุสรา กล่าวว่า ด้านนโยบาย Soft Power กรมร่วมมือกับองค์การสวนสัตว์ มุ่งพัฒนาการสร้างคาแรคเตอร์ให้กับหมูเด้ง ให้มีความแข็งแกร่งสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับสินค้าและบริการของไทย การจัดงาน Bangkok Music City 2025 เพื่อเป็นเวทีให้ศิลปินไทยได้แสดงความสามารถและเปิดพื้นที่เจรจาธุรกิจกับนักลงทุน ด้านการส่งเสริมการใช้ประโยชน์ทรัพย์สินทางปัญญาในเชิงพาณิชย์ กรมคงเดินหน้าเสริมสร้างความรู้ ด้านทรัพย์สินทางปัญญาเชิงรุก ผ่านศูนย์ IPAC ให้คำปรึกษาด้านทรัพย์สินทางปัญญาเชิงลึกแก่ผู้ประกอบการ และผ่านรายการสาระบันเทิง ในรูปแบบเกมโชว์ เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการขยายสินค้าสู่ตลาดสากล ต่อยอดสินค้าชุมชนในแหล่งท่องเที่ยวด้วยทรัพย์สินทางปัญญา ตั้งเป้าสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ไม่น้อยกว่า 150 ล้านบาท และส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ ไม่น้อยกว่า 20,000 ราย
พร้อมกันนี้ กรมเดินหน้าปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย ขณะนี้ มี ร่าง พ.ร.บ.สิทธิบัตร ซึ่งอยู่ระหว่างการรับฟังความเห็นก่อนเสนอเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ร่าง พ.ร.บ. คุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ และร่าง พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ อยู่ระหว่างเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี และขณะนี้ กรมอยู่ระหว่างเตรียมการยกร่างกฎหมายการจัดเก็บค่าตอบแทนการใช้งานอันมีลิขสิทธิ์และสิทธิของนักแสดง เพื่อตอบรับนโยบาย soft power ของรัฐบาล เพื่อให้การจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์มีความโปร่งใส สะดวกแก่ผู้ใช้งาน และมีมาตรฐานเท่าเทียมกับต่างประเทศ
การสร้างความร่วมมือและยกระดับการพัฒนาทรัพย์สินทางปัญญาไทยในเวทีการค้าระหว่างประเทศ กรมมีกำหนดลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับสำนักงานกำกับดูแลตลาดแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (SAMR) เพื่อพัฒนาความร่วมมือด้านการบังคับใช้สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาทั้งออฟไลน์และออนไลน์ การเจรจา FTA ในประเด็นทรัพย์สินทางปัญญา เช่น ไทย-สหภาพยุโรป ไทย-สาธารณรัฐเกาหลี และอาเซียน-แคนาดา เป็นต้น อีกทั้ง ขับเคลื่อนการดำเนินงานระหว่างกรมทรัพย์สินทางปัญญากับสหรัฐอเมริกา เพื่อผลักดันให้ไทยหลุดจากบัญชีประเทศที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ตามมาตรา 301 พิเศษ และระหว่างกรมทรัพย์สิน ทางปัญญากับสำนักงานทรัพย์สินอุตสาหกรรมฝรั่งเศส (INPI)
น.ส.นุสรา กล่าวว่า ในด้านการส่งเสริมสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ปี 2568 กรมการดำเนินการในหลายมิติ ทั้งงานด้านขึ้นทะเบียนสินค้า GI ที่จะขึ้นทะเบียนให้ได้อย่างน้อย 22 สินค้า โดยคาดว่าจะสร้างรายได้ให้กับชุมชนกว่า 6,000 ล้านบาท การผลักดันการขึ้นทะเบียน GI ไทยในต่างประเทศ ในประเทศญี่ปุ่น โดยคาดว่าจะเป็นกล้วยหอมทองหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองพิษณุโลก และมะขามหวานเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นสินค้าที่เป็นที่นิยมในตลาดญี่ปุ่น และอีกกิจกรรมไฮไลท์สำคัญ คือ การนำชุดที่ตัดด้วยผ้า GI ไทย สวมให้กับประติมากรรมแมนเนเกน พิส สัญลักษณ์ประจำเมืองบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งจะช่วยเผยแพร่อัตลักษณ์ผ้า GI ไทยให้เป็นที่รู้จักในสายตาชาวโลก
นอกจากนี้ ยังมีการผลักดันให้สินค้า GI เป็นวัตถุดิบและเป็นเมนูประจำร้านอาหารมิชลิน หรือระดับ Fine Dining การผลักดันให้สินค้า GI เสิร์ฟบนสายการบินไทย รวมทั้งร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายตลาดให้สินค้า GI ไทย สร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน ซึ่งบริษัทผู้ผลิตขนมขบเคี้ยวหลายราย นำสินค้าจีไอในการผลิตสินค้า เช่น เถ้าแก่น้อย วัตถุดิบจากสินค้าจีไอ เป็นส่วนผสมในการผลิต คาดวางตลาดปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้