เมื่อวันที่ 23 ม.ค.68 คุณแม่ท่านหนึ่งโพสต์ภาพลูกสาวพร้อมข้อความระบุว่า "ไม่เคยสนใจกับ #ฝุ่นpm2.5 เลย จนได้มาเกิดกับลูกตัวเอง #มีผลกระทบกับเด็กมากๆ เลือดกำเดาไหลไม่หยุด #มีลูกมีหลาน หรือออกไปข้างนอก แนะนำให้ใส่แมสกันทุกคนนะคะ"
ต่อมาได้โพสต์อีกว่า "ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงน้องนะคะ ตอนนี้น้องดีขึ้นแล้วคะ แต่ยังต้องไปพบหมอต่อเนื่อง#ฝุ่นPM2.5
1.เมื่อ2-4วันก่อน น้องมีอาการไอ แสบคอ แสบตา แสบจมูกมีน้ำมูกใสๆ
2.วันต่อมา ไอ แสบจมูก แสบตามีน้ำตาซึม เริ่มอาเจียน เวียนหัว โดยไม่มีสาเหตุ อยู่ๆจะอ้วกก็อ้วกเลย (พาไปหาหมอ มีคอแดง และโพรงจมูกบวมแดง และได้ทานยาตามอาการ)
3.เริ่มดีขึ้นแต่ยังบ่นเจ็บจมูกนอนหายใจครืดคราด
#และวันนี้ กำลังอาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียน เลือดกำเดาไหลเยอะมาก จนรีบพาไปโรงพยาบาล ไหลไม่หยุด ซึมออก เป็นเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ไหลออกมาเป็นลิ่มเลือด เลือดออกมาเป็นก้อน ใจเสียและสงสารลูกมากๆ แต่น้องยังเล่นได้คุยได้ไม่มีงอแงหรือซึม(แต่แม่คือตกใจร้องไห้ไปแล้ว) หมอได้หยอดยาและดูแลอย่างไกล้ชิดจนเลือดหยุดไหล ทีแรกสันนิษฐานว่าจะเป็นไข้เลือดออกอาการเหมือน เพราะน้องมีไข้สูง38+ ต่อมาได้พบหมอเฉพาะทาง #น้องมีโพรงจมูกบวมอักเสบจนเส้นเลือดฝอยในโพรงจมูกแตกจึงทำให้มีเลือดออกเยอะ อาการโดยรวมน่าจะมาจากฝุ่นpm2.5
#มีผลต่อเด็ก และคนที่เป็นภูมิแพ้ คนที่มีโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจโดยตรง ใส่แมสและดูแลลูกหลานกันดีๆนะคะ"
ขอบคุณ เฟซบุ๊ก Chonticha Pitukpol.