หนุ่มหัวร้อนทุบกระจกรถทำร้ายเจ้าของรถ ถนนเจริญกรุง มีภาพเหตุการณ์กับกล้องหน้ารถ

จากกรณีผู้ใช้ TikTok รายหนึ่งโพสต์คลิปขณะชายใส่เสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน ขี่รถจักรยานยนต์พุ่งมาเฉี่ยวชนรถยนต์ของผู้เสียหาย ก่อนจะใช้หมวกกันน็อก มือ และเท้าทุบกระจกรถจนแตก โดยเหตุเกิดขึ้นที่บริเวณปากซอยเจริญกรุง 77 ถนนเจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร ช่วงบ่ายวันที่ 22 มกราคม

เมื่อวันที่ 23 มกราคม ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากผู้เสียหายคือ น.ส.เปรม (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บ และ นายบาส (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี แฟนหนุ่ม และเป็นคนขับรถ บอกว่า วันดังกล่าวทั้งคู่ไปทำธุระแถวเจริญกรุง ซึ่งปกติแล้วไม่ค่อยได้ไปแถวนั้น ก่อนถึงปลายทางประมาณ 500 เมตร มีรถจักรยานยนต์คู่กรณี ที่ขี่มาด้านหน้า เปิดไฟเลี้ยวข้าว แต่กลับจอดอยู่กลางเลน ทั้งคู่จึงจอดรถรอดูว่ารถจักรยานยนต์จะเลี้ยวหรือไม่ แต่ก็ไม่เลี้ยว จึงกดแตรไป 1 ครั้ง ซึ่งคู่กรณีและ น.ส.เปรม ต่างยกมือขึ้นมาขอโทษกันและคิดว่าไม่อะไรแล้ว

แต่ปรากฏว่าชายคนดังกล่าวได้ขี่รถจักรยานยนต์พุ่งมาเฉี่ยวรถของตนจนรถจักรยานยนต์ล้ม จากนั้นก็ลุกขึ้นอย่างเร็ว และมีท่าทีโมโห ปรี่ตรงเข้าทุบกระจกรถฝั่งคนขับ ทั้งใช้มือ ใช้ไหล่ ใช้เท้า และใช้หมวกกันน็อก ซึ่งระหว่างนั้นตกใจมากจึงถ่ายคลิปเพื่อเป็นหลักฐาน และโทรแจ้งตำรวจ กระทั้งชายคนดังกล่าวทุบจนกระจกรถแตก ก่อนจะพุ่งตัวเข้ามาทำร้ายเธอและแฟน แต่โชคดีที่พลเมืองดีแถวนั้นมาช่วยไว้ทัน จึงดึงตัวชายคนดังกล่าวออกไปจากตัวรถ แต่เธอและแฟนได้รับบาดเจ็บจากเศษกระจก

ผู้เสียหายยังเล่าต่อว่า รู้สึกกลัวมาก เพราะเพิ่งดูข่าวไรเดอร์ถูกชนเสียชีวิตที่สุขุมวิท ยิ่งกลัวและคิดว่าจะไม่แลกหรือไปทะเลาะอะไร แต่ดูแล้วว่าคู่กรณีตั้งใจไม่ชนรถเธอ จึงไม่ลงจากรถไปดู เพราะสายตาและท่าทีของคู่กรณีมีอาการแปลกๆ และยังตั้งข้อสังเกตว่า ที่คู่กรณีเปิดไฟเลี้ยว แต่กลับไม่เลี้ยวและจอดกลางเลน และพอเธอขับผ่านมากลับขับมาเฉี่ยนชนเธอตั้งแต่ท้ายรถจนถึงหน้ารถฝั่งขวา และเมื่อล้มก็รีบลุกมาทันที เธอจึงคิดว่าเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ เพราะการที่เธอไม่ลงไปก็อาจจะยิ่งทำให้โมโห

หลังเกิดเรื่องพลเมืองดีพาคู่กรณีไปยัง สน.วัดพระยาไกร เบื้องต้นเธอแจ้งความแล้วในข้อหาทำให้เสียทรัพย์และทำร้ายร่างกาย เมื่อตำรวจตรวจปัสสาวะคู่กรณีก็ไม่พบว่ามีสารเสพติด หรือเมาสุรา

น.ส.เปรมบอกว่า จะไม่ยอมความ แม้ว่าคู่กรณีจะอ้างว่าไม่มีญาติมาประกัน หรืออะไรก็แล้วแต่ เพราะถ้ายอมความก็ไม่ยุติธรรมกับตัวเอง

ด้านนายบาสบอกว่า หากดูตามคลิป เห็นได้ชัดเจนว่ารถของตนขับมาตามทางปกติ แต่รถของคู่กรณีขี่แปลกๆ จอดอยู่กลางเลน เปิดไฟเลี้ยวขวา เข้าใจว่าคู่จะเลี้ยว แต่กลับจอดแช่อยู่นานโดยที่ไม่ได้เลี้ยว ซึ่งตอนนั้นแฟนได้เอื้อมมือมากดแตร 1 ครั้ง เพื่อเป็นการเตือน หลังจากนั้นตนเบี่ยงซ้ายออกเพื่อจะแซง แล้วจู่ๆ คู่กรณีก็เร่งเครื่องขึ้นมาจนกระทั่งมาเบียดกับรถของตน เเล้วล้มอยู่ด้านหน้า ยืนยันว่าไม่ได้เป็นฝ่ายขับเบียดคู่กรณีแต่อย่างใด แต่ฝั่งคู่กรณีตั้งใจขับพุ่งชน ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าเขาทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร