ถ้าพูดถึงอาการก่อนประจำเดือนมาหรือที่เรียกว่า PMS กับอาการคนท้องเชื่อว่าหลายคนยังคงมีข้อสงสัยและมักจะสับสนคิดว่าสองอาการนี้จะมีความคล้ายกัน และนั่นก็ยิ่งสร้างความงุนงงให้กับผู้หญิงอยู่บ่อยๆ วันนี้เราจะชวนผู้หญิงทุกคนมาทำความเข้าใจถึงข้อแตกต่างระหว่างสองอาการนี้กัน

อาการ PMS & อาการคนท้อง ต่างกันอย่างไร?

พาไปทำความรู้จักอาการก่อนประจำเดือนมาหรือ PMS

อาการก่อนประจำเดือนมา หรือ PMS ซึ่งย่อมาจากคำว่า Premenstrual Syndrome คือ อาการที่เกิดขึ้นก่อนที่ผู้หญิงจะมีประจำเดือน ซึ่งอาการเหล่านี้ถือเป็นอาการผิดปกติที่ไม่ได้เกิดขึ้นกับร่างกายของผู้หญิงได้เป็นปกติเสมอไป ในส่วนของอาการ PMS จะเกิดขึ้นได้ทั้งทางร่างกาย พฤติกรรม และอารมณ์ โดยจะเกิดความเปลี่ยนแปลงหรือความผิดปกติก่อนประจำเดือนมาประมาณ 1-2 อาทิตย์ และจะหมดไปในช่วง 2-3 วันหลังประจำเดือนมา แต่ในบางรายอาการ PMS จะหมดไปหลังประจำเดือนหมด

สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการก่อนประจำเดือนมาหรือ PMS

ในส่วนของอาการก่อนประจำเดือนมาหรือ PMS มีสาเหตุเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ซึ่งความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เกิดขึ้นจากกระบวนการตกไข่ จะอยู่ในช่วง 1-2 อาทิตย์ก่อนประจำเดือนมา ทั้งนี้อาจเกิดจากฮอร์โมนเซโรโทนินในสมองที่มีความผิดปกติ ที่เกิดขึ้นจากความเครียด การกินอาหาร การใช้ชีวิต รวมถึงการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยเช่นกัน

อาการก่อนประจำเดือนมาหรือ PMS

อาการดังกล่าว สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 สาเหตุดังนี้

1.อาการที่เกิดขึ้นทางด้านร่างกาย

- มีอาการเจ็บและคัดบริเวณเต้านม

- มีสิวขึ้นที่หน้า

- มีอาการตัวบวม

- ปวดหัว

- คลื่นไส้และอาเจียน

- ปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ และปวดตามข้อต่อ

- มีอาการท้องอืด ท้องผูก และท้องเสีย

- มีอาการตกขาวสีน้ำตาล

- มีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น

- มีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย และถึงขั้นเป็นลม

- มีอาการชาตามบริเวณปลายมือปลายเท้า

- ทำให้โรคประจำตัวบางชนิดรุนแรง เช่น โรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด และโรคไขข้ออักเสบ

2.อาการทางด้านอารมณ์และพฤติกรรมการใช้ชีวิต

               - มีอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย และมักจะร้องไห้กับเรื่องเล็กน้อย

               - มีความวิตกกังวล และเครียดง่าย

               - ไม่มีสมาธิ จดจ่อได้ยาก

               - มักจะมีอาการหลงๆ ลืมๆ

               - มีความอยากอาหารมากกว่าปกติ โดยเฉพาะอาหารที่มีน้ำตาลสูงและไขมันสูง

               - ไม่ค่อยอยากเข้าร่วมกับสังคม มักจะปลีกตัวออกจากสังคมบ่อยๆ

               - มีอาการนอนไม่หลับ บางครั้งนอนมากเกินไป และบางครั้งนอนน้อยเกินไป

               - ความสามารถในการควบคุมตัวเองลดลง

               - มีความต้องการทางเพศสูง

อาการคนท้องที่แตกต่างจากอาการก่อนประจำเดือนมาหรือ PMS

ในส่วนของอาการคนท้องหรืออาการที่น่าสงสัยว่ากำลังตั้งท้องสามารถสังเกตได้จากอาการต่างๆ เหล่านี้

               - มีอาการเจ็บคัดเต้านมและหัวนม แต่จะมีสีเข้มกว่าปกติที่บริเวณเต้านม

               - เต้านมมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด

               - มีอาการปัสสาวะบ่อย และสีของปัสสาวะจะมีสีที่เข้ม

               - สัมผัสรสชาติอาหารที่แปลกไป มักจะรู้สึกถึงรสขมในปาก

               - มีอาการปวดหัวและอาเจียนตลอดวันเมื่อได้กลิ่นอาหารหรือน้ำหอมบางชนิด

               - มีอาการปวดหลังอย่างมาก โดยเฉพาะที่หลังส่วนล่าง

               - อุณหภูมิของร่างกายจะสูงกว่าปกติ

               - มีอาการตกขาวมากกว่าปกติ

               - มีเลือดไหลออกมาเล็กน้อย ซึ่งเรียกว่าเลือดล้างหน้าเด็ก แต่จะพบแค่ในบางรายเท่านั้น

จะเห็นได้ว่าสองอาการที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นอาการก่อนประจำเดือนมาหรืออาการคนท้อง จะมีความคล้ายอยู่บ้าง แต่ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าสองอาการนี้มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นผู้หญิงทุกคนจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้ถึงข้อแตกต่างในส่วนของอาการทั้งสองที่เกิดขึ้น เพื่อสามารถเตรียมตัวและดูแลตัวเองได้อย่างเหมาะสมต่อไปนั่นเอง