ใครชอบบิดคอฟังให้ดี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเผยแล้ว การบิดคอ อันตรายกว่าที่คิด พร้อมเผยเหตุผลที่เราไม่ควรดัดคอ ไม่ว่าจะรู้สึกดีขนาดไหนก็ตาม
เช่นเดียวกับการดัดนิ้วมือให้เกิดเสียงดัง การดัดคอก็ให้ความรู้สึกที่ดีอยู่เหมือนกัน แต่หากทำไม่ถูกวิธี หรือทำบ่อยเกินไป มันอาจเป็นอันตรายได้ แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วมันอาจไม่เป็นอันตราย แต่แพทย์ท่านหนึ่งได้พูดถึงเคสของผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องเข้ารับการรักษาหลังจากดัดคอ และนี่ควรเป็นคำเตือนว่าไม่ควรทำเช่นนี้
ในการตอบกลับวิดีโอของผู้ใช้ TikTok คนหนึ่งที่เล่าว่าเธอทำให้คอหักด้วยมือของเธอเอง โดยนายแพทย์ เอเวอร์ อาริอาส ได้เล่าว่า “มีคนไข้อายุยี่สิบกว่าๆ คนหนึ่งเดินเข้ามาที่ห้องฉุกเฉิน หลังจากที่เธอบอกว่าพยายามจะดัดคอ และหลังจากที่ดัดเป็นครั้งที่สอง เธอได้ยินเสียงดังแครก และเริ่มรู้สึกเจ็บปวดมาก”
“เมื่อเธอมาถึงห้องฉุกเฉินและได้รับการตรวจสแกน เราพบว่าเธอมีกระดูกคอแตกจากการกดทับ”
ตามข้อมูลจาก Cleveland Clinic กระดูกแตกจากการกดทับคือ ‘การแตกของกระดูกสันหลัง (กระดูกในกระดูกสันหลังของคุณ)’ ซึ่งส่งผลให้กระดูกยุบตัวลง
สำหรับการวินิจฉัยของคนไข้รายนี้ นายแพทย์อาริอาส ได้เสริมว่า “พื้นฐานแล้วเราพบว่าเธอได้รับการวินิจฉัยว่ามีกลุ่มอาการข้อต่อเคลื่อนไหวมากเกินไป (Hypermobility Syndrome) และด้วยเหตุนี้ทำให้ข้อต่อของเธอเคลื่อนไหวได้มาก”
“สิ่งที่เกิดขึ้นคือเธองอคอมากเกินไป และเริ่มมีกระดูกแตกจากการกดทับ”
แพทย์ท่านนี้ยังอธิบายต่อว่า เขาเคยพบคนไข้ที่เป็นโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) หลังจากที่นักกายภาพบำบัดจัดกระดูกได้จัดการกับคอของพวกเขา
เขาเสริมต่ออีกว่า “ดังนั้นถ้าคุณจะไปหานักกายภาพบำบัดจัดกระดูก สิ่งสำคัญคือต้องบอกพวกเขาว่า ‘อย่าแตะต้องคอของฉัน’ และสิ่งสำคัญอีกอย่างคือ ผมไม่เคย ไม่เคยพยายามที่จะดัดข้อต่อที่คอหรืออะไรทำนองนั้นเลย เพราะบ่อยครั้งมันอาจนำไปสู่ความเสียหายได้”
“คุณอาจทำให้เกิดการฉีกขาดของหลอดเลือดแดงที่คอ (Vertebral Artery Dissection) หรือการบาดเจ็บอื่นๆ ต่อหลอดเลือดในโครงสร้างของคอได้ บริเวณนี้เป็นโครงสร้างที่บอบบางมาก ดังนั้นหวังว่าคุณจะใช้ข้อมูลนี้เพื่อไม่ดัดคออีกเลย”
ตามข้อมูลจาก Healthline มีอาการอื่นๆ อีกหลายอย่างที่อาจเกิดขึ้นได้จากการดัดคอ รวมถึงการเกิดลิ่มเลือดซึ่งอาจเป็นอันตรายร้ายแรง ฉะนั้น การดัดคอแรงเกินไปหรือแม้แต่การดัดบ่อยเกินไป สามารถทำให้หลอดเลือดเหล่านี้ทะลุได้ ซึ่งจะส่งผลให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองถูกขัดขวาง ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดคือควรหยุดทำพฤติกรรมนี้ซะ
อ้างอิง : www.unilad.com