วันที่ 31 ม.ค.68 ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ "ดร.นิว" นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas  โพสต์เฟซบุ๊ก Suphanat Aphinyan  ระบุข้อความว่า...ส้มทั้งแผ่นดินเป็นวาทกรรมหลอกเอาคะแนน?

จากการเลือกตั้งระดับประเทศครั้งที่ผ่านมา พรรคส้มครองเก้าอี้ ส.ส. มากที่สุด บางจังหวัดถึงขนาดสามารถกวาดเก้าอี้ ส.ส. ได้ยกทั้งจังหวัด แต่เวลาผ่านไปก็ใช่ว่าจะมีอะไรดีขึ้น ไม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงตามที่ขายฝันหรือโฆษณาชวนเชื่อเอาไว้ บางจังหวัดเวลาเกิดปัญหาขึ้นมาก็ไม่สามารถแก้ไขให้ประชาชนได้ ยังโทษนู่นโทษนี่ แล้วแบบนี้ตำแหน่ง สส. ที่ประชาชนเลือกมาจะมีไว้ทำไม?

จะว่าไปแล้วพรรคส้มไม่ได้ต่างจากพรรคอื่นๆ ที่ปัจจุบันแทบไม่มีพรรคการเมืองใดที่เป็นความหวังของประชาชนได้เลย ส่วนใหญ่มีนายทุนเจ้าของพรรคเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์โดยแอบอ้างประชาชนบังหน้า แต่สุดท้ายก็ไม่พ้นผลประโยชน์ของคนส่วนน้อยที่เป็นเจ้าของพรรคตัวจริง พรรคส้มจะต่างจาพรรคอื่นตรงที่ทำการตลาดเก่งกว่า มีกลยุทธ์ในการโฆษณาชวนเชื่อที่ทันสมัยกว่า

การเล่นกับความหวังของประชาชนเป็นจุดเด่นสำคัญของพรรคส้ม เข้าใจได้ว่าประชาชนเบื่อการเมืองน้ำเน่า แต่ทว่าพรรคส้มกลับเน่ายิ่งกว่า เปลือกนอกดูดีทันสมัย แต่เกมการเมืองน้ำเน่ามากกว่าเดิม ทั้งการบิดเบือนโจมตีสถาบันเบื้องสูงเพื่อสร้างจุดขายทางการเมือง ตลอดจนผู้ถูกตัดสิทธิ์ที่ไร้มารยาทเข้ามาวุ่นวายไม่จบสิ้น ทั้งๆ ที่ปกติผู้ถูกตัดสิทธิ์จะมีมารยาท ไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวจริงๆ

การอ้างว่าพรรคส้มเป็นของประชาชน แต่ในความเป็นจริง ถ้าไม่ไร้เดียงสาจนเกินไปย่อมทราบได้ว่าพรรคส้มเป็นของใคร ตระกูลใด แม้จะชอบแถว่าพรรคส้มเป็นของประชาชน แต่ให้สัมภาษณ์ครั้งใดก็มักแสดงความเป็นเจ้าของอยู่เสมอ สุดท้ายการนำคำว่า "ประชาชน" มาตั้งชื่อผูกขาด จึงเป็นการแอบอ้างแบบเหมารวมที่เป็นการด้อยค่าคำว่า "ประชาชน" เสียเองอย่างฉกาจฉกรรจ์ที่สุด

ที่สำคัญ พรรคส้มขาดวุฒิภาวะและความรู้ความสามารถอย่างรุนแรง อาจพาชาติล่มจมเหมือนที่สะดุดขาตัวเองล้มถึงสองครั้ง ครั้งแรกทำผิดกฎหมายการเงินของพรรคการเมืองราวกับเด็กอมมือ ครั้งที่สองโยงใยม็อบสามนิ้วเซาะกร่อนบ่อนทำลายความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์ แถมยังไปวุ่นวายกับคนต่างด้าวจากประเทศเพื่อนบ้านอีก ทั้งๆ ที่คนไทยก็ยังไม่ได้อยู่ดีกินดีถ้วนหน้า

เห็นได้ชัดว่าส้มทั้งแผ่นดินเป็นอีกวาทกรรมหนึ่งในการขายฝันหลอกเอาคะแนนเสียงจากประชาชนเท่านั้น การเมืองระดับประเทศเป็นเช่นใด การเมืองระดับท้องถิ่นก็คงเป็นเช่นนั้น ไม่ได้เป็นไปตามที่ปั่นกระแสโฆษณาชวนเชื่อ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องเลือกคนตั้งใจที่จะเสียสละทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่คนที่ชอบแอบอ้างประชาชนเพื่อแสวงหาอำนาจและผลประโยชน์ใส่ตนและพวกพ้อง