สรรพากร เร่งจัดเก็บภาษี ขยายฐานกลุ่มอินฟลูฯ-ขายออนไลน์ หลังพบมีแค่ “ส่วนน้อย” ที่เสียภาษี
นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นการจัดเก็บภาษี โดยระบุถึงในส่วนของ แพลตฟอร์มออนไลน์ อินฟลูเอนเซอร์ ขายสินค้า ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญของกรมสรรพากร เพราะปัจจุบันถือเป็นช่องทางสำคัญในการขายสินค้าที่ทำยอดขายสูง ซึ่งเดิมไม่ได้อยู่ในเป้าหมายจัดเก็บภาษี แต่ปัจจุบัน ถือเป็นกลุ่มที่จะสามารถจัดเก็บภาษีได้เพิ่ม
การจัดการแพลตฟอร์มออนไลน์มี 2 ส่วน คือ ส่วนที่ซื้อขายในประเทศกับส่วนที่ซื้อมาจากต่างประเทศ โดยในส่วนต่างประเทศ กรมสรรพากรก็พัฒนา 2-3 ระบบ เช่น เรื่องเซอร์วิส ให้แพลตฟอร์มต่างประเทศเป็นคนเก็บภาษีแล้ว นําส่งแทน จากเดิมระบบภาษี อิมพอร์ตเซอร์วิสเข้ามา ต้องไปยื่น ณ สิ้นเดือน ต้องเดินไปสรรพากรเขต เอาภาษีมูลค่าเพิ่มไปจ่าย ซึ่งในทางปฏิบัติไม่มีใครจ่าย ก็เลยปรับระบบให้เจ้าของแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นผู้จัดเก็บแล้วนำส่งสรรพากร
ขณะที่ส่วนการนำเข้าสินค้า ถ้ามูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท ตอนนี้ใช้เครื่องมือของกรมศุลกากรในการจัดเก็บ VAT แทน ซึ่งเป็นมาตรการชั่วคราว ต่อไปสรรพากรต้องดึงมาทําเอง ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการแก้ไขประมวลกฎหมาย ก็จะใช้โครงสร้างให้แพลตฟอร์มต่างประเทศเป็นผู้เรียกเก็บ VAT และนําส่งไทย
อธิบดีกรมสรรพากรกล่าวว่า หลังจากเริ่มมีการจัดเก็บภาษีอีเซอร์วิส ปัจจุบันเก็บได้ประมาณ 500-600 ล้านบาทต่อเดือน ส่วนการเก็บภาษี VAT ของสินค้านำเข้า (ออนไลน์) มูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท ก็เก็บภาษีได้ประมาณ 300 ล้านบาทต่อเดือน
นายปิ่นสายกล่าวว่า ปัจจุบันสรรพากรก็ทำงานใกล้ชิดกับหน่วยงานด้านความมั่นคงคือ ตํารวจ ก็จะได้ข้อมูลว่ามีกลุ่มไหนที่นำเข้าสินค้ามาไม่ได้เสียภาษี สรรพากรก็นำมาขยายผล เพราะไม่ใช่แค่เรื่องจัดเก็บภาษีเพื่อมีรายได้ อีกมุมหนึ่งคือเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการแข่งขัน เอาง่าย ๆ สินค้าผลิตขายในประเทศไทยเสียภาษี
ดังนั้น สินค้านําเข้ามาก็ต้องเสียภาษีเหมือนกัน แต่การเข้ามาจากต่างประเทศอาจจะมีช่องทางในการที่หลบเลี่ยงได้ ดังนั้นก็ต้องให้ความสำคัญเป็นนโยบายปูพรมลงไปตรวจด้วย รวมถึงที่ปัจจุบันมีการพูดถึงสินค้าจีนราคาถูกที่ทะลักเข้ามาในประเทศไทย สรรพากรก็ดูอยู่ทั้งหมด
“ถ้าเป็นกลุ่มซื้อขายสินค้าต่างประเทศ ก็เป็นโครงการความร่วมมือ คือเมื่อได้ข้อมูลจากตำรวจก็จะส่งให้หน่วยงานเกี่ยวกับภาษีนอกระบบ ไปตรวจสอบข้อมูลว่าบริษัท สถานที่อยู่ตรงไหน แล้วก็ส่งให้หน่วยจัดเก็บ
เหมือนกับออกไปตรวจเยี่ยมสถานที่ตั้งกิจการ ถ้าท่านจ่ายแล้วก็ขอดูข้อมูลว่าเสียภาษีถูกต้องหรือไม่ แต่ถ้ายังไม่จ่าย ก็ไปทําความรู้เชิญให้เข้าอยู่ในระบบ ให้เข้าใจว่าการเข้ามาเสียภาษีในระบบต้นทุนถูกกว่าการหลบอยู่ข้างนอกไปเรื่อย ๆ เพราะวันหนึ่งสรรพากรเจอต้องจ่ายแพง”
ปีนี้จะเห็นการปูพรมของเจ้าหน้าที่สรรพากรในการลงพื้นที่พบปะผู้ประกอบการ เข้าไปแนะนําให้ความรู้ ตรวจเยี่ยมหรือขอเอกสารในการประกอบการ แต่สำหรับกลุ่มที่เสียถูกต้องก็จบเท่านั้นเอง
อ่านข่าวฉบับเต็ม ประชาชาติธุรกิจ