ดร.อนันต์ เผย นักวิจัย ค้นพบการเกา ไม่ได้ให้แค่โทษ แต่ยังให้ประโยชน์ด้วย
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักวิจัยด้านไวรัสวิทยา ไบโอเทค ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก “Anan Jongkaewwattana” เกี่ยวกับการเกา โดยมีรายละเอียดน่าสนใจ ดังนี้
งานวิจัยตีพิมพ์ใน Science นี้ช่วยไขปริศนาที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเกาเมื่อคันที่เราทำกันเป็นประจำ หลายคนคงเคยได้ยินคำเตือนจากคุณหมอว่า “อย่าเกา” เวลาเป็นผื่นแพ้หรือโรคผิวหนัง แต่ทำไมร่างกายของเราถึงมีสัญชาตญาณในการเกาเมื่อรู้สึกคัน? และทำไมการเกาถึงให้ความรู้สึกผ่อนคลายที่น่าพึงพอใจ?
คำตอบที่น่าสนใจนี้ถูกค้นพบโดยทีมนักวิจัยที่ได้ศึกษากลไกการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและระบบประสาทในผิวหนังอย่างละเอียด
เมื่อผิวหนังของเราสัมผัสกับสิ่งที่ทำให้เกิดอาการแพ้ เช่น ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ หรือสารเคมีบางชนิด ระบบภูมิคุ้มกันจะตอบสนองโดยการกระตุ้นเซลล์พิเศษที่เรียกว่า “Mast cells” ให้หลั่งสารที่ทำให้เกิดอาการคัน เมื่อเราเกาบริเวณที่คัน การเกาจะไปกระตุ้นเซลล์ประสาทที่รับความเจ็บปวด ทำให้หลั่งสารสื่อประสาทที่เรียกว่า “Substance P (SP)” ออกมา สารนี้จะไปกระตุ้น Mast cells อีกครั้ง ทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้น เกิดเป็นวงจรที่ทำให้อาการแพ้และอักเสบรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
แต่ที่น่าสนใจคือ การศึกษานี้ได้ค้นพบว่าการเกาไม่ได้มีแต่ผลเสียเพียงอย่างเดียว ในทางตรงกันข้าม การเกามีประโยชน์อย่างมากต่อการป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง โดยเฉพาะเชื้อ Staphylococcus aureus ซึ่งเป็นเชื้อที่พบบ่อยและอาจก่อให้เกิดการติดเชื้อรุนแรงได้ การเกาทำให้เกิดการอักเสบที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้มากำจัดเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ การเกายังช่วยลดความหลากหลายของแบคทีเรียที่อาศัยอยู่บนผิวหนัง ซึ่งอาจรวมถึงเชื้อที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
การค้นพบนี้ช่วยอธิบายได้อย่างชัดเจนว่าทำไมวิวัฒนาการถึงเลือกให้เรามีพฤติกรรมการเกาเมื่อคัน ในยุคก่อนที่จะมีการค้นพบยาปฏิชีวนะ การติดเชื้อที่ผิวหนังเป็นสาเหตุการเสียชีวิตที่สำคัญ การที่ร่างกายมีกลไกป้องกันตัวเองผ่านการเกาจึงเป็นสิ่งจำเป็นต่อการอยู่รอด
แม้ว่าในปัจจุบันที่เรามียารักษาโรคที่ทันสมัย การเกาอาจดูเหมือนเป็นพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ในผู้ป่วยโรคผิวหนัง แต่มันก็เป็นกลไกการป้องกันตัวตามธรรมชาติที่มีประโยชน์