อิ๊งค์ พอใจ เพื่อไทย ปักธง อบจ. 10 จังหวัด โอดอยากได้ทุกจังหวัด แซว ผู้ช่วยหาเสียง “ทักษิณ” แฮปปี้ คุ้มสตางค์ที่จ่ายค่าตัว
เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 3 ก.พ. 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงผลการเลือกตั้ง อบจ. ของพรรคเพื่อไทย พอใจหรือไม่ ว่า ถือว่าพอใจ เพราะเห็นมาตั้งแต่ช่วงแรกที่มีกำหนดการเลือกตั้ง ทุกคนลุยและช่วยกันเต็มที่
เมื่อเช้าวันที่ 3 ก.พ. ยังได้ส่งข้อความไปถึงกรุ๊ป สส. ว่า อันไหนที่เราไม่ได้จะต้องปรับปรุงอย่างไร สส.หรือทุกคนในพรรคมีบทเรียนจากการเลือกตั้งทุกครั้ง ประชาชนก็เช่นกัน การเลือกตั้งผ่านไปกี่ครั้งก็ได้เรียนรู้อะไรมากขึ้นเยอะ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถือว่าเป็นไปตามเป้าหรือไม่ ที่ได้นายก อบจ. 10 จังหวัด จากที่ส่งผู้สมัคร 16 จังหวัด น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ถือว่าดีเลย ที่จริงอยากได้ทั้งหมด แต่ได้แค่นี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว
เมื่อถามย้ำว่าผลจากสนามท้องถิ่นจะนำไปวิเคราะห์หรือไม่ เพราะอีกไม่นานจะมีการเลือกตั้งสนามใหญ่ระดับประเทศที่ค่อนข้างจะแตกต่างกัน จะต้องปรับอย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า การเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นระดับท้องถิ่นหรือระดับประเทศ ยังไงก็สำคัญอยู่แล้ว เพราะต้องทำงานช่วยเหลือประชาชนเช่นกัน
ฉะนั้น การเลือกตั้งที่เกิดครั้งนี้ เราต้องวิเคราะห์เช่นกันว่าได้มาเพราะอะไร และทำอะไรไปบ้าง แพ้เพราะอะไร ต้องวิเคราะห์ในทุกจังหวัดอยู่แล้ว เราต้องดูว่าจะปรับปรุงเพิ่มเติมอะไรได้หรือไม่ และข้อความที่สื่อสารให้ประชาชนเข้าใจอย่างที่เราตั้งใจจะสื่อหรือเปล่า ก็ต้องดูจากตัวเราด้วยว่า ที่ไม่ได้เพราะอะไร การสื่อสารถึงไหม การแนะนำข้อมูลถึงไหม ตรงนี้ต้องให้วิเคราะห์ให้หมด เดี๋ยวจะเข้าพรรคก็ต้องคุยกับ สส. ด้วย
เมื่อถามว่า จ.เชียงราย กับลำพูน ที่ตั้งเป้าไว้รอบนี้แพ้ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เสียดายไม่ได้ ก็อยากได้ และอยากให้ได้ทุกพื้นที่ เพราะจะได้ช่วยเหลือทำงานกับประชาชน ทั้งนี้ ถึงไม่ได้แต่ก็ต้องทำงานให้พี่น้องประชาชนอยู่ ยังทำพื้นที่อยู่ ไม่ให้ขาดตรงนี้
เมื่อถามว่าได้คุยกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงบ้างหรือไม่ ต้องมีการปรับกลยุทธ์อะไร เพื่อเตรียมสนามใหญ่ต่อไป น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คุยทุกวันกับผู้ช่วยหาเสียง ตอนนี้ไปมาเลเซียอยู่
เมื่อถามย้ำว่าผู้ช่วยหาเสียงแฮปปี้หรือไม่กับผลการเลือกตั้งครั้งนี้ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “แน่นอน เขาไม่ได้หาเสียงอย่างนี้มา 17-18 ปีแล้ว แต่จริงๆ เป็นสิ่งที่เคยทำอยู่แล้วในอดีต แต่เป็นอดีตที่ไกล กลับมาทำแบบนี้ตนยังเป็นห่วงเวลาไปหลายเวที เพราะอายุเยอะ แต่ก็ทำเต็มที่ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงถือว่าคุ้มสตางค์ที่จ่ายที่ได้”
เมื่อถามว่าการปราศรัยแนวดุเดือด ต้องนำมาปรับหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า มันเป็นช่วงเวลา ซึ่งช่วงแรกที่ลงพื้นที่หาเสียงต้องการจะอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเข้าใจในขั้นแรกแล้ว ครั้งต่อไปถ้าไม่ได้มีประเด็นอะไรที่มันร้อนหรือต้องหาเสียงดุเดือดก็ต้องเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ไม่ได้เป็นคาแรกเตอร์นั้นไปเลย