รู้จัก Sculptra ตัวช่วยในการยกกระชับผิว และสร้างคอลลาเจน
ข่าวสด February 04, 2025 12:44 PM

ในยุคที่ความงามไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่การแต่งหน้า เทรนด์การดูแลผิวพรรณ และฟื้นฟูใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์จึงกลายเป็นที่นิยมมากขึ้น Sculptra เป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่กำลังมาแรงในวงการเสริมความงาม ด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำให้ใบหน้าดูอิ่มฟู กระชับมากขึ้น และเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้ง Sculptra ยังเป็นหัตถการที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์หลังทำในระยะยาวอีกด้วย

Sculptra คืออะไร? ทำไมถึงได้รับความนิยม

Sculptra คือสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่มีส่วนประกอบหลักอย่าง Poly-L-Lactic Acid (PLLA) ซึ่งเป็นสารที่ปลอดภัย และถูกใช้อย่างแพร่หลายในทางการแพทย์ Sculptra ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยฟื้นฟู และปรับปรุงโครงสร้างผิวจากภายใน การฉีด Sculptra จึงไม่ใช่เพียงแค่การเติมเต็มร่องลึกชั่วคราว แต่ยังช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนตามธรรมชาติ

ซึ่งการใช้ Sculptra นอกจากจะให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ยังช่วยลดเลือนริ้วรอยลึกตามร่องแก้มและร่องมุมปาก รวมถึงปรับรูปหน้าให้สมส่วนมากขึ้น ซึ่งการฉีด Sculptra หนึ่งครั้งจะให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า 2 ปี จึงถือว่าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่าการใช้ฟิลเลอร์ทั่วไปที่ผลลัพธ์อยู่ได้เพียง 6-12 เดือน

การทำงานของ Sculptra ทางเลือกใหม่ในการปรับรูปหน้า

Sculptra เป็นหัตถการที่มีคุณสมบัติเด่นในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง ที่ช่วยฟื้นฟูผิวจากโครงสร้างภายใน และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องผ่าตัด

การทำงานของ Sculptra เกิดขึ้นเมื่อมีการฉีดสาร PLLA มีส่วนประกอบหลักคือ PLLA (Poly-L-Lactic Acid) ซึ่งเป็นโพลิเมอร์สังเคราะห์ที่มีอนุภาคขนาดเล็กเพียง 40-63 ไมครอน ทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนังลึก เมื่อผสมสาร PLLA กับน้ำที่ผ่านการฆ่าเชื้อ (Sterile water) และฉีดเข้าสู่ผิวหนังชั้น Dermis สารละลายที่ถูกฉีดจะทำให้ผิวดูเปลี่ยนแปลงไปในทันที

เมื่อน้ำในสารละลายจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายแล้วจะเหลือเพียงอนุภาค PLLA เท่านั้น เมื่อฉีด Sculptra เข้าไปในร่างกาย จึงทำให้เกิดการรวมตัวของแมคโครฟาจ (Macrophage) และเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ที่มีหน้าที่สำคัญในการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง

หลังจากการฉีด Sculptra ไปสักระยะเวลาหนึ่ง เซลล์ไฟโบรบลาสต์จะเริ่มผลิตคอลลาเจนใหม่ ที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับผิวและเนื้อเยื่อ ในขณะเดียวกันอนุภาค PLLA ก็จะค่อย ๆ สลายไป จนสุดท้ายจะเหลือแต่คอลลาเจนใหม่ที่ทำให้ผิวดูอิ่มฟูและกระชับขึ้น ส่งผลให้โครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้น ริ้วรอยและร่องลึกต่าง ๆ ดูลดเลือน

ข้อดีของ Sculptra ที่คนรักความงามต้องรู้!

Sculptra ดียังไง

นอกจาก Sculptra จะเป็นหนึ่งในหัตถการสำหรับผู้ที่ต้องการเติมเต็มผิวแล้ว Sculptra ยังมีข้อดีอื่น ๆ ที่ทำให้ผู้เข้ารับบริการหลายคนถูกใจ ซึ่งเราได้รวบรวมมาให้แล้วดังนี้

  • ช่วยฟื้นฟูผิวจากภายใน เสริมโครงสร้างผิวให้แข็งแรงและยืดหยุ่น
  • ช่วยให้ผิวที่อ่อนแอ ดูหย่อนคล้อยกลับมากระชับขึ้นอีกครั้ง
  • เห็นการเปลี่ยนแปลงใน 4-6 สัปดาห์ และคงผลลัพธ์ได้นานกว่า 2 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง
  • ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ เพราะ Sculptra ค่อย ๆ ปรับปรุงผิวให้ดูสุขภาพดีขึ้น
  • ช่วยลดเลือนริ้วรอยลึก ปรับรูปหน้า และฟื้นฟูบริเวณที่ผิวหย่อนคล้อย ทำให้เหมาะกับหลายปัญหาผิว
  • Sculptra เป็นหัตถการที่ปลอดภัย เพราะได้รับการรับรองจาก FDA และหน่วยงานด้านสุขภาพระดับโลก
  • การฉีด Sculptra คุ้มค่ากับการลงทุน เพราะจะช่วยลดความถี่ในการทำทรีตเมนต์ซ้ำหลาย ๆ ครั้ง เมื่อเทียบกับวิธีการเติมเต็มผิวแบบอื่น

Sculptra ราคาเท่าไหร่?

Sculptra มีราคาโดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 35,000-45,000 บาทต่อขวด ทั้งนี้ จำนวนขวดที่ต้องใช้ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดและปัญหาผิว ซึ่งการฉีด Sculptra เป็นการดูแลผิวที่คุ้มค่าในระยะยาว ก่อนเข้ารับบริการ จึงควรเลือกคลินิกที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ เพื่อลดความเสี่ยงจากการใช้ผลิตภัณฑ์ หรือการบริการที่ไม่ได้มาตรฐาน

Sculptra เคล็ดลับฟื้นฟูใบหน้าในระยะยาว

Sculptra เป็นหัตถการที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหน้าอย่างล้ำลึก และแก้ไขปัญหาผิวจากภายใน ด้วยคุณสมบัติเด่นในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้โครงสร้างผิวแน่นกระชับและยืดหยุ่นมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดเลือนริ้วรอย ร่องลึก และฟื้นฟูใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ

ใครที่กำลังมองหาคลินิกสำหรับฉีด Sculptra แต่ไม่แน่ใจว่าจะเลือกที่ไหนดี ขอแนะนำให้ลองเลือกซื้อดีลหัตถการจากคลินิกที่เข้าร่วมกับ SkinX ที่ได้รวบรวมคลินิกที่น่าเชื่อถือ และผ่านการรับรองมาไว้ให้แล้ว ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแอป SkinX ได้ทั้งบน App Store และ Play Store พร้อมดูรีวิวและข้อมูลของแต่ละคลินิกได้ครบในที่เดียว!

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.