ทวี เผย โครงการอ่านหนังสือจบ 1 เล่ม ได้พักโทษเพิ่ม 1 วัน หวังสร้าง ชีวิตใหม่ให้ผู้ต้องขัง อ่านหนังสือได้-ค้าขายเป็น ด้านอานนท์ ชี้ บางเรือนจำ ยังส่งหนังสือเข้าไปไม่ได้
เวลา 09.38 น. วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึง กรณีโครงการอ่านหนังสือจบ 1 เล่ม ได้พักโทษเพิ่ม 1 วัน โบนัส ”คนหลังกำแพง” ว่า เรื่องนี้เป็นหลักคิด เพราะคู่ในเรือนจำเรามีจำนวนทั้งหมด 77% มีการศึกษาต่ำกว่าขั้นพื้นฐาน และมีจำนวนกว่า 10% ที่ไม่ได้เรียนหนังสือ อีกหน้าที่หนึ่งของกรมราชทัณฑ์คือจะต้องทำให้ผู้ต้องราชทัณฑ์ทั้งหมด ได้รับการศึกษาเท่ากับการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือเทียบเท่าระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที6 หรือ ปวช.จำนวนกว่า 230,000 คนที่ค่อนข้างเยอะ สิ่งที่จำเป็นคือต้องการทำให้ทุกคนนั้นอ่านออก เขียนได้ คิดเป็น สามารถทำธุรกิจได้
จึงมองว่าจะเป็นอีกหนึ่งนโยบายที่สร้างแรงจูงใจ ให้กลุ่มผู้ต้องราชทัณฑ์เหล่านี้เรียนหนังสือ อ่านหนังสือ เนื่องจาก ราชทัณฑ์เรามีโครงการทูบีนัมเบอร์วัน ที่มีหลักสูตรให้คนสามารถเรียนหนังสือได้ มีห้องสมุดพร้อมปัญญา
บางเรือนจำก็มีหนังสือกว่า 20,000 เล่ม เราจึงหาแรงจูงใจให้กับคนเหล่านี้เพราะเรา ต้องการให้เรือนจำเป็นที่ฟื้นฟู ทำให้เป็นคนใหม่ มีชีวิตใหม่ ซึ่งในประเทศอื่นๆ มีโครงการอ่านหนังสือหนึ่งเล่มพักโทษ 4 วัน เช่น ประเทศบราซิล เป็นต้น แต่ของเราอาจจะได้สิทธิ์ในการพักโทษ 1 วัน แต่ต้องมีคณะกรรมการ
เมื่อถามว่า โครงการนี้จะเริ่มเมื่อไหร่ พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า ปัจจุบันนี้ได้เริ่มแล้ว และผู้ต้องขังก็เข้าเรียนเป็นจำนวนมาก แต่ในการพักโทษจะต้องชอบด้วยกฎหมายได้โดยย้ำว่า เป้าหมายของเราคือต้องการให้อ่านหนังสือได้ ค้าขายเป็น คิดเลขเป็น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่ได้ทำเพื่อช่วยใครใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า ไม่ได้ทำเพื่อช่วยใครเป็นพิเศษ
ขณะที่ เพจอานนท์ นำภา ได้ระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า บางเรือนจำยังไม่สามารถส่งหนังสือเข้าไปได้ ขณะที่เรือนจำหญิงปฏิเสธไม่รับ โดยมีรายละเอียดว่า “อันนี้จริงมั้ย ใช้กับทุกเรือนจำเปล่า อนุญาตให้ส่งหนังสือเข้าเรือนจำก่อนเนอะ ทางนี้ส่งได้แค่เดือนละเล่ม เฉพาะวันที่ 1-10 ของทุกเดือน (เรือนจำพิเศษกรุงเทพ) ส่วนเรือนจำหญิงไม่ยอมรับหนังสือ บอกมีเยอะแล้ว เหอะๆ
ใดๆก็ตามพวกที่ยัง “สู้” คดีอยู่ (แต่ก็ไม่ได้ประกันตัว) ไม่ได้รับสิทธิ์ลดโทษ พักโทษ หรืออะไรทั้งน้้น เพราะยังไม่ถือเป็น ”นักโทษ“ อย่างเต็มตัว เป็น “ผู้บริสุทธิ์” ที่ถูกขังรวมๆกันไว้กับคนที่คดีสิ้นสุดแล้ว”