ภูมิธรรม เปิดเบื้องหลัง ประชุมครม. ก่อน สมช. มีคำสั่งตัดไฟ เล็งบินแม่สอด 6ก.พ. ติดตามปัญหา
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ รายการเจาะลึกทั่วไทย ดำเนินรายการโดยหมาแก่ และแมวสาว ซึ่งออกอากาศทางช่อง 9 อสมท ได้สัมภาษณ์นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนากรีฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเกี่ยวกับเบื้องหลังการตัดไฟในชายแดนเมียนมาเพื่อแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในครั้งนี้
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยืนยันว่าการตัดไฟครั้งนี้เป็นการตัดจริงๆ ไม่ใช่การโชว์ เดิมที่เคยบอกว่าจะดำเนินมาตรการระดับเบาไปหาหนักนั้น แต่สุดท้ายดำเนินการขั้นเด็ดขาดทันทีแค่ชั่วข้ามคืน เพราะเป็นเรื่องความเข้าใจผิดในระดับปฏิบัติการ เพราะตนได้สั่งการให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไปคุยระดับปฏิบัติว่าเป็นอย่างไร และรายให้งานให้ทราบว่าจะจัดการอย่างไรบ้าง ซึ่งเมื่อตนมาดูว่า และบอกว่าจะเอาเรื่องนี้ไปพิจารณาดำเนินการ ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วมาตรการที่ทำไม่เพียงพอ เลยต้องทำให้ชัดเจนเพื่อสร้างแรงบีบ เพราะเป็นเรื่องสำคัญระดับนานาชาติ ไม่กระทบแค่ไทยเท่านั้น อย่างที่บอกไปว่าความเสียหายค่อนข้างสูง
นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา จากการสรุปมีคดีคอลเซ็นเตอร์พบว่ามีทั้งหมด 557,500 คดี และใน1 คดี นั้นมีคนกระกทบ มากกว่า 1 คน และอาจหลายร้อยคน เป็นเรื่องความมั่นคงมูลค่าเสียหาย 86,000 ล้านบาท หรือเสียหายต่อวัน 80 ล้านบาท เลยเป็นความมั่นคงที่รุนแรงและต้องดำเนินการและที่มีความเห็นแตกต่างระหว่างตนและนายอนุทิน ชายวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทยนั้น จริงๆ ไม่ได้ขัดแย้ง แต่เป็นการเห็นต่าง ในบางจุดที่มีการมองต่างกัน
“อย่างนายอนุทินมองในแง่ว่า ตัวเองทำอะไรไม่ได้จะให้สมช.พิจารณา เพราะเขาเป็นคู่สัญญา เกรงว่าจะไปกระทบกฎหมายธุรกิจ ซึ่งเขาจะมีปัญหาได้ เขาก็อยากได้ สมช.แบ๊กอัพ ส่วนผมมองว่าไม่ต้อง ในฐานะผู้ปฏิบัติ สมช.สามารถจัดการได้เลย เห็นเหมือนกันแต่ต้องดูความถูกต้องเท่านั้น ผมเลยประชุมสมช.ให้ ตอนเช้าที่เจอผม มีการถามผมๆก็บอกว่าต้องดำเนินการเด็ดขาดแล้ว ไม่ต้องรอเป็นขั้นตอนทำให้ครบเลย จึงเรียกปช.สมช. ”
เมื่อถามว่า มีคนวิจารณ์ว่า เป็นผลจากปักกิ่งส่งตัวแทนมานั่งเฝ้าหน้าบ้าน หรือแรงกดดันจากจีนหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า จีนมีปัญหาว่า มีข้อตกลง 2-3 ประเทศย่านนี้ในการตั้งศูนย์ประสานงานแกปัญหา เขาเลยมาตามเพราะเรื่องยังไม่คืบหน้า ซึ่งที่ผ่านมาคุยกันหลายเรื่องกับทางจีน และเขาห่วงเรื่องคอลเซ็นเตอร์เป็นหลัก เพราะคนจีนโดนหลอกเป็นแสนและกระทบเสียหายเยอะ เราก็ซีลชายแดนรื้อฟื้นมานาน จุดประสงต์ทั้งแก้ยาเสพติดและเรื่องคอล และค้ามนุษย์ ดับไฟฟ้า ก็เลยให้ฝ่ายปฏิบัติมาคุยกันเขาเลยส่งหลิวจงอื้มา
“คนไม่เข้าใจรมต.ไปไหนหมด ปล่อยให้ตบหน้า สรุปคือมาตามงานเรื่องที่คุยกันว่าคืบหน้าไปไหน เพราะเกี่ยวพันกัน 3 ส่วน ไม่อยากให้ปัญหาโผล่ที่โน่นนี่ เขามาคุยระดับกลาโหมระดับรองปลัด แต่บังเอิญปลัดเข้าเฝ้า เลยคุยกันจนเสร็จ คุยกับเลขากลาโหม ในระดับปฏิบัติคุยกันเสร็จ และจากนั้นเขาก็มาพบผม ๆก็ฝากไปหลายเรื่อง และเขายอมรับพร้อมทำทิศทางเดียวกัน เขาคุบกับรองปลัด 1ชม.และมาคุยกับผมต่อแค่นนั้นไม่เกี่ยวกันเลย เพราะคุยมาต่อเนื่องตลอด”
ถาม-บรรยากาศในครม.เป็นอย่างไร เกี่ยวกับเรื่องการตัดไฟเมื่อวานถกกันหนักหรือไม่
นายภูมิธรรมกล่าวว่า เช้าวันครม.นายอนุทินโทรมา และบอกจะขอพูดเรื่องนี้ว่าไม่ขัดแย้งกันก็คุยกับผมและนายกฯรอบนอก เลขานายกฯเพระาเป็นเรื่องมองต่างกัน เขาจะเสนอว่าประเด็นต่างๆข้อขัดข้องกังวลอะไร ไปถึงข้อเป็นข้อสั่งการของนายกว่าให้ผมป็นคนจัดการทั้งหมดแค่นั้นเอง
ถามก่อนการประชุมครม. มีการคุยกับนายกหมอมิ้งค์ อนุทิน และพอครม.ก็มีนายกสั่งการม้วนเดียวจบผมก็ปะชุมสมช.ทีเดียวให้จบ เลยสั่งทีเดียวกัน เพราะกฟภ.ก็เกรงกระทบกม.ธุรกิจ แต่ในข้อกม.ของสมช. เขาสามารถทำได้ หากประเมินแล้วกระทบความมั่นมคงเขาสามารถยุติได้ แต่เขาไม่มั่นคนคงว่าภัยต้อความมั่นคงหรือยัง ก็เลยเอาข้อมูลมาดู ว่าเกี่ยว เขาสบายใจขึ้น เลยดำเนินการสั่งตัดไฟ ยืนยันฝั่งมท.ไม่มีอะไรไปมากกว่ากังวลเรื่องข้อกม.ธุรกิจ เราเลยยเซ็นคำสั่งให้กลางดึงและแอ๊กชันทันทีตั้งแต่เมื่อคืน กต.แจ้งสถานทูต และกฟภ.แจ้งคู่สัญญาให้เตรียมการ
การเตรียมการเรื่องไฟ ทางโน้นเขาเตรียมการมานานแล้ว 1. ตัดไฟทันที 9 โมงเช้าวันนี้ ให้กต.ชี้แจงรบ.เมียนมาให้ชี้แจงหน่วยงานเกี่ยวข้องให้พลังงาน พาณิชย์ควบคุมส่งออกน้ำมันไปเขตแดนที่เราประกาศ 5 จุด ให้กสทช.ตัดเน็ตทั้งหมดอีกครั้ง ส่วนจะลักลอกหรือไม่ก็เป็นไปได้ แต่เราก็ให้ทางทหารไปเคลียร์และเตรียมกำลังแก้ปัญหาชายแดนแล้ว เราทำเต็มที่หากอะไรจะเกิดก็จะแก้กันต่อ
นายภูมิธรรมกล่าวว่า ทั้งนี้ในวันพรุ่งนี้ (6ก.พ.) ตนและคณะจะบินไปแม่สอด เพื่อไปดูหน้างานและกองกำลังราชมนู เพราะเขาด่านหน้า ต้องไปคุยกับเขา ยืนยันว่าเรื่องนี้คิดมานานแล้ว แต่ยากเพราะกระเทือนชายแดน มนุษยธรรม ต้องชั่งใจความมั่นคงว่า ทำแล้วแปัญหาจริงๆ ไม่อยากผลีผลาม ถามว่าเรามีผลกระทบไม๊ก็กระทบ เราต้องชั่งใจมาก จะตัดสินใจบนอารมณ์ไม่ได้ ต้องเอามาประกอบทั้งหดม
“พรุงนี้ไปส่งเชิงสัญลักษณ์ว่ารบ.เอาจริง และไบอกจนท.ว่ารบ.เอาจริง เพื่อให้เขามั่นใจว่ามีกำแพงให้พิงหากเขาไปเจอขาใหญ่ หากเจอขาใหญ่ให้แจ้งผบ.ตร.ตรวจสอบ”
ถาม ทางสมช.รายงานข้อมูลลับขึ้นมาว่า 4-5 บริษัทที่ซื้อไฟไปขาย อีรุงตุงนังกับคอลและพนันออนไลน์จริงหรือไม่
ตอบว่ามีการใช้ไฟเกินปริมาณที่ควรจะเป็นมาก แต่เขาไม่ได้ไปต่อ ผมเลยว่าควรต้องแจ้งว่ามาว่ามากไปหรือไม่ควรมาถามเรา พอถามเราๆ รู้ว่ามีคอลอยู่ เมื่อเราตรวจสอบก็พบข้อมูลเป็นแบบนั้น และได้รับการยืนยัน เป็นเรื่องความเดือดร้อนนานาชาติจริงๆ พอเราไล่จับก็หนีไปทำที่อื่น เราตัดสินใจเรื่องความปลอดภัย ความั่นคง เป็นภัยนานาชาติ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มนุษยธรรม ภัยของโลก และภัยร้ายของเราเองเพราะมีคนถูกหลอกไปเป็นแสนๆ คน นายกเลยสั่งการว่าต้องจัดการให้เด็ดขาด