ม.หอการค้า ลุ้นไทยไม่โดนสหรัฐขึ้นภาษี ชี้พาณิชย์ทำถูกทาง บินลอบบี้สหรัฐก่อนเกิดปัญหา
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินผลกระทบต่อประเทศไทยจากมาตรการทรัปม์2.0ได้ เพราะ ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าไทยจะถูกขึ้นภาษีจากสหรัฐอเมริกา เพราะล่าสุดไทยยังไม่อยู่ในบัญชีรายชื่อที่สหรัฐอเมริกาประกาศจะขึ้นภาษี
นอกจากนี้ หากวิเคราะห์เจาะลึกมาตรการทรัปม์ 2.0 หรือมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าที่ผ่านมา จะเห็นว่าทรัมป์ใช้มาตรการนี้เพื่อวัตถุประสงค์ 2 อย่าง คือ1. ใช้เป็นมาตรการในการเจรจาต่อรองเพื่อให้ประเทศต่างๆ แก้ปัญหาภายในให้สหรัฐ ไม่ได้ตั้งใจขึ้นภาษีจริงๆ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเรื่องผู้อพยพ และปัญหายาเสพติด
โดยที่ผ่านมาสหรัฐฯประกาศขึ้นภาษีโคลัมเบีย 25% เพื่อต่อรองเรื่องให้ซื้อเครื่องบินเมื่อดีลสำเร็จสหรัฐฯก็ยกเลิกขึ้นภาษีโคลัมเบีย ขณะที่ แคนาดา เม็กซิโก ถูกประกาศขึ้นภาษีเพียงวันเดียว สหรัฐฯก็ประกาศผ่อนผันออกไปให้อีก1เดือน หลังจาก2ประเทศตกลงจะเร่งแก้ปัญหายาเสพติด และผู้อพยพ
2.ใช้เพื่อทำสงครามการค้า แก้ไขปัญหาการขาดดุลการค้า จะเห็นว่าขณะนี้มีเพียงจีนประเทศเดียวที่สหรัฐฯประกาศทำสงครามการค้าจริงๆ โดยใช้มาตการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 10% เป็นการใช้มาตรการขึ้นภาษีเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีการยื่นข้อเสนอเพื่อเจรจาต่อรองเรื่องอื่นๆแต่อย่างใด แต่จะสังเกตุเห็นว่า อัตราที่ขึ้นก็ยังต่ำกว่า 65% ตามที่ทรัมป์เคยหาเสียงไว้ ขณะที่จีนเองก็ตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ รวมทั้งฟ้องร้องสหรัฐฯต่อองค์การการค้าโลกหรือWTO ถือว่าเป็นสงครามการค้าเต็มรูปแบบ
“ขณะนี้สหรัฐฯทำสงครามการค้ากับจีน เพียงประเทศเดียวเท่านั้น ด้วยการขึ้นภาษีจริงๆ แต่ยังไม่ได้พูดหรือบอกว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าประเทศอื่นๆที่มีการเกินดุลการค้าสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นไทย เวียดนาม เกาหลี หรือญี่ปุ่น ส่วนที่ระบุว่าไทยอาจจะโดนขึ้นภาษีในช่วงเดือนเม.ย.นี้นั้น เป็นเพียงการคาดการณ์ของหน่วยงานต่างๆ หลังจากที่สหรัฐฯออกมาประกาศว่าอาจจะมีการขึ้นภาษีระลอก2 ในเดือนเม.ย.”
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า กรณีที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินทางเยือนกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 4-8 ก.พ.2568 เพื่อเจรจาลอบบี้และทำความเข้าใจกับหน่วยงานรัฐบาลและภาคเอกชนของก่อนที่ไทยอาจจะถูกขึ้นหรือไม่ขึ้นภาษีนั้น ถือว่ารัฐบาลมาถูกทางแล้ว เชื่อว่าจะช่วยลดความเสี่ยงให้กับไทยได้มาก
อย่างไรก็ตามขณะนี้สำนักข่าวต่างชาติรายใหญ่ได้รายงานข่าวระบุว่ารัฐบาลไทยอยู่ระหว่างการเจรจาต่อรองกับสหรัฐ โดยสหรัฐฯขอให้ไทยนำเข้าสินค้าบางรายการจากสหรัฐฯเพิ่มขึ้นเพื่อแก้ปัญหาขาดดุลการค้า หากเจรจาสำเร็จไทยก็อาจจะไม่ถูกขึ้นภาษีก็เป็นไปได้
อย่างไรก็ตาม ไทยจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่าสหรัฐฯจะประกาศปรับเพิ่มอัตราภาษีนำเข้ากับจีนอีกหรือไม่ ซึ่งหากจีนถูกกระทบหนักขึ้นไทยก็อาจจะได้อนิสงส์จากการส่งออกสินค้าไปทดแทนจีนในตลสดสหรัฐ โดยเฉพาะเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และยางและผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น
ทั้งนี้เชื่อว่าการส่งออกสินค้าไทยไปจีนยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่องแม้ว่าจีนจะถูกสหรัฐทำสงคราม เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนในปีนี้จะยังสามารถเติบโตได้ดีราว 4-5%