ในขณะที่กำลังถกเถียงกัน หลังผลการเลือกตั้ง 47 นายกอบจ. โดยพุ่งเป้าไปที่นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่ง เดินสายหาเสียงให้พรรคเพื่อไทย นำมาสู่คำถามว่า ผลที่ออกมาสะท้อนว่าทักษิณยังมีมนต์ขลังหรือไม่
ขึ้นกับจุดยืนและมุมมอง ได้แค่ 10 จาก 16 เท่ากับหมดมนต์ขลังแล้ว แต่อีกมุมคือ ได้ถึง 10 จาก 16 ยังคงมากมนต์ขลัง!
จาก 1 กุมภาพันธ์ วันเลือกตั้ง 47 นายกอบจ. และสมาชิกอบจ. 76 จังหวัดทั่วประเทศ
แต่ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ นายทักษิณบินไปอยู่ที่มาเลเซียแล้ว เพื่อร่วมประชุมกับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกฯ มาเลเซียและประธานอาเซียน
นายอันวาร์โพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า การประชุม ที่มีประสิทธิภาพกับนายทักษิณ อดีตนายกฯ ของไทย ซึ่งเป็นประธานคณะที่ปรึกษาอย่างไม่เป็นทางการ
ได้หารือในประเด็นสำคัญหลายประเด็น สถานการณ์ในเมียนมา การพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลอย่างคริปโต เคอร์เรนซี!!
ก่อนหน้านี้ นายอันวาร์เคยให้คำอธิบายว่า การตั้ง นายทักษิณมาเป็นที่ปรึกษาของประธานอาเซียน เพราะมี เครือข่ายความสัมพันธ์ ที่สามารถสร้างสันติภาพในพม่าได้
รวมทั้งสันติภาพใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ และการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ
เท่ากับว่า นายทักษิณกำลังเดินหน้าทำบทบาทที่สำคัญ ในระดับภูมิภาคอาเซียน!
ทั้งสร้างสันติภาพพม่า สันติภาพชายแดนไทยกับมาเลเซีย และการพัฒนาเงินดิจิทัล เพื่อยกระดับเศรษฐกิจ
ในบ้านเรายังเถียงกันว่าทักษิณยังมีมนต์ขลังหรือไม่ แต่ในระดับอาเซียน คงยังเชื่อว่าทักษิณยังมีมนต์ขลัง!!
แต่ก็ยังต้องรอดูว่า ทักษิณจะสร้างผลงานในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียนได้มากน้อยเพียงใด
จะเป็นเครื่องพิสูจน์ เครือข่ายความสัมพันธ์ และบารมี ว่ายังมีมากพอหรือไม่
สำคัญสุด อยู่ที่ผลงานการสร้างสันติภาพในพม่า เป็นเรื่องใหญ่ ยุ่งยากซับซ้อน!?!
มากด้วยอิทธิพลของมหาอำนาจถึง 3 ฝ่าย กลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ หลากหลายกลุ่ม
จะทำให้อาเซียนยุคนายอันวาร์ มีผลงานชิ้นโบแดง หยุดสงครามที่ยืดเยื้อสูญเสียมากมายได้เมื่อไหร่ อย่างไร
ถ้าทำได้จริง ไทยเราเองที่มีชายแดนติดกับพม่า ยาวเหยียดจะได้ประโยชน์มหาศาล
เมื่อหมดสนามรบก็จะมีแต่สนามการค้า การหยุดปัญหาเผาป่าเผาไร่นำมาซึ่งฝุ่นละอองที่กระทบไทย เรื่องใหญ่ คือฐานของมิจฉาชีพออนไลน์ และโรงผลิตยาบ้า
หยุดสงครามพม่า จะสร้างประโยชน์ให้ไทยได้แน่นอน
รอดูฝีมือทักษิณและอาเซียนยุคอันวาร์
ทั้งยังพิสูจน์มนต์ขลังของทักษิณในระดับ ข้ามชาติอีกด้วย!!
วงค์ ตาวัน