เปิดตัวเลขาธิการ สคส. พร้อมรับโจทย์ท้าทาย เดินหน้าข้อมูลรั่วไหลเป็น "0"
เมื่อวันที่ 6 ก.พ.68 สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC ประกาศแต่งตั้ง พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ เข้ารับตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อย่างเป็นทางการแทน ดร.เวทางค์ พ่วงทรัพย์ ซึ่งดำรงตำแหน่งรักษาการแทนมาก่อนหน้านี้ พร้อมประกาศจุดยืนในการขับเคลื่อน PDPC สู่ระดับสากล เดินหน้าสานต่อนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเชิงรุก วางมาตรการเข้มข้นเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล ตั้งเป้าผลักดันไทยสู่มาตรฐานสากล สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและภาคธุรกิจ โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือ ข้อมูลรั่วไหลเป็น “0” ด้วย 4 กลยุทธ์หลัก มาตรการป้องปราม, มาตรการป้องกัน, การผนึกกำลัง และการพัฒนาเทคโนโลยี
พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กล่าวว่า ในโอกาสที่เข้ารับตำแหน่งนี้ มีความตั้งใจจะสานต่อนโยบายเดิมของ สคส. โดยมุ่งเน้นการยกระดับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทยให้มีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล และเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก ด้วยกลยุทธ์หลักสำคัญทั้ง 4 ด้านคือ
1. มาตรการป้องปราม:
• เสริมความแข็งแกร่งของ PDPC Eagle Eye ศูนย์เฝ้าระวังข้อมูลรั่วไหล ให้สามารถตรวจจับการละเมิดผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น
• ตั้งเป้าตรวจสอบการรั่วไหลของข้อมูล ไม่น้อยกว่า 50,000 หน่วย ภายในปีงบประมาณ 2568
• เพิ่มขีดความสามารถของ PDPA Center ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน ให้สามารถรองรับปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมขยายศูนย์บริการเป็น 10 แห่งทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้าถึงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างทั่วถึง
2.มาตรการป้องกัน:
• บังคับใช้มาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัดกับหน่วยงานรัฐและเอกชน
• ผลักดัน Trust Mark เป็นเครื่องหมายรับรองมาตรฐานด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ประชาชนและภาคธุรกิจมั่นใจว่ามาตรฐานเป็นไปตามข้อกำหนดสากล
• กำหนดให้หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น 7,850 หน่วย แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้เกิดมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ
3.การผนึกกำลัง:
• สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับองค์กรในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของไทยก้าวหน้าไปในทิศทางเดียวกับมาตรฐานสากล
• เร่งเผยแพร่ความรู้และสร้างความตระหนักแก่ประชาชนทุกระดับให้เข้าใจถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ลดความเสี่ยงของการละเมิดและอาชญากรรมไซเบอร์
• พัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมสำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนทั่วไป ให้สามารถปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
4.การพัฒนาเทคโนโลยี:
• ปรับปรุงกฎหมายและโครงสร้างองค์กร PDPC ให้มีประสิทธิภาพและทันสมัย รองรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
• พัฒนาระบบดิจิทัลเพื่อเพิ่มความสามารถในการกำกับดูแลและบังคับใช้กฎหมายอย่างรวดเร็ว
• เตรียมความพร้อมในการเข้าร่วม CBPR (Cross-Border Privacy Rules) ของ APEC เพื่อขยายความร่วมมือระดับสากล ผลักดันไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในภูมิภาค
ทั้งนี้ก่อนหน้าที่จะมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการคนใหม่ของ สคส. พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ ได้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบและกำกับดูแล ของ สคส. รับผิดชอบกำกับดูแลศูนย์เฝ้าระวังการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPC Eagle Eye มีผลงานโดดเด่นมากมาย นอกจากนี้ยังเป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย และประสบการณ์การทำงานด้านงานบริหารมากว่า 20 ปี
“เรามุ่งมั่นที่จะสร้างอนาคตที่ปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล โดยเดินหน้าพัฒนาองค์กรให้เป็นต้นแบบด้านการคุ้มครองข้อมูลที่ประชาชน และภาคธุรกิจวางใจได้ ด้วยมาตรการที่เข้มข้น กลยุทธ์ที่ชัดเจน โดยตั้งเป้าสร้างเกราะป้องกันข้อมูลให้แข็งแกร่ง ลดความเสี่ยงจากอาชญากรรมไซเบอร์ และเสริมสร้างความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย ก้าวสู่มาตรฐานสากลอย่างมั่นคง เพื่อไปถึงเป้าหมายข้อมูลรั่วไหลเป็น “0” ได้ในที่สุด” พ.ต.อ.สุรพงศ์กล่าวสรุปในตอนท้าย
#ข่าววันนี้ #ข้อมูลรั่วไหล #สุรพงศ์เปล่งขำ #ข้อมูลส่วนบุคคล #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์