ไทยยามาฮ่า ประกาศแผนธุรกิจ ตอกย้ำแบรนด์ เน้นจุดแข็ง–สร้างความแตกต่างประเดิมส่งYamaha NMAX ลุยตลาดมอเตอร์ไซค์ออโตเมติก เผยพร้อมตั้งเป้าภายใน 3 ปีกลับไปมาร์เก็ตแชร์ที่ 28-30%
นายพงศธร เอื้อมงคลชัย ประธานกรรมการบริหาร ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เปิดเผย ถึงแผนการดำเนินธูรกิจในปีนี้ว่า ยามาฮ่าจะมุ่งเน้นนโยบายการทำตลาดเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างตรงจุด ควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาให้ลูกค้า และการพัฒนาและทำงานร่วมกับผู้แทนจำหน่ายอย่างเข้มข้น
บริษัทเดินหน้าตอกย้ำความเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่ง หลังจากปีนี้ยามาฮ่าก้าวเข้าสู่ปีที่ 61 โดยชูจุดเด่นผ่าน 3 จุด หลักภายใต้แนวคิด “สุดทุกทาง ต่างทุกฟีล” (FEEL THE UNIQUE EXPERIENCE) ได้แก่ 1.สุดทุกทางด้านการดีไซน์ เทคโนโลยี 2.สุดทุกทางด้านการบริการ 3.สุดทุกทางด้านการเข้าถึงไลฟสไตล์ลูกค้าที่ยามาฮ่าจะมุ่งเน้นการสร้างความแตกต่างในการทำตลาด
โดยในปี 2568 ยามาฮ่าตั้งเป้าว่าจะมียอดขายไม่น้อยกว่า 247,000 คัน โต 7% มีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 14.5% เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่ยามาฮ่ามียอดขายที่ 232,000 คัน มีส่วนแบ่งที่ 13.8% และมีส่วนแบ่งทางการตลาดลดลงไป 0.8% ซึ่งบริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด ขณะที่ตลาดรวมมียอดรวมที่ 1.71 ล้านคัน ลดลง 9%
โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกที่กลุ่มรถจักรยานยนต์ออโตเมติกมียอดขายมากกว่ารถแบบโมเป็ด (ครอบครัว) โดยรถออโตเมติกมีสัดส่วนที่จาก 42% เพิ่มเป็น 52% ขณะที่รถโมเป็ด ลดลงจาก 52% เหลือแค่ 42%
ทั้งนี้ ภายในระยะเวลา 3 ปีจากนี้ยามาฮ่าตั้งเป้าว่าจะพยายามเดินหน้ากลับไปยังจุดที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดสุงสุดที่ 28-30% ให้ได้
ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวรถจักรยานยนต์ออโตเมติกรุ่นยอดนิยม อย่างยามาฮ่า เอ็นแม็กซ์ (Yamaha NMAX) ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก มียอดขายรวมมากว่า 4.3 ล้านคันทั่วโลก ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ อย่าง เทคโนโลยี Y-ECVT เข้ามาใช้เป็นครั้งแรกในระบบเกียร์อิเล็กทรอนิกส์มาช่วยควบคุมระบบส่งกำลัง (เกียร์) เพื่อทำให้การขับขี่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
และหวังว่า ยามาฮ่า เอ็นแม็กซ์ (Yamaha NMAX) จะช่วยผลักดันยอดขายรถเซ็กเมนต์นี้ให้โตได้ 50% จากปัจจุบันมีอยู่ราว ๆ 25% ทำให้ยามาฮ่าจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดในกลุ่มรถจักรยานยนต์ออโตเมติก 155 ซีซี จาก 22% เพิ่มเป็น 27-30% ให้ได้
สำหรับเปิดตัวออกมา 2 รุ่นย่อยด้วยกัน ได้แก่