เบิร์กลีย์กรุ๊ป ขนคอนโดหรูกลางกรุงลอนดอน ขายเศรษฐีไทย อยู่ยาว 999 ปี
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ น.ส.ณชนกช์ ปัญญาหิตานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลดีเอ็นลักซ์ ลิฟวิ่งส์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้รับการแต่งตั้งจากบริษัท เบิร์กลีย์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากประเทศอังกฤษเป็นผู้แทนการขาย (เอเจนท์) ตลาดในประเทศไทยให้กับโครงการ TRILLIUM London W2, Zone 1 ซึ่งตั้งอยู่ย่าน Prime Central London ใจกลางกรุงลอนดอน บนเนื้อที่ 3 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินราคาแพงผืนสุดท้าย พัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม จำนวน 3 อาคาร สูง 23-40 ชั้น รวม 556 ยูนิต และไพรเวตอพาร์ตเมนต์ 337 ยูนิต มีทั้งห้องแบบสตูดิโอ และ 1-3 ห้องนอน พร้อมด้วยพื้นที่ส่วนกลาง เช่น สวนสาธารณะ สระว่ายน้ำ ห้องอาหาร เป็นต้น ราคาเริ่มต้น 675,000 ปอนด์ หรือ 28.6 ล้านบาท สูงสุด 220 ล้านบาท เป็นเพนต์เฮาส์ โดยเปิดขายตึกแรกสูง 23 ชั้น จำนวน 149 ยูนิต จะสร้างเสร็จปลายปี 2571 และเสร็จทั้งหมดในปี 2573
น.ส.ณชนกช์กล่าวว่า สำหรับโครงการเป็นการซื้อแบบลีสโฮลด์ ระยะเวลา 999 ปี ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมีทั้งนักลงทุนซื้อปล่อยเช่าและผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัย แต่ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุน เนื่องจากลอนดอนมีความต้องการในการเช่ามากกว่าซัพพลายที่มีอยู่ในตลาดหลังโควิด-19 จนต้องแย่งกันเช่า และเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปีทั้งอัตราค่าเช่าและผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า อย่าง 1 ห้อง ค่าเช่าอยู่ที่ 150,000 บาทต่อเดือน, 2 ห้องนอน 200,000 บาทต่อเดือน, 3 ห้องนอน 400,000 บาทต่อเดือน ซึ่งในวันที่ 7-8 กุมภาพันธ์นี้ จะนำห้องของอาคารแรกเปิดให้ลูกค้าคนไทยได้จอง ซึ่งมีการลงทะเบียนไว้ล่วงหน้าร่วม 100 คน ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนซื้อปล่อยเช่า ตั้งเป้าจะมียอดขายจากลูกค้าคนไทยประมาณ 20%
สำหรับเงื่อนไขการซื้อต้องมีการวางเงินจอง 200,000 บาท หลังจากนั้นอีก 1 เดือน วางเงินทำสัญญา 10% ของราคาขาย จากนั้นจ่าย 10% ใน 1 ปีถัดไป และใน 24 เดือนจากนั้นจ่ายอีก 10% ส่วนอีก 70% จ่ายวันโอน
“ในช่วง 2-3 ปีนี้ คนไทยไปซื้ออสังหาริมทรัพย์ในลอนดอนเพื่อการลงทุนกันมาก เพราะค่าเช่าปรับขึ้นทุกปีเฉลี่ย 10-12% และเมื่อปี 2567 ติดท็อป 3 มีทั้งซื้อด้วยเงินสดและการขอสินเชื่อ สำหรับปี 2568 นี้น่าจะเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงนี้ถือเป็นจังหวะเหมาะเงินบาทแข็งค่า เงินปอนด์อ่อน จะทำให้ได้ราคาที่ดี” น.ส.ณชนกช์กล่าว
นายฌอน บาร์เร็ตต์ กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้ง บริษัท ฟายน์ แอนด์ คันทรี กล่าวว่า ปี 2568 แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงลอนดอนยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่าราคาอสังหาริมทรัพย์อาจปรับตัวขึ้นประมาณ 2-4% หากเศรษฐกิจอังกฤษฟื้นตัวและธนาคารกลางอังกฤษปรับลดอัตราดอกเบี้ย สถานการณ์ดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นของผู้ซื้อและนักลงทุน ทั้งนี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในลอนดอนยังมีความแตกต่างกันในแต่ละโซน โดยเฉพาะย่านใจกลางเมืองและพื้นที่ที่มีโครงสร้างพื้นฐานดียังคงมีดีมานด์สูงและราคามีแนวโน้มปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ย่านชานเมืองมีอัตราการเติบโตที่ชะลอตัว
“หากเศรษฐกิจอังกฤษมีเสถียรภาพและฟื้นตัวจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง กลุ่มคนทำงาน นักศึกษาต่างชาติ และนักลงทุน แถบเอเชียและตะวันออกกลาง ซึ่งยังคงให้ความสนใจตลาดอสังหาริมทรัพย์ในลอนดอน และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ระดับหรู โดยเฉพาะโครงการเพื่อการลงทุน” นายฌอนกล่าว
นางนาเน็ต ฮวง หัวหน้าฝ่ายขาย เซนต์เอ็ดเวิร์ด โฮม บริษัท เบิร์กลีย์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ กล่าวว่า ศักยภาพของทำเลที่ตั้งโครงการ “TRILLIUM” LONDON W2 Zone 1 ซึ่งอยู่ในย่าน West End ใจกลางกรุงลอนดอน หรือลอนดอน โซน 1 เป็นย่านที่คนไทยคุ้นชิน รายล้อมด้วยแลนด์มาร์คที่สำคัญ พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นย่านที่มีความต้องการสูง ทั้งกลุ่มลูกค้าซื้อเพื่อการลงทุน และซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง เพราะสามารถเดินทางไปยังถนนอ็อกซ์ฟอร์ดได้อย่างสะดวก ยังอยู่ตรงข้ามกับ Edgware Road Station ใกล้กับสถานีแพดดิงตัน ที่เป็นสถานีหลักของกรุงลอนดอน และรายล้อมไปด้วยแหล่งสถานศึกษามหาวิทยาลัย เช่น London Business School เป็นต้น