"ชุติพงศ์"ชี้ปลายทางเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับเข้ากลุ่มทุนในไทย จ่อเชิญธนาคารหารือติดตามบัญชีม้า
เมื่อวันที่ 7 ก.พ.68 ที่รัฐสภา นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ ส.ส.ระยอง พรรคประชาชน ประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกัน ปราบปรามและแก้ไขปัญหาขบวนการค้ามนุษย์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์และบัญชีม้า ในคณะกรรมาธิการความมั่งคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมาธิการนัดแรก
นายชุติพงศ์ กล่าวว่า มีการพูดคุยเรื่องกรอบการทำงาน เพื่อศึกษาตั้งแต่กระบวนการหลอกคนไปทำงาน การนำข้อมูลส่วนตัวของประชาชนไป กระบวนการที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้หลอกลวง ข้อมูลที่จะรั่วไหล รวมถึงภายหลังการหลอกลวง เมื่อมีการอายัดทรัพย์สิน เพื่อนำไปชดเชยให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งมีการพูดคุยถึงข้อเสนอ และหน่วยงานที่จะเชิญเข้ามาพูดคุย จากหลายภาคส่วน ทั้งฝ่ายความมั่นคง หรือทหาร ตลอดจนธนาคาร ในเรื่องบัญชีม้า เพื่อหาข้อสรุปในเรื่องนี้ ซึ่งหลายคนก็ได้ให้ความเห็นที่น่าสนใจ นอกเหนือจากการตัดไฟที่ได้ดำเนินการไปแล้วก่อนหน้านี้ ยังมีผลกระทบที่เกิดขึ้น และมาตรการที่จะต้องดำเนินการต่อ รวมถึงการถอดบทเรียน เนื่องจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่ได้มีเพียงแค่ฝั่งเมียนมา แต่ยังมีบริเวณที่ติดชายแดนไทย ทางฝั่งกัมพูชา และ สปป.ลาว ด้วย มีหลายหน่วยงานศึกษาปลายทางของเงิน ซึ่งพบว่าตกไปอยู่ที่ใดบ้าง และเป็นที่น่าสนใจว่า เงินส่วนนี้ปลายทางสุดท้ายปรากฏว่า กลับเข้ามาอยู่ที่ประเทศไทย อยู่กับกลุ่มทุนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเราต้องทำการศึกษาต่อไป เพื่อให้เกิดภาพที่จะเชื่อมโยงของกระบวนการทั้งหมด เพื่อเป็นความหวังในการติดตามเอาผิด และยึดทรัพย์ ระยะเวลา 8 สัปดาห์หลังจากนี้ เราคาดหวังว่าจะทำรายงานให้เสร็จ เนื่องจากเป็นเรื่องเร่งด่วนและสำคัญมาก ไม่อยากให้เนิ่นช้าไป เราอยากจะยุติวงจรนี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้มีการตั้งตำแหน่งต่างๆ ในคณะอนุกรรมาธิการ ดังนี้ นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ เป็นประธานคณะอนุกรรมาธิการ นายปิยรัฐ จงเทพ เป็นรองประธานคณะอนุกรรมาธิการ นายกัณวีร์ สืบแสง เป็นรองประธานคณะอนุกรรมาธิการ น.ส.รักชนก ศรีนอก เป็นรองประธานคณะอนุกรรมาธิการ นายปกรณ์ อารีกุล เป็นเลขานุการคณะอนุกรรมาธิการ น.ส.อิศมลต์ เจียมสวัสดิ์ เป็นผู้ช่วยเลขานุการคณะอนุกรรมาธิการ รวมทั้งมีการแต่งตั้งบุคคลภายนอกร่วมเป็นที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการด้วย