“ลุงป้อม “ ยังอยู่ !?
GH News February 08, 2025 08:05 AM

เหนือไปกว่าเกมการเมือง คือเกมการต่อสู้ที่ยังเดินไปไม่ถึง “ฉากจบ” ยิ่งเมื่อ วันนี้ในสภาพความเป็นจริงแล้ว แม้ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 23 จะได้กลับมาผงาด บนสังเวียน แต่ยังไม่มีใครการันตีได้ว่าภาพที่เห็นนั้น จะจีรังได้หรือไม่

หลังการเลือกตั้งสมาชิกสภาและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด จบลงเมื่อวันที่ 1 ก.พ.68 ที่ผ่านมา แน่นอนว่า ไม่เพียงแต่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะ พรรคใหญ่เท่านั้นที่จะต้องถอดบทเรียนผลการเลือกตั้งที่เกิดขึ้น ว่าอะไรที่ทำให้พรรคเดินไปไม่ถึงเป้าหมาย

เมื่อ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคระบุว่า จริงๆแล้วอยากได้ “ทั้งหมด” คือ 16จังหวัดที่พรรคส่งผู้สมัครลงสนาม แต่ก็ได้มาเพียง 10 ที่นั่ง

เมื่อพรรคเพื่อไทยขยับ ไปตามเป้าหมายที่ ทักษิณ ได้เคยประกาศเอาไว้หลายต่อหลายครั้งว่า เลือกตั้งสนามใหญ่รอบหน้า ในปี 2570 พรรคจะต้องได้สส.200 ที่นั่ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า พรรคการเมืองอื่นๆ จะยอมนิ่งเฉย แล้วดูการปรับทัพของพรรคเพื่อไทยด้วยความใจเย็นได้

โดยเฉพาะ “ศัตรู” ของทักษิณ อย่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่เหมือนว่าวันนี้ พรรคอ่อนแรงลง หลังจากที่เจอปฏิบัติการ “ตีเมืองจนแตก” จากทักษิณ ดึง “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” สส.พะเยา ในฐานะที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ออกจากพรรคพลังประชารัฐ และบีบให้ กลุ่มของบิ๊กป้อม ต้องออกจากครม. “แพทองธาร1” ที่ผ่านมา  

การประชุมใหญ่ของพรรคกล้าธรรม เมื่อวันที่ 3ก.พ.68 ที่ผ่านมา สาระสำคัญที่สุดอยู่ที่ “ท่าที” จากร.อ.ธรรมนัส มากกว่าการสำรวจรายชื่อ โครงสร้างพรรค ว่าใครคือหัวหน้าพรรค หรือใครคือเลขาฯพรรค เมื่อในความเป็นจริงแล้ว ร.อ.ธรรมนัส คือผู้คุมทิศทางของพรรคผู้เดียว

หากเทียบกันแล้วอาจต้องยอมรับว่า “บรรยากาศ” ที่พรรคกล้าธรรม นั้นคึกคักมากกว่าพรรคพลังประชารัฐ ที่วันนี้อยู่ในสถานะ “ฝ่ายค้าน” ไปเรียบร้อยแล้ว  แต่สำหรับพรรคกล้าธรรม ยังมีคำถามชวนลุ้น จากสื่อว่า ร.อ.ธรรมนัส ยังมีสิทธิได้เข้าไปนั่งในตำแหน่งรัฐมนตรี หรือไม่หากมีการปรับครม.ครั้งหน้า

วันนี้พรรคพลังประชารัฐ แม้จะอยู่ในสถานะฝ่ายค้าน แต่ย่อมไม่ได้หมายความว่า ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมีขึ้นในราวกลางเดือนมี.ค.นี้ “บทนำ” จะเทมาอยู่ที่พลังประชารัฐ  แต่ถึงกระนั้น สิ่งที่พลังประชารัฐ กำลังเคลื่อนไหว คือการเน้นเดินเกมการเมืองนอกสภาฯ  ทั้งการแถลงข่าววิพากษ์วิจารณ์นโยบายต่างๆของรัฐบาล ไปพร้อมๆกับการ “จัดทัพ” เพื่อรักษา และประคับประคอง พลังประชารัฐ ให้ยังอยู่เป็นพรรคมากที่สุด

อย่าลืมว่า ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวในทางที่เป็นลบมาโดยตลอดว่า บิ๊กป้อม อาจจะวางมือบ้าง หรือ แกนนำในพรรค บางคนเตรียม “สละเรือ” เตรียมย้ายพรรค ย้ายค่ายไปอยู่พรรคใหม่ ซึ่งอาจมีหวังเข้าใกล้ “ทำเนียบรัฐบาล” มากกว่า

อย่างไรก็ดี  สำหรับพรรคพลังประชารัฐ วันนี้ ที่เต็มไปด้วยความเงียบงัน หลังจากที่เจอมรสุมรอบด้าน ทั้งจากทักษิณ ไปจนถึง “อดีตลูกน้อง” ของบิ๊กป้อมเอง แต่ขณะเดียวกัน ลึกๆแล้ว ใช่ว่าจะไม่มีความหวัง ว่าการดำรงอยู่ของทักษิณ บนกระดานการเมืองนั้นจะยืดยาวไปได้ตลอด

เมื่อทักษิณยังมีคดีม.112 ที่เจ้าตัวยังติดบ่วงอยู่ พร้อมๆกันนี้ “ฝ่ายแค้น” นอกสภาฯ ที่ล้วนแล้วแต่เคยเป็น “คู่ปรับ” มาตั้งแต่สมัยขับไล่ “ระบอบทักษิณ” แม้จะโรยแรง แต่ใช่ว่าจะ หยุดการเคลื่อนไหว แต่อย่างใด 

เพียงแต่เวลานี้ การดำรงอยู่ของพลังประชารัฐ คือการ “จำศีล”  เพื่อรักษา “พรรค” เอาไว้ ให้อยู่ไปจนถึง จังหวะที่ ทักษิณ ไปต่อไม่ได้ ก็เท่านั้น !

 

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.