FIVB พอใจตรวจสนาม 4 จังหวัด ไทยจัดศึกวอลเลย์บอลโลก รอเคาะข้อสรุปปรับปรุง
สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) พอใจการตรวจสนามเบื้องต้น จากที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 ทั้ง 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา, เชียงใหม่, ภูเก็ต และ กรุงเทพมหานคร คาดว่าในสินเดือนนี้จะได้ข้อสรุปข้อปรับปรุงสถานที่จัดการแข่งขันที่ชัดเจน ประเมินว่าคุ้มค่ากับชื่อเสียงของประเทศไทย และมูลค่าทางเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยว อย่างแน่นอน
นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากที่ผู้แทนสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) และคณะทำงานของวอลเลย์บอลเวิลด์ เดินทางมาประเทศไทยเพื่อตรวจมาตรฐานการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 ระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม-7 กันยายน รวม 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา, เชียงใหม่, ภูเก็ต และกรุงเทพฯ
สำหรับจังหวัดแรกคือ นครราชสีมา ซึ่งมีสนามชาติชายฮอลล์ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ที่มีความเป็นมาตรฐานระดับนานาชาติ เคยใช้จัดการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลหญิงหญิงแชมป์เอเชีย และวอลเลย์บอลเนชั่นส์ลีกมาแล้ว โอกาสนี้ทางสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ยังเสนอให้ตรวจมาตรฐานของเทอร์มินอลฮอลล์ ซึ่งตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของ FIVBด้วย เนื่องจากมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งนี้ความพร้อมด้านสถานที่จัดการแข่งขันนอกจากเรื่องสนามแข่งแล้ว ยังมีเรื่องของสนามซ้อม ฟิตเนส และที่พักด้วย
สำหรับจังหวัดนครราชสีมา จะเป็นเจ้าภาพการแข่งขันรอบแรก ของกลุ่มดี และกลุ่มอี โดยกลุ่มดี ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา, อาร์เจนตินา, สาธารณรัฐเช็ก และ สโลวีเนีย ส่วนกลุ่มอี ประกอบด้วย ตุรกี, แคนาดา บัลแกเรีย และสเปน
จากนั้น ผู้แทนสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) เดินทางไปยังจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสำรวจพื้นที่ภายในศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่ สำหรับการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 ในรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งภายในมีพื้นที่ใช้สอยได้ประมาณ 60,000 ตารางเมตรแบ่งเป็นห้องย่อย พร้อมใช้งานส่วนต่างๆสำหรับการแข่งขัน ด้านที่นั่งหลังติดตั้งอัศจรรย์คาดว่าจะสามารถจุผู้ชมได้ไม่ต่ำกว่า 5,000 ที่นั่ง
ทั้งนี้ยังต้องปรับพื้นที่เพดานเพื่อติดตั้งไฟและกล้องชาลเลจน์ ซึ่งต้องขออนุญาตกับเจ้าของสถานที่ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์จำกัด คาดว่าต้องใช้งบประมาณการปรับสนามแข่งขันรวมค่าเช่าพื้นที่ไม่ต่ำ 20 ล้านบาท โดยประเมินว่าคุ้มค่ากับชื่อเสียงของประเทศไทย และมูลค่าทางเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยว
สำหรับจังหวัดเชียงใหม่จัดแข่งขันรอบแรกสำหรับ 2 กลุ่มคือ กลุ่มซี และกลุ่มเอฟ โดยกลุ่มซี ได้แก่ บราซิล, เปอโตริโก ฝรั่งเศส และกรีซ กลุ่มเอฟ ได้แก่ จีน, โดมินิกัน โคลัมเบีย และเม็กซิโก
จากนั้น ผู้แทนสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) เดินทางลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยได้รับการต้อนรับจาก นายธรรมวรรธ วงศ์เจริญยศ กรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย ประเภทผู้แทนสมาคมกีฬาจังหวัดและนายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดภูเก็ต ที่ยิมเนเซียม 4,000 ที่นั่ง ศูนย์กีฬาสะพานหิน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งยิมเนเซียม 4,000 ที่นั่งรวมถึงสนามฝึกซ้อม ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของเทศบาลนครภูเก็ต มีความพร้อมรองรับการแข่งขันระดับนานาชาติได้
สำหรับจังหวัดภูเก็ต เป็นเจ้าภาพรอบแรก ซระหว่างวันที่ 22–27 สิงหาคม โดยแบ่งการแข่งขันเป็น 2 สาย ได้แก่ สายบี อิตาลี, เบลเยียม, คิวบา, สโลวาเกีย และสายจี โปแลนด์, เยอรมนี, เคนยา, เวียดนาม
ด้าน อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก ซึ่งถือว่าเป็นสนามหลักของวอลเลย์บอลทีมชาติไทยอยู่แล้ว จัดแมตช์ระดับนานาชาติทุกรายการ อาจมีต้องปรับปรุงสนามรองรับเทคโนโลยีถ่ายทอดสดที่เพิ่มขึ้น โดยทีมชาติไทย อยู่ในกลุ่มเอ ร่วมสายเดียวกับ เนเธอร์แลนด์,สวีเดน และ อียิปต์กับ และกลุ่ม เอช ญี่ปุ่น, แคเมอรูน, ยูเครน, เซอร์เบีย จะแข่งสนามนี้
นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การตรวจสนามในแต่จังหวัด ทั้งกรุงเทพฯ, นครราชสีมา, เชียงใหม่ และภูเก็ต ยังเป็นการตรวจความพร้อมในด้านต่างๆ ของ FIVB ด้วย ทั้งด้านที่พัก การเดินทาง สิงอำนวยความสะดวกต่างๆ ซึ่งทาง FIVB มีความพอใจในเบื้องต้น แต่ก็ยังต้องรอข้อแก้ไขจากทาง FIVB สรุปมายังสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลฯ อีกครั้ง ซึ่งในสัปดาห์หน้าน่าจะลงตัวว่าจะจัดแข่งขันที่สนามไหนอย่างไรบ้าง ประเมินว่างบประมาณที่ใช้ในการปรับปรุงสนามคุ้มค่ากับชื่อเสียงของประเทศไทย และมูลค่าทางเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยว อย่างแน่นอน
ขณะที่ ร.อ.ท.ชาญฤทธิ์ วงษ์ประเสริฐ เลขาธิการกิตติมศักดิ์ สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ทางสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ กำลังสรุปว่าแต่ละสนามต้องปรับปรุงอย่างไรบ้าง อย่าง เทอร์มินอล 21 โคราช ถ้าเลือกใช้ก็ต้องเพิ่มอัฒจันทร์ให้ได้ 4,000 ที่นั้ง หรืออาจไปเลือกใช้สนามชาติชายฮอลล์ ส่วนอินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก จะต้องเพิ่มคานต่างๆ ในส่วนของการถ่ายทอดสดกล้องแบบพิเศษก็ยังต้องรอลายละเอียดในการปรับปรุง ส่วนเรื่องที่พักต่างๆ FIVB ก็พอใจในแต่ละจังหวัด คาดว่าในสินเดือนนี้จะได้ขอสรุปในการเลือกใช้สนาม เนื่องจากจะเกี่ยวพันกับเรื่องการออกตั๋วที่นั้งในแต่ละสนามด้วย และยังต้องออกโปรแกรมเวลาแข่งขันให้เหมาะสมกับช่วงเวลาของแต่ละประเทศด้วย
