‘ณัฐพงษ์’ หัวหน้าพรรคประชาชน ลุยติดตามสถานการณ์ไฟป่า – ช้างป่ากาญจนบุรี จี้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าติดตามและแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ
เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วยคณะทำงานจังหวัดพรรคประชาชน จังหวัดกาญจนบุรี ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ไฟป่า อำเภอสังขละบุรี และปัญหาช้างป่า อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
โดย นายณัฐพงษ์ ระบุว่า ในช่วงเช้าผมได้เดินทางมายังอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรีเพื่อรับฟังปัญหาจากประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาช้างป่ารุดเข้าทำลายพืชผลการเกษตรและบ้านเรือนพี่น้องประชาชนเป็นเหตุให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมากตลอดหลายปีที่ผ่านมา
โดยแนวทางการแก้ไขช้างป่านี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการขยายตัวของชุมชน ในขณะเดียวกันก็ต้องอนุรักษ์สัตว์ป่าการแก้ไขปัญหาจึงต้องอย่างเป็นระบบ โดยต้องแบ่งการบริหารจัดการในระยะสั้นก่อน เพื่อนำไปสู่ระยะกลางและยาวต่อไป
นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อไปว่า ในระยะสั้นควรปรับหลักเกณฑ์วิธีการจ่ายค่าชดเชยและเยียวยาให้เป็นธรรมกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาช้างป่า พร้อมชูตั้งทีมอาสาป้องกันช้างป่าในทุกหมู่บ้านรอบชายป่า และการจ่ายค่าตอบแทนและสวัสดิการให้กับทีมอาสารวมถึงการจัดหาอุปกรณ์ที่จำเป็นและมีมาตรฐานในการควบคุมช้างป่า เช่น ไฟส่องสว่าง และอุปกรณ์อื่นๆ ให้เพียงพอต่อความต้องการ
ในระยะกลางรัฐบาลหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องเร่งจัดหาเทคโนโลยีมาใช้ในการติดตามดูแลช้าง เช่น ปลอกคอ GPS โดรนจับความร้อน กล้องจับภาพสัตว์ รวมถึงการพัฒนาระบบ GIS และการจัดตั้งศูนย์บริหารข้อมูลช้างป่าในพื้นที่
และในระยะยาวหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องจัดทำแผนการจัดการช้างป่าให้อยู่ร่วมกับคนได้ เช่น การกำหนดพื้นที่อนุรักษ์ช้างป่าให้ชัดเจนเพื่อให้ชุดปฏิบัติการในพื้นที่มองเห็นทิศทางในการผลักดันช้างป่าไปในทางเดียวกันรวมถึงรัฐอาจมีอาจมีนโยบายในการจ้างให้ชาวบ้านไปปลูกพืชที่ใช้เป็นแหล่งอาหารช้างในบริเวณที่กำหนดเพื่อป้องกันไม่ให้ช้างออกมาบุกรุกในที่ดินทำกินของเกษตรกรในอนาคตได้อีกด้วย
ทั้งนี้ในเบื้องต้นตนได้สั่งการให้พรรคประชาชนจังหวัดกาญจนบุรีได้มีการตั้งคณะทำงานช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาช้างป่าขึ้นมาเพื่อทำงานร่วมกันระหว่างพรรคประชาชนและประชาชนในพื้นที่เพื่อช่วยกันผลักดันข้อเสนอและมาตรการในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องครับ
โดยณัฐพงษ์ได้กล่าวต่อไปอีกว่า ในช่วงบ่ายตนได้เดินทางมาที่อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรีเพื่อติดตามวิธีและการวางแผนทำแนวกันไฟของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งที่อำเภอสังขละบุรีเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักจากไฟป่าไม่ต่างจากจังหวัดทางภาคเหนือแต่ประชาชนสะท้อนว่าไม่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐมากนัก ตนจึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งลงพื้นที่ติดตามปัญหาในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีด้วย
และท้ายนี้ตนได้รับการประสานงานจากประชาชนในพื้นที่ว่าขณะนี้สิ่งที่มีความต้องการมากสุด คือ วัสดุอุปกรณ์ในการทำแนวกันไฟ เช่น น้ำมันใส่เครื่องเป่า ไฟฉาย ฯลฯ และอาหารแห้งสำหรับการเดินทางเข้าป่าส่วนเรื่องกำลังคนขณะนี้ไม่มีปัญหามากเพราะเครือข่ายภาคประชาชนมีความเข้มแข็งซึ่งภาครัฐต้องเร่งพิจารณาสนับสนุนในส่วนของค่าตอบแทนหรือสวัสดิการต่าง ๆ เพิ่มเติมได้โดยอาจอุดหนุนงบประมาณผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ใกล้ชิดและเผชิญกับปัญหาหน้างานในขณะนี้