หลานทรพี ป้าพิการ เลี้ยงมาตั้งแต่ยังเล็ก หลังเสียพ่อแม่ คลั่งยาทำร้ายร่างกาย ปามีดใส่คนงานก่อสร้าง หนีตายจ้าวะหวั่น สำนึกผิดบอกไม่ทำอีกแล้ว
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 23 ก.พ.2568 ร.ต.อ.วิฆเนศ ซื่อตรง รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุหลานทำร้ายร่างกายป้าพิการที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็ก แล้วยังอาละวาดพังข้าวของในบ้าน ไล่ทำร้ายร่างกายคนงานก่อสร้าง เหตุเกิดที่ ชุมชนดงวัด เขตเทศบาลนครอุดรธานี หลังรับแจ้งจึงรีบนำกำลังสายตรวจ 191 รุดไปที่เกิดเหตุ
ที่เหตุเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ 2 ชั้น กำลังต่อเติมห้องอยู่ พบ น.ส.ประพิศ (สงวนนามสกุล) อายุ 66 ปี หรือ ยายพิศ เจ้าของบ้าน ชี้ให้จับกุม นายวิทยา (สงวนนามสกุล) หรือ บอล อายุ 30 ปี หลานชาย ที่หลบซ่อนอยู่ในบ้าน ซึ่งยอมออกมาให้ จนท.ตำรวจควบคุมตัวแต่โดยดี
หลังจากที่ก่อนหน้านี้อาละวาดหนัก ทำร้ายตบหน้าป้าที่พิการเลี้ยงดูนายบอลมาและนายบอลเรียกว่าแม่ แล้วใช้ไม้เท้ากระแทกเข้าที่ท้อง แล้วยังไล่ทำร้ายจนคนงานก่อสร้างที่มาต่อเติมบ้าน ต่างวิ่งกระเจิงกันออกจากบ้าน จากนั้น จนท.ตำรวจ จึงควบคุมตัวนายบอล ไปทำการสอบสวนที่ สภ.เมืองอุดรธานี
สอบสวนนายบอล ให้การรับสารภาพว่า ก่อนนี้ได้ใช้กำลังตบป้าหรือที่ตนเรียกว่าแม่ เพราะโมโหที่ต่อเติมบ้านชั้นล่างห้องใหม่ให้ตนอยู่ โดยที่ไม่ให้ไปอยู่ด้วยกันที่ชั้น 2 เหมือนเดิม เหมือนกับไม่ให้ตนอยู่ที่บ้านนี้ด้วย
ยอมรับว่าเมื่อวานนี้(22 ก.พ.) เสพยาบ้ามาครึ่งเม็ด ที่ขว้างมีดใส่คนงาน เพราะโมโหที่พูดคุยด้วยไม่รู้เรื่องแล้วยังท้าทายตนด้วย ตนถือมีดวิ่งเข้าใส่ ตนไม่เคยตีแม่เลยครั้งนี้ครั้งแรก มีแต่ก่อกวนให้แม่โมโห แต่ก็ไม่ชอบที่แม่ชอบแช่งตน ตนขอแค่นี้ ตนตบหรือด่าแม่ก็ผิดมหันต์ สำนึกผิดแล้ว
ด้าน น.ส.ประพิศ กล่าวทั้งน้ำตาว่า นายบอลเป็นลูกของน้องชาย พ่อแม่เขาตายไปตั้งแต่นายบอลยังเล็ก ตนก็เอามาเลี้ยงดูไว้เป็นลูกเผื่อจะได้พึ่งพายามแก่เฒ่า แต่หลานเกเรตั้งแต่เด็ก ทั้งเสพยาบ้าและกัญชา
เมื่อเช้านี้นายบอลมาโวยวายขอให้ต่อเติมห้องให้เสร็จเร็วๆ ตนก็บอกว่าก็ค่อยๆทำไป แม่ก็ไม่มีเงิน นายบอลโวยวายคุยไม่รู้เรื่อง อาละวาดพังตู้เสื้อผ้า ทุบข้าวของ แล้วเดินมาตบหน้าตน 1 ครั้ง และใช้ไม้เท้าค้ำเดินของตนมากระทุ้งที่ท้อง ขู่ว่าถ้าแจ้งตำรวจมาจับ ออกมาแล้วจะมาฆ่าให้ตาย
“ส่วนตนนั้นก็พิการตั้งแต่อายุ 17 ปี ไปทำงานก่อสร้าง แล้วถูกไฟฟ้าชอร์ต ต้องตัดขาข้างขวา ไม่มีครอบครัว ตอนนี้ก็ป่วยเป็นเบาหวาน ความดัน ต้องตัดนิ้วเท้าด้านซ้ายอีก แขนก็อ่อนแรง ต้องกินยารักษาโรคทุกวัน
ตนกลัวมากที่หลานมีอาการคลุ้มคลั่ง จึงต้องหาเงินมาสร้างห้องให้เขาอยู่ข้างล่าง กลัวว่าเขาจะอาละวาดและฆ่าตนสักวันหนึ่ง แจ้งตำรวจหลายครั้ง แต่เขาก็บอกทำอะไรไม่ได้ เพราะเหตุยังไม่เกิด คิดว่าเขาคงจะต้องรอให้ตนตายก่อนหรือยังไง อยากให้นำเขาไปบำบัดรักษาให้หาย ตนยังหวาดกลัวและผวาอยู่ พิการแบบตน หากมันคลั่งขึ้นมาอีก ตนจะหนีมันทันได้ยังไง”
ด้านหลานสาวยายพิศ กล่าวว่า ตนมารับเหมาก่อสร้างช่วยยายพิศที่มีศักดิ์เป็นน้า ตอนเกิดเหตุตนยังไม่เข้ามา แต่ยายพิศโทรบอกว่าหลานอาละวาดหนัก ที่ผ่านมารู้ว่าหลานคนนี้ติดยา และมีอาการคลุ้มคลั่งมาตลอด ก็บอกคนงานให้ระมัดระวังตัว
ครั้งนี้นายบอลคลั่งหนักถึงขว้างมีดใส่คนงานที่กำลังทำงานอยู่บนหลังคา โชคดีที่เขาก้มหลบทันไม่เช่นนั้นก็อาจจะคอขาดได้ หลังจากนั้นพวกเขาจึงได้วิ่งหนีแตกกระเจิงไปกันคนละทิศคนละทาง
เบื้องต้นตำรวจได้ตรวจปัสสาวะบอลเพื่อหาสารเสพติด พบว่าปัสสาวะมีผลเป็นบวก จึงแจ้งข้อกล่าวหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย และเป็นภัยต่อสังคม ส่วนข้อหาทำร้ายร่างกาย ต้องรอให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป