Pi Daily รอติดตามประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หากเสียงเริ่มเอนไปทางลดดอกเบี้ย มองเป็นบวกกับตลาด
เมื่อวันที่ 24 ก.พ.68 บล.พาย เผยว่า ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดลบ 748 จุด (-1.7%) ตลาดถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอและอุปสงค์ที่ย่ำแย่ของผู้บริโภค ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 2.6% หลังจากนักลงทุนคลายกังวลกับความเสี่ยงในตะวันออกกลาง
คืนวันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐฯได้รายงานตัวเลขเศรษฐกิจประกอบไปด้วย (1) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากมหาวิทยาลัย Michigan ที่ระดับ 64.7 ต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 67.8 การลดลงของความเชื่อมั่นเกิดขึ้นกับทุกกลุ่มรายได้ ปัจจัยที่ลดลงมากที่สุดคือสินค้าคงทน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากความกังวลว่าการขึ้นราคาสินค้าจากมาตรการภาษีนำเข้าจะเกิดขึ้นในไม่ช้า สอดคล้องกับความคาดหวังต่อสถานะทางการเงินส่วนตัวและแนวโน้มเศรษฐกิจระยะสั้นที่ลดลง 10% จากเดือนก่อนหน้า
ด้านความเห็นเกี่ยวกับเงินเฟ้อพุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 4.3% จากเดือนก่อนที่ 3.3% นับเป็นการเพิ่มอย่างผิดปกติต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง โดยตัวเลขนี้สูงกว่าช่วง 2.3 – 3% ในช่วงสองปีก่อนเกิดการระบาด นอกจากนี้ยังมีรายงานยอดขายบ้านมือสองพบว่าแย่กว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ พร้อมกับ PMI เบื้องต้นภาคผลิตที่แย่กว่าคาดการณ์เช่นกัน กดดันให้ US Bond Yield อ่อนตัวลงในวันศุกร์ ซึ่งหากมองอีกมิติอาจเป็นบวกกับตลาดหุ้นฝั่งเอเชียจากการไหลออกของเงินฝั่งสหรัฐและสถิติที่ผ่านมาการปรับลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯเริ่มไม่มีผลกับตลาดหุ้นไทยอย่างมีนัยยะ
ด้านปัจจัยในประเทศสัปดาห์นี้รอติดตามผลประชุมนโยบายการเงินจากธนาคารแห่งประเทศไทยที่จะทราบผลทางการในวันพุธช่วง 14.00 ข้อมูลล่าสุดจาก Bloomberg Consensus คาดว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ระดับเดิม อย่างไรก็ตามมีบางนักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่าอาจปรับลดดอกเบี้ย 0.25% (4 เสียง / 19 เสียง) ซึ่งหากมองด้วยมิติเงินเฟ้อแล้วก็เป็นไปได้ที่อาจเห็นการลดดอกเบี้ยเพราะเงินเฟ้อไทยค่อนข้างอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่การขยายตัวเศรษฐกิจนั้นพบว่าเริ่มต่ำกว่าสมมติฐานเดิมที่ธนาคารแห่งประเทศไทยวางไว้ (คาดการณ์ 24 ขยายตัว 2.7%YoY แต่ออกมาขยายตัวเพียง 2.5% และมีความเสี่ยงที่คาดการณ์ปี 25 ที่ขยายตัว 2.9%YoY อาจไปไม่ถึงจากความเสี่ยง Global Economic) หากประกาศลดดอกเบี้ยมองเป็นบวกกับเศรษฐกิจและตลาดหุ้น อย่างไรก็ตามกลุ่มธนาคารพาณิชย์อาจรับผลกระทบจากความกังวลส่วนต่างดอกเบี้ย
นอกเหนือจากประชุม กนง. ตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศรอติดตามเงินเฟ้อสหรัฐฯ (PCE) ในคืนวันศุกร์ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 2.5%YoY หากแย่กว่าคาดการณ์จะเป็นปัจจัยหนุนตลาด สัปดาห์นี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1225 – 1260 ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนเน้นเลือกเป็นรายตัวที่ยังมีแนวโน้มเติบโตและราคาหุ้นอยู่ระดับเหมาะสมหรือไม่แพง อาทิ ศูนย์การค้า (CPN) ค้าปลีก (BJC CRC CPALL CPAXT HMPRO) ส่งออก (ITC TU) ศูนย์การค้า (CPN) เครื่องดื่ม (CBG) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT)
MINT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 36.00 บาท)
มีมุมมองเป็นบวกต่อการประชุมนักวิเคราะห์ และกำไรปกติใน 4Q24 ที่รายงานเติบโอยู่ที่ 2.9 พันล้าน (+15% YoY, +9% QoQ) เป็นไปตามที่เราและตลาดคาด โดยเติบโตจากธุรกิจโรงแรมที่แข็งแกร่งทั้งในยุโรป ประเทศไทย และมัลดีฟส์ ด้วยรายได้ต่อห้องพักรวมที่สูงขึ้น (RevPar) และการลดสัดส่วนหนี้สินที่เป็นไปตามเป้า แม้จะอยู่ในช่วง Low Season ในยุโรปก็ตาม
CBG (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 90.00 บาท)
รายงานกำไรสุทธิงวด 4Q24 ที่ 783 ล้านบาท (+21%YoY, +6%QoQ) ทำสถิติสูงสุดใหม่ในรอบ 14 ไตรมาส ใกล้เคียงกับที่เราและ BB consensus คาด เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 90.00 บาท (เดิม 94.00 บาท) เพื่อสะท้อนการแข่งขันในตลาดเครอื่งดื่มชูกำลังในประเทศที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามยังมี upside จากยอดขายในประเทศจีน หากสามารถหาผู้จัดจำหน่ายที่จะช่วยทำตลาดในประเทศจีนได้ราว 5%-10% ของประมาณการกำไรปี2025 หรือคิดเป็น 4-8 บาทต่อหุ้น
#หุ้น #ข่าววันนี้ #บลพาย #ลดดอกเบี้ย #ธปท #สยามรัฐออนไลน์ #สยามรัฐ