ปัญหาน้ำท่วมปาล์มของมาเลเซียจะคงอยู่ต่อไปอีก 1 เดือน เจ้าหน้าที่บอร์ดน้ำมันปาล์มมาเลเซีย (MPOB) เผยฝนที่ตกในมาเลเซียจะส่งผลกระทบต่อผลผลิตน้ำมันปาล์มและการหยุดชะงักของอุปทานจะกดดันราคาในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 

บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า อาหมัด ปาร์วีซ กูลัม กาดีร์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงในอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันมาเลเซียกล่าวว่า สวนปาล์มน้ำมันของมาเลเซียที่เผชิญฝนตกหนักในปีนี้ ส่งผลให้การผลิตไม่น่าจะฟื้นตัวไปอีกอย่างน้อย 1 เดือน

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้อุปทานในตลาดโลกตึงตัวแล้ว ซึ่งทำให้สต็อกสินค้าลดสต็อกลงต่อเนื่อง ทำให้ราคาซื้อขายล่วงหน้าเพิ่มขึ้นเกือบ 9% ในเดือนนี้ น้ำท่วมทำให้สวนปาล์มจมน้ำ ประกอบกับนักพยากรณ์อากาศคาดว่าจะมีฝนตกมากขึ้น ส่งผลให้การผลิตน้ำมันปาล์ม ซึ่งเป็นน้ำมันพืชที่บริโภคมากที่สุดในโลก ลดลงอีก ขณะที่ผู้ซื้อเตรียมเติมสินค้าสำหรับเทศกาลสำคัญของชาวมุสลิมอย่างวันหยุดรอมฎอนและอีดอัลฟิฏร์

“อุทกภัยที่เกิดขึ้นล่าสุดในมาเลเซียจะส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันปาล์มในปี 2025 โดยเฉพาะในไตรมาสแรกของปี 2025 ” อาหมัด ปาร์วีซ ผู้อำนวยการทั่วไปของคณะกรรมการน้ำมันปาล์มมาเลเซีย  (Malaysian Palm Oil Board) กล่าว และบอกอีกว่า สวนที่น้ำท่วมและการเก็บเกี่ยวที่หยุดชะงักจะทำให้ผลผลิตที่เป็นพวงผลสดและอัตราการสกัดน้ำมันลดลงในระยะสั้น

การผลิตในเดือนมกราคมที่ผ่านมาของมาเลเซียตกต่ำที่สุดในรอบ 9 ปี เนื่องจากฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่เพาะปลูกปาล์มขนาดใหญ่หลายแห่งทำให้การผลิตหยุดชะงัก และตามข้อมูลของสำนักงานอุตุนิยมวิทยามาเลเซียระบุว่า รัฐซาราวักและซาบาห์ ซึ่งเป็นรัฐที่ปลูกปาล์มมากที่สุดเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ส่งผลให้สต็อกปาล์มลดลงมากกว่า 7% จากเดือนก่อน ซึ่งต่ำกว่าที่คาด

อาหมัด ปาร์วีซ กล่าวว่า สถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้ราคาน้ำมันปาล์มยังคงสูงขึ้นต่อไป ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยราคาน้ำมันปาล์มอาจเคลื่อนไหวอยู่ที่ 4,500- 4,800 ริงกิต ( ราว 34,200 -36,400) ต่อตัน ก่อนการประชุมอุตสาหกรรมสำคัญในสัปดาห์นี้ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์

คณะกรรมการคาดการณ์เมื่อเดือนที่แล้วว่า การผลิตน้ำมันปาล์มของมาเลเซียจะอยู่ที่ 19.5 ล้านตันในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.8% จากปี 2024 แต่น้ำท่วมที่ยาวนานหรือฝนตกหนักกว่านี้อาจทำให้แย่กว่าที่ประมาณการไว้ ซึ่งก่อนหน้านี้รัฐยะโฮร์ ปาหัง และเปรัก ได้รับผลกระทบมากที่สุดเนื่องจากสภาพอากาศเลวร้าย

สภาพอากาศที่เลวร้ายทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความพร้อมจำหน่ายน้ำมันปาล์มก่อนวันหยุดรอมฎอนและอีดอัลฟิฏร์ ซึ่งโดยปกติแล้วจะทำให้การบริโภคเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ความต้องการในช่วงเทศกาลจะลดลงหลังจากเดือนมีนาคม และคาดว่าการผลิตจะค่อยๆ ฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี  และการนำเข้าจากอินเดีย ซึ่งเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ที่สุดอาจลดลง เนื่องจากน้ำมันถั่วเหลืองเข้ามาแย่งส่วนแบ่งการตลาดจากน้ำมันปาล์ม เนื่องจากราคาซื้อขายสินค้าทั้งสองใกล้เคียงกัน