หลังจากเป็นนักแสดงในสังกัดเดียวกันมานาน ในที่สุดพระเอกหนุ่ม เกรท วรินทร และนางเอกสาว เต้ย จรินทร์พร ก็ได้มีโอกาสร่วมงานกันอย่างจริงๆ จังๆ สักที กับหนังเรื่อง “ซ้ำวัน กับ Someone” ของทาง Netflix งานนี้ทำเอาแฟนๆ ตื่นเต้นสุดๆ และอดใจรอชมผลงานของทั้งคู่แทบไม่ไหวแล้ว
ล่าสุดหนุ่มเกรทมางานแถลงข่าว เปิดตัวแคมเปญ ช้าง ส่งแชมป์ “CHANG U-CHAMPION CUP” ไปอังกฤษ ปี 3 ณ สนามอินทรีจันทรสถิตย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (บางเขน) ก็ได้เปิดใจหลังได้ร่วมงานกับสาวเต้ยให้ฟังว่า
ได้เล่นละครกับเต้ยแล้ว?
“ใช่ เป็นอะไรที่แบบว่าเฉียดๆ กันไปมาหลายรอบแล้ว ก็อยู่ที่ช่องด้วยกัน ก็เคยร่วมงานที่ไม่ใช่ในจอ เหมือนแบบว่าได้ไปเล่นของค่ายสีแดง”
พอติดต่อมารับเลยไหม?
“ก็เป็นโอกาสที่ดีครับ แล้วก็ได้คุยกับทางผู้ใหญ่ที่ช่องก็เลยได้ไปเล่น”
มันคือซีรีส์ใช่ไหม?
“มันเป็นหนังครับ เป็นหนังของทาง netflix”
เคยคุยกันไหมว่าอยากทำงานด้วยกัน เพราะว่าอยู่ช่องเดียวกันตั้งนาน?
“ปกติก็เคยเล่นละครด้วยกัน แต่เป็นละครแบบไม่ได้เข้าฉากด้วยกันเยอะเท่าไหร่ เคยเล่นมานานแล้ว ก็เป็นเรื่องแรกที่ได้เล่นด้วยกันเต็มๆ แล้วจริงๆ ก็เป็นประสบการณ์เหมือนกับการถ่ายหนังใหญ่ครั้งแรกของผมด้วย”
เกรทไม่เคยเล่นหนังใหญ่เลยเหรอ?
“ใช่ๆ ยังไม่เคย”
คนเขาก็ว้าวว่าคู่นี้ได้เจอกันสักที?
“ใช่ ก็คนคงเห็นว่าเหมือนวนเวียนอยู่ในช่องแต่ไม่เคยได้เล่นด้วยกันสักที ก็เป็นเรื่องแรก ก็ดีใจมากครับ ก็เป็นหนังแนวที่ผมเองไม่เคยเล่นเหมือนกัน เพราะในเรื่องก็จะเป็นคนเนิร์ดๆ คนหนึ่งใส่แว่นก็เนิร์ดๆ เป็นคาแรกเตอร์ที่ผมรู้สึกว่าอยากดูตัวเองเล่นเหมือนกัน”
มีประหม่าไหม?
ไม่ได้ประหม่า แต่มีช่วงนึงที่เราได้เวิร์กช้อปด้วยกัน ตอนที่เวิร์กช้อปด้วยกัน ได้ดูวิธีการทำงานและเหมือนได้จูนกับเต้ย เพราะเราไม่เคยถ่ายหนัง ถ่ายละครด้วยกันแบบที่เข้าฉากด้วยกันเยอะๆ พอมีช่วงเวลาที่เราได้เวิร์กช้อป ทุกอย่างก็โฟลว์มาก เพราะว่าเราพร้อมที่จะทำงานตรงนี้อยู่แล้ว”
แล้วได้ทำงานกับเต้ยเป็นไงบ้าง?
“จะบอกว่าน่ารักมาก ด้วยเนื้อเรื่องอาจจะยังพูดไม่ได้ แต่ว่าในเนื้อเรื่องมันมีหลายๆฉากที่ผมรู้สึกว่า ตัวผมพอเล่นเป็นเนิร์ด แล้วมีบางฉากที่เราอาจจะได้แสดงออกไม่เหมือนบทต่างๆ ที่เราเคยผ่านมา พอเราดู มอนิเตอร์เราก็รู้สึกว่ามันแปลกดี แอบลุ้นว่าอยากให้คนดูชื่นชอบคาแรกเตอร์นี้”
เป็นแนวไหน?
จริงๆ เป็นรอมคอม โรแมนติกคอมเมดี้ แล้วผมว่าเต้ยเวลาเขาเล่น เวลาเขายิ้มสดใส เขาสว่างวาบอยู่แล้ว และผมรู้สึกว่าเวลาได้เข้าฉากกับเขา มันมีฉากกุ๊กกิ๊กที่เราไม่เคยเข้าด้วยกันมาก่อน แล้วผมรู้สึกว่ามันน่ารัก”
เราปลื้มเขามาก่อนอยู่แล้วใช่ไหม?
“(ยิ้ม) ปลื้มในฐานะเพื่อนร่วมงาน”
เขารับมือทันไหม?
“รับมือทัน โอ้โห คนนั้นเขามืออาชีพ แล้วเรารู้สึกว่ามีอะไรหลายๆ อย่าง ได้คุยกับผู้กำกับหลายๆ อย่าง ที่เราไม่เคยเล่นแบบนี้มาก่อนก็ได้ใส่ลงไป เพราะว่าส่วนตัวผมเป็นมิติใหม่ในการแสดงเหมือนกัน”
เลิฟซีนมีไหม?
“(พยักหน้า)”
อันนี้ถ่ายเสร็จแล้วใช่ไหม?
“ใช่ ถ่ายเสร็จแล้ว”
ได้ดูตอนไหน?
“ผมคิดว่าน่าจะเลยครึ่งปีหลัง แต่ว่าปีนี้น่าจะได้ดู”
เป็นนักแสดงผันตัวมาเล่นซีรีส์ทางแพลตฟอร์มออนไลน์ มันเปลี่ยนไปยังไง ละครถอยหลัง?
“ผมว่าละครกับซีรีส์มันก็ถือว่าเป็นงานที่อยู่ในประเภทเดียวกันในเรื่องของการแสดง พอมีหลายช่องมากขึ้น มีอะไรมากขึ้น.มันก็เป็นเรื่องปกติที่หลายคนจะมีเวย์ในการไปอะไรใหม่ๆ มากกว่า ผมว่าไม่ได้เกี่ยวกับถอยหลังหรืออะไร เพราะว่าถ้าเกิดตอนนี้ถ้าช่อง 3 ผลิตละครใหม่ขึ้นมา ยังไงผมก็จะต้องเล่นให้ได้”
อันนี้ฝากบอกผู้จัด?
‘(ยิ้ม) ผมเล่นละครช่อง 3 อยู่แล้ว ยังมีสัญญาอยู่ ก็ถ้าเกิดว่ามาปุ๊บผมก็ต้องเล่น
แต่ว่าช่วงนี้เหมือนผู้ใหญ่เปิดโอกาสให้ออกไปรับงานข้างนอกได้มากขึ้น?
ใช่ คือในส่วนตัวของผม ถ้าสมมุติว่ามันมีงานด้านนอกติดต่อมา ผมก็ให้ความสำคัญช่อง 3 เป็นอันดับแรกอยู่แล้ว เพราะว่าผมมีสัญญากับช่อง ถ้าเกิดมีอะไรที่อยากทำ แล้วตอนนั้นยังไม่ได้มีงานของช่อง ผมก็จะขอผู้ใหญ่ตรงๆ แต่ถ้าเกิดว่ามันเห็นดีเห็นงาม หรือว่าดูแล้วบทเหมาะ ก็อนุญาตให้ผมไปเล่นได้”
อย่างเรื่องสัญญาเหลืออีกกี่ปี?
“ผมยังเหลือสัญญาอยู่ 2-3 ปี”
คิดว่าจะต่อไปเรื่อยๆ ไหม?
“ถ้าส่วนตัวผมๆ อยู่กับที่ช่องมานานแล้ว ผมรู้สึกว่าอยู่ตรงนี้สบายใจ แล้วก็รักช่อง 3 ก็อยู่ตรงนี้ก่อน”
เหมือนบอย ปกรณ์ เขาออกจากช่อง แล้วเหมือนเขาได้ทำนู่นทำนี่เยอะขึ้น?
“บอยก็ได้ทำอะไรหลายอย่างมากขึ้น ถึงผมจะมีสัญญาอยู่ แต่ถ้ามีอะไรที่เข้ามาน่าสนใจ ผมก็คงต้องคุยกับช่องอยู่ดี ทุกอย่างต้องผ่านช่อง”
สัญญาเปิดนิดนึงสามารถไปทำงานที่อื่นได้?
“ผมว่ามันก็คงเป็นเคสๆ ไป”
ยกเว้นละคร?
“ละคร เล่นช่อง 3 อย่างเดียวครับ”