"ช้างศึก ชุด 20 ปี" ยังไปไม่ได้ไกล ไม่ได้ดีกว่าที่ผ่านๆ มา จากการเดินงานของ "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" ตกรอบแรกศึกเอเชีย เป็นอีกครั้งที่เราได้ "ประสบการณ์" เป็นสิ่งตอบแทน
เนวิด ชิดชอบ ประธานบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โพสต์ทิ้งท้ายส่งคืนทีมชาติไทย ชุด 20 ปี คืนให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เหมือนระบายความอัดอั้น รวมทั้งตอบโต้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ ขอโฟกัสแบบเน้นๆ
“เวลา 2 ปีเศษ ไม่มีวันไหนไม่จริงจัง ท้อหรือถอย แม้จะถูกทิ้งขว้างไว้กับกองปัญหามากมาย ต้องแก้ไขกันเอง เสียงตำหนิ หัวเราะเยาะเย้ย คำพูดจาเสียดสี ถากถาง ดูหมิ่นดูแคลน ไม่ได้ทำให้ถอดใจ แม้จะเสียใจ และหมดกำลังใจ หลายๆ ครั้ง เสียเงิน เสียเวลา เสียน้ำตา เสียสุขภาพจิต มีเป็นระยะๆ แต่ไม่เสียใจที่ได้ทำงานนี้”
ย้อนไปการทำงานสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ชุดที่ผ่านมา ด้วยปัญหาสภาพคล่อง ต้องหา “ผู้ช่วย” มาดูแลทีมชาติ ที่เหมือน “หัวแหวน” ของสมาคมฯ ก่อนที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เสนอตัวรับทำทีม 20 ปี และถ้าจำกันได้ ทีมยู 23 ก็ไปอยู่กับ บีจี ปทุม และยู 17 ก็ไปชลบุรี เอฟซี ก่อนจะทยอยคืนกันต่อมา เหลือแต่ บุรีรัมย์ ที่ทำต่อเนื่อง
ถ้าจะ “เอ๊ะ” ก็ต้องพุ่งเป้าไปที่สมาคมลูกหนังไทยก่อน ที่ออกนโยบายนี้ ซึ่งลำดับต่อมา ก็ห้ามไม่ให้ “เอ๊ะ” ต่อไม่ได้ถึงสไตล์ทำงาน
บุรีรัมย์ เก็บตัวต่อเนื่องยาวนาน แบบนี้เหมือนดึงนักเตะดาวรุ่งไปรวมที่นั่นหรือไม่ แต่มองอีกมุมหนึ่ง ถ้าอยากประสบความสำเร็จ เก็บตัวยาวๆ ก็คงต้องทำแบบนั้น
2 ปีแห่งการทำงานต่อเนื่อง เป้าหมายที่ฟุตบอลอายุไม่เกิน 20 ปี ชิงแชมป์เอเชีย ที่จะได้ชี้วัด ปรากฏว่า ผลแข่งขันเราตกรอบแรก แพ้ ญี่ปุ่น 0-3, แพ้ เกาหลีใต้ 1-4 และ เสมอ ซีเรีย 2-2
ดีที่มีแต้มส่งท้าย ซึ่งต้องยกย่องหัวจิตหัวใจ เล่น 10 คนครึ่งเกม ตามหลัง 2 ลูก ยังตามตีเสมอได้
กระนั้นก็ตาม เป็นอีกครั้งที่ทีมชาติไทย ยังปีนกำแพงเอเชียไม่ได้ กับคู่แข่ง เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น ที่ต่อมาต่างตีตั๋วเข้ารอบบอล 20 ปีโลก อาจเป็นข้อโต้แย้งว่า 2 ทีมนี้ “โคตรแข็ง”
แต่ว่าหากเราอยากไปยืนแถวหน้าเอเชีย ก็ต้องผ่านทีมเหล่านี้ให้ได้ไม่ใช่หรือ หรืออย่างน้อยต้องสู้ได้สูสี
สภาพจิตใจอาจเป็นปัญหา เจอเกาหลี, ญี่ปุ่น ทีไร ขาสั่นทุกที นี่คือเรื่องของความมั่นใจ ที่ต้องส่งแข่งขันให้มาก
จะยกเหตุผลใดๆ ก็แล้วแต่ แต่ต้องยอมรับว่า เป็นอีกครั้งที่ทีมชาติไทย “ล้มเหลว” ยังวนเวียนอยู่ที่เดิม จบแค่รอบแรก ไม่สามารถเผยอหน้าไปอยู่ระดับเดียวกับท็อปเอเชีย
จะโทษบุรีรัมย์ ทั้งหมดไม่ได้ ทำเต็มที่เท่าที่มีศักยภาพ การเก็บตัว 2 ปี ไม่ใช่ง่าย
กระนั้นก็ตามความ “ล้มเหลว” ไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นแค่ “ส่วนหนึ่ง” ของเส้นทาง
ทุกคำปลอบใจ เมื่อไม่ได้ผลแข่งขัน คือ “ประสบการณ์” พูดกันเป็นอัตโนมัติ ซึ่งคงต้องนำคำนั้นมาใช้อีก
หวังว่า จะเป็นประสบการณ์ที่นำไปต่อยอดจริงๆ ไม่ใช่แค่เก็บไว้เล่า ไว้พูดคุยบนโต๊ะเฉยๆ
เด็กๆ ชุดนี้ยังเพิ่งแค่เริ่มต้นเท่านั้น เส้นทางฟุตบอลอีกยาวไกล บางคนอาจไปต่อสู่ ยู-23 ในอนาคตอันใกล้นี่เลย
หรือมองไกลอีก 3 ปี คัดโอลิมปิกเกมส์ 2028 ก็ต้องนักเตะเหล่านี้แหละ ที่เป็นแกนหลัก หรือแม้แต่ระยะไกล สู่ทีมชาติชุดใหญ่
สร้างจนเติบโตมาแล้ว ต้องรับช่วงส่งเสริม ผลักดันกันต่อไป
จากนี้ไปจะกลับไปเป็นความรับผิดชอบเต็มๆ ของ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ
ขอบคุณบุรีรัมย์ ที่ช่วยปั้นจนเติบใหญ่ และแม้ไม่ได้เป็นแกนหลักในการทำทีมแล้ว ก็เชื่อว่ายังเป็นส่วนสำคัญในการช่วยช้างศึกชุดนี้ลุยต่อในอนาคต.
วุฒินล