ศาสตราจารย์กนก วงษ์ตระหง่าน รองประธานคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดขับเคลื่อนนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. ได้โพสต์ข้อความว่า ผู้สูงอายุยากจน ต้องใช้ชีวิตอยู่คนเดียวผู้สูงอายุยากจนจำนวนหลายหมื่นคนกระจายอยู่ทั่วประเทศต้องอยู่คนเดียวตามลำพัง ลูกหลานทิ้งไปเพราะต้องช่วยตัวเองให้รอดก่อน
ผู้สูงอายุเหล่านี้นอกจากยากจนแล้วยังป่วยมีโรคประจำตัวที่ต้องไปหาหมอเป็นประจำ ด้วยการอาศัยรถของ อบต.บ้าง เพื่อนบ้านในชุมชนบ้างสำหรับอาหารการกิน ถ้าวันไหนได้กินครบ 3 มื้อถือว่าโชคดี เพื่อนบ้านในชุมชน อบต.ช่วยให้อาหารเป็นครั้งคราว
ผู้สูงอายุกลุ่มนี้ไม่มีรายได้จากการประกอบอาชีพแล้ว เงินประทังชีวิตอาศัยเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ(600-800 บาทต่อเดือน) บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนละ 300 บาท ถ้าผู้สูงอายุพิการด้วยจะได้เบี้ยคนพิการ 800 บาทต่อเดือน สรุปเงินสวัสดิการที่ได้รับ 900-1,100 บาทต่อเดือนที่ไม่เพียงพอกับการยังชีพ คือ ค่าอาหาร ค่าน้ำ/ไฟ ค่ายารักษาโรคที่ต้องซื้อเอง
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จัดทำโครงการ“ครอบครัวอุปถัมภ์”ด้วยการขอให้ครอบครัวเพื่อนบ้านช่วยดูแลชีวิตความเป็นอยู่ เช่น อาหาร ของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน โดยกระทรวง พม. ผ่านกรมกิจการผู้สูงอายุจัดเงินช่วยครอบครัวอุปถัมภ์เดือนละ 2,000 บาท
เงิน 2,000 บาทนี้ผู้สูงอายุยากจนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เงินก้อนนี้ช่วยให้มีข้าวกินทุกวัน จ่ายค่าน้ำค่าไฟและค่าเช่าบ้านได้ ขอขอบคุณกระทรวงพม.จริงๆที่ทำให้ชีวิตพอมีความสุขบ้าง
ข้อเท็จจริงพบว่าจำนวนผู้สูงอายุยากจนอีกหลายหมื่นคนที่ต้องการเงิน“ครอบครัวอุปถัมภ์”เพื่อการมีชีวิตให้อยู่รอดต่อไปได้ แต่รัฐบาลยังคงจัดสรรงบประมาณสำหรับครอบครัวอุปถัมภ์ได้เพียง 1,000 เศษๆต่อปีเท่านั้น
อีกไม่นานกระทรวงพม.และข้าราชการคงจะต้องจัดทอดผ้าป่าหาทุนสมทบ“ครอบครัวอุปถัมภ์”เพื่อช่วยผู้สูงอายุจำนวนมากขึ้นให้พอจะมีชีวิตที่ไม่หิวและยังคงมีบ้านที่ซุกหัวนอนได้ ถึงวันนั้นของทุกท่านช่วยกันทำบุญกับผู้สูงอายุยากจนด้วยนะครับ