ขสมก. เตรียมลุยประมูล เช่ารถเมล์ไฟฟ้า 1,520 คัน ให้บริการล็อตแรก ส.ค.นี้
Pornchanok February 25, 2025 04:01 PM

ขสมก. เตรียมเสนอคณะกรรมการพิจารณาอนุมัติโครงการการจัดหาเช่ารถโดยสารประจำทาง (รถเมล์) ปรับอากาศพลังงานไฟฟ้า (EV) ระยะที่ 1 จำนวน 1,520 คัน โดยเบื้องต้นคาดว่าจะใช้ระยะเวลาจัดหาผู้ประกอบการแล้วเสร็จภายใน 55 วัน คาดว่าจะลงนามสัญญาเช่าภายในเดือนเมษายนนี้

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 ขสมก. เตรียม เตรียมเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) พิจารณาอนุมัติโครงการการจัดหาเช่ารถโดยสารประจำทาง (รถเมล์) ปรับอากาศพลังงานไฟฟ้า (EV) ระยะที่ 1 จำนวน 1,520 คัน วงเงิน 15,355 ล้านบาท จะใช้งบประมาณผูกพัน 7 ปี ระหว่างปี 2568-2575 ดำเนินการในรูปแบบเช่าผ่านการประมูลแบบประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ระยะสัญญาเช่า 7 ปี

เตรียมเสนอ ครม. อนุมัติ มีนา 68

ภายหลังจากผ่านขั้นตอนขอความเห็นจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์, สำนักงบประมาณ, กรมบัญชีกลาง และกระทรวงการคลังแล้ว โดยขั้นตอนหลังจากนั้นจะเสนอต่อกระทรวงคมนาคมพิจารณาเห็นชอบ ก่อนเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติในช่วงต้นเดือน มีนาคม 2568

โดยเบื้องต้นคาดว่าจะใช้ระยะเวลาจัดหาผู้ประกอบการแล้วเสร็จภายใน 55 วัน คาดว่าจะลงนามสัญญาเช่าภายในเดือน เมษายนนี้ และทยอยรับรถล็อตแรกจำนวน 500 คันในเดือน สิงหาคม 2568

โดยมีแผนจะนำมาวิ่งให้บริการในเส้นทางเขตเมืองฯ เพื่อที่จะช่วยแก้ปัญหามลภาวะฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ส่วนล็อตที่ 2 จะทยอยรับมอบในช่วงปลายปี 2568 และจะครบ 1,520 คันภายในปี 2569

สำหรับ การเช่ารถเมล์ปรับอากาศพลังงานไฟฟ้า (EV) ในครั้งนี้ เพื่อทดแทนรถโดยสารธรรมดา (รถเมล์ร้อน) ของ ขสมก. พร้อมทั้งช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิง และการซ่อมบำรุง คาดการณ์ว่าจะสามารถลดต้นทุนค่าใช้จ่ายได้ประมาณ 70% ซึ่งจะทำให้ ขสมก. สามารถชำระหนี้สะสมคืนให้ภาครัฐมูลค่า 1 แสนกว่าล้านบาทภายในไม่เกิน 7 ปี โดยในการส่งมอบรถนั้น เอกชนผู้ชนะการประมูล จะต้องไปดำเนินการจดทะเบียน จัดรูปแบบรถ สีของรถตามที่กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กำหนด และเป็นไปตามมาตรฐานด้านความปลอดภัย

บริการทดแทนรถเมล์เก่า อายุมากกว่า 30 ปี

ด้าน นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่า ขสมก.มั่นใจว่าเมื่อมีการปรับเปลี่ยนรถเมล์เป็นพลังงานไฟฟ้าจะส่งผลบวกต่อต้นทุนและค่าใช้จ่ายของ ขสมก.ให้ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยการรับมอบรถเมล์ปรับอากาศพลังงานไฟฟ้าหรือ EV ล็อตแรกจำนวน 1,520 คัน จะนำมาให้บริการทดแทนรถเมล์เก่าที่มีอายุกว่า 30 ปี ดังนั้นจะทำให้ ขสมก.ประหยัดต้นทุนค่าซ่อมบำรุงทันที

ขณะเดียวกัน ขสมก.ยังผลักดันการจัดหารถเมล์ปรับอากาศพลังงานไฟฟ้า (EV) ในระยะต่อไปอีก 1,520 คัน เพื่อทำให้รถเมล์ของ ขสมก.เป็นรถเมล์พลังงานสะอาดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก 2.5 หรือ PM2.5 และทำให้ค่าใช้จ่ายของ ขสมก.ปรับลดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการจัดหารถเมล์ในระยะที่ 2 จะดำเนินการในรูปแบบเปิดให้เอกชนร่วมลงทุน (PPP) ซึ่งปัจจุบันสถานะของโครงการ กระทรวงคมนาคมมีหนังสือไปถึงกระทรวงการคลัง เพื่อขอให้บรรจุโครงการนี้อยู่ใน การทำงานแบบไปป์ไลน์ (Project Pipeline) แล้ว

โดยการจัดหารถเมล์ระยะที่ 2 จะขอรับเงินสนับสนุนจากคณะกรรมการกองทุนส่งเสริมการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (กองทุน PPP) เพื่อเป็นค่าจ้างที่ปรึกษา ดำเนินการศึกษาโครงการนี้ พร้อมทั้งศึกษาความเหมาะสมรูปแบบร่วมทุนระหว่างรูปแบบ PPP Net Cost หรือรูปแบบ PPP Gross Cost คาดว่าภายในปีนี้จะเห็นเป็นรูปธรรม

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.