3 เหตุผลที่ไม่ควรพลาด “A Complete Unknown ไร้ตัวตนคนเปี่ยมฝัน”
GH News February 25, 2025 05:43 PM

3 เหตุผลที่ไม่ควรพลาด “A Complete Unknown ไร้ตัวตนคนเปี่ยมฝัน” ภาพยนตร์แห่งปีที่จะจุดไฟฝันครั้งใหม่ให้กับทุกคน จากฝีมือสุดยอดผู้กำกับ ดารานำระดับไอคอน และเหล่านักแสดงแห่งยุค 27 กุมภาพันธ์นี้ ในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ

ตัวอย่างภาพยนตร์: https://www.youtube.com/watch?v=ZpYB6LBHdpE

นับเป็นภาพยนตร์ที่หลายคนรอคอยสำหรับ “A Complete Unknown ไร้ตัวตนคนเปี่ยมฝัน” จาก Searchlight Pictures ที่สร้างกระแสมาแล้วในหลายประเทศกับเสียงตอบรับอย่างท่วมท้นในฐานะภาพยนตร์ที่เปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจ จนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ 2025 ถึง 8 สาขา ซึ่งความยอดเยี่ยมของภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงเป็นการบอกเล่าถึงช่วงเวลาหนึ่งของ บ๊อบ ดีแลน (Bob Dylan) ผู้ก้าวจากเด็กหนุ่มโนเนมสู่ราชาเพลงโฟลค์ผู้มีอิทธิพลในแวดวงดนตรีอเมริกัน แต่ยังเปี่ยมด้วยเสน่ห์ทางการแสดงของ ทิโมธี ชาลาเมต์ (Timothée Chalamet) และบรรดานักแสดงสมทบล้วนแล้วแต่ถูกยกให้เป็นนักแสดงแห่งยุค เมื่อรวมเข้ากับฝีมือการกำกับของ เจมส์ แมนโกลด์ (James Mangold) ผู้กำกับมือทอง จึงเป็นสมาการที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นความร่วมมือทางศิลปะที่ทรงพลังและไม่ควรพลาดไปชม 27 กุมภาพันธ์นี้ พร้อมจุดประกายแห่งไฟฝันครั้งใหม่พร้อมกัน ในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ

“เจมส์ แมนโกลด์” ผู้กำกับมากฝีมือกับผลงานเรื่องล่าสุด

สำหรับคอหนังน่าจะคุ้นกับชื่อของ เจมส์ แมนโกลด์  (James Mangold) เป็นอย่างดีในฐานะผู้กำกับที่สร้างสรรค์ผลงานภาพยนตร์มามากมายหลากหลายแนว ตั้งแต่คาวบอยไปจนถึงซูเปอร์ฮีโร่ และมีชื่อเข้าชิงรางวัลมาแล้วหลายครั้งจากหลายเวที รวมถึงรางวัลออสการ์ อาทิ ภาพยนตร์เรื่อง “3:10 to Yuma”,  “Ford v Ferrari”, “Logan” รวมถึง “Heavy” ภาพยนตร์อินดี้ปี 1995 ที่คว้ารางวัล Special Jury Prize สาขาผู้กำกับจาก Sundance Film Festival มาครอง และหากยังจำกันได้ แมนโกลด์เคยฝากฝีมืออันยอดเยี่ยมไว้ใน “Walk the Line” ภาพยนตร์แนวชีวประวัติเกี่ยวกับดนตรี ที่เขาทั้งเขียนบท กำกับ อำนวยการสร้าง จนทำให้ Reese Witherspoon ในบทบาท June Carter Cash คว้ารางวัลออสการ์มาได้ และในที่สุดเขาก็กลับมาอีกครั้งกับ “A Complete Unknown ไร้ตัวตนคนเปี่ยมฝัน” ภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดบรรยากาศของช่วงเวลาและสถานที่ที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ดนตรี

“นี่ไม่ใช่เรื่องราวทั้งชีวิตของบ็อบ ดีแลน แต่เป็นเพียงช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตของเขา และเป็นเรื่องราวที่สื่อสารผ่านบทเพลงเป็นหลัก” แมนโกลด์กล่าว พร้อมกับเผยว่าสิ่งที่ทำให้เขาสนใจช่วงเวลานี้ในชีวิตของ บ๊อบ ดีแลน คือคำถามชวนขบคิดเกี่ยวกับอัจฉริยภาพและพรสวรรค์ของศิลปิน ที่อาจจะทำให้พวกเขาโด่งดังเป็นดาว แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้บางคนรู้สึกโดดเดี่ยวอย่างที่สุดด้วยด้วยเช่นกัน และนั่นทำให้เขาเลือกที่จะหยิบเอาช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดช่วงหนึ่งในชีวิตของราชาเพลงโฟลค์มาถ่ายทอดผ่านภาพยนตร์ที่งดงามด้วยแรงบันดาลใจและประกายแห่งไฟฝันอย่าง “A Complete Unknown ไร้ตัวตนคนเปี่ยมฝัน”

“ทิโมธี ชาลาเมต์” นักแสดงขวัญใจมหาชนกับบทบาทสุดท้าทาย

ปฏิเสธไม่ได้ว่าแรงดึงดูดสำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้คือเสน่ห์ทางการแสดงของนักแสดงระดับไอคอนแห่งยุคอย่าง “ทิโมธี ชาลาเมต์” (Timothée Chalamet) ซึ่งผลงานหลายเรื่องที่ผ่านมาของเขาได้รับคำชื่นชมจากเหล่านักวิจารณ์และยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลมากมาย อีกทั้งเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของชาลาเมต์ยังครองใจมหาชนจนกลายเป็นนักแสดงที่ทั่วโลกต่างชื่นชอบ ซึ่งผู้กำกับ เจมส์ แมนโกลด์  ก็เข้าใจคุณค่าของการทำงานร่วมกับนักแสดงที่ทั้งมีเสน่ห์และมีสัญชาตญาณทางการแสดงอันเฉียบคมเป็นอย่างดี ทำให้การร่วมงานระหว่างแมนโกลด์และชาลาเมต์ใน “A Complete Unknown ไร้ตัวตนคนเปี่ยมฝัน” ครั้งนี้เป็นความร่วมมือครั้งใหม่ที่น่าจับตา

แม้ ทิโมธี ชาลาเมต์ จะยอมรับว่าเขาแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับ บ๊อบ ดีแลน เลยนอกจากการเป็นตำนานเพลงอเมริกัน แต่ตัวตนอันซับซ้อนและน่าสนใจของบุคคลที่อยู่เบื้องหลังผลงานศิลปะอันยิ่งใหญ่ก็ทำให้เขากระตือรือร้นที่จะสวมวิญญาณเป็นราชาเพลงโฟลค์ โดยออกปากว่า “ผมเต็มที่กับทุกสิ่งทุกอย่างที่แสดงถึงตัวตนของบ๊อบ” ดังนั้นเมื่อแมนโกลด์ต้องการให้นักแสดงร้องเพลงเองเพื่อความสมจริงจากการบันทึกเสียงสด ชาลาเมต์จึงทุ่มสุดตัวเพื่อศึกษาความเป็น บ๊อบ ดีแลน อย่างเข้มข้น ทั้งเพลงของบ๊อบและทุกสิ่งเกี่ยวกับโลกที่บ๊อบอาศัยอยู่ รวมถึงเรียนรู้ดนตรีและฝึกฝนเป็นเวลา 5 ปี ระหว่างที่ทุกสิ่งอย่างต้องหยุดชะงักในช่วงการระบาดของโควิด-19 เพื่อสร้างบ๊อบในเวอร์ชั่นที่เป็นตัวของเขาเอง จนสามารถเล่นกีต้าร์และฮาร์โมนิกาได้อย่างเชี่ยวชาญ และเพิ่มความลึกและความสมจริงให้กับภาพยนตร์ด้วยการแสดงสดในเพลงดังของดีแลนได้อย่างน่าที่ง

Nick Baxter มิวสิคโปรดิวเซอร์ ถึงกับกล่าวว่าความสามารถของชาลาเมต์เหมือนปาฏิหาริย์ “ทิโมธีเรียนรู้เพลงของบ๊อบและสามารถแสดงได้ในทุกสถานการณ์จริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นฉากที่กำลังเขียนเพลง เล่นเพลงให้ใครบางคนฟังเป็นครั้งแรก หรือฉากแสดงสด เขาก็ทำมันออกมาได้อย่างน่าทึ่ง ราวกับว่าไม่ยึดติดกับอะไรเลย เขาสามารถหยุด เดินออกจากไมค์ ร้องผิดเนื้อเพลง ใส่โซโล่ฮาร์โมนิกา และเปลี่ยนจังหวะของเพลงให้เร็วหรือช้าตามต้องการได้ จนผมไม่แน่ใจเลยว่าหนังเรื่องนี้จะออกมาได้ดีแค่ไหนหากเขาไม่มีความสามารถแบบนั้น” เพราะใน “A Complete Unknown ไร้ตัวตนคนเปี่ยมฝัน” ดนตรีเป็นส่วนสำคัญในการเล่าเรื่อง ทุกบทเพลงคลาสสิกที่คุ้นเคย และทุกเนื้อร้องที่ถูกเลือก ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างการเล่าเรื่องของผู้กำกับ การแสดงได้อย่างลื่นไหลของชาลาเมต์จึงเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมและงดงาม

บทบาทของเหล่านักแสดงสมทบ เติมเสน่ห์ให้น่าดูยิ่งขึ้น

นอกจาก ทิโมธี ชาลาเมต์ “A Complete Unknown ไร้ตัวตนคนเปี่ยมฝัน” ยังเต็มไปด้วยนักแสดงสมทบมากฝีมือ ซึ่งต่างสวมบทบาทเป็นบุคคลผู้มีตัวตนอยู่จริงได้อย่างสมจริงและมีมิติ ทั้ง Edward Norton ผู้รับบทเป็น Pete Seeger ที่ทำให้แฟน ๆ ทึ่งด้วยความคล้ายคลึงทางกายภาพกับต้นฉบับ โดยนอร์ตันเผยว่าแรงดึงดูดที่ทำให้เขาสนใจบทนี้คือโอกาสที่จะได้เรียนรู้และเล่นดนตรีที่ซีเกอร์ผูกพันอย่างแบนโจ (Banjo) รวมถึงโอกาสในการเชื่อมโยงผลงานของซีเกอร์และดีแลนเข้ากับคนรุ่นใหม่ ด้าน Scoot McNairy นักแสดงผู้รับบทเป็น Woody Guthrie ฮีโร่ของดีแลนที่ถูกมองว่าเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ในดนตรีโฟล์คยุค 60 ก็ถ่ายทอดช่วงเวลาที่ยากลำบากของกัทรีที่ต้องเผชิญกับโรค Huntington’s disease จนสูญเสียความสามารถในการพูดออกมาได้อย่างน่าเชื่อ

อีกหนึ่งตัวละครสำคัญคือ Sylvie Russo ที่ได้ Elle Fanning มาถ่ายทอดตัวตน โดยผู้กำกับแมนโกลด์กล่าวว่า “Sylvie เป็นจิตวิญญาณที่สร้างสรรค์ เป็นปัญญาชนที่มีความตระหนักรู้สูง มีแรงจูงใจทางการเมืองที่ชัดเจน สวยงามและมีชีวิตชีวา และเธอเห็นบ๊อบในแบบที่ไม่ค่อยมีใครเห็น เธอมองทะลุเข้าไปในตัวเขา เธอคือคนปกติคนเดียวในโลกของคนแปลกแยกเหล่านี้ เป็นทูตที่ช่วยเราเชื่อมโยงทุกสิ่งไว้ด้วยกัน” และยังมี Monica Barbaro รับบทเป็น Joan Baez ศิลปินหญิงที่ก้าวเข้ามาในชีวิตของดีแลนในฐานะสัญลักษณ์ของความสำเร็จที่เขาแสวงหา และสุดท้ายกลายเป็นเพื่อนร่วมทางบนเส้นทางที่ต้องการเปลี่ยนแปลงยุคสมัย ซึ่ง Barbaro ก็ทุ่มเทให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ต่างจากชาลาเมต์ เธอต้องฝึกกับ Voice Coach และหัดเล่นกีตาร์อย่างเข้มข้น เพื่อค้นหาวิธีถ่ายทอดบทบาทของผู้เป็นตำนานในแบบของเธอเอง และเพื่อให้เข้าถึงบทบาทมากที่สุด ก่อนถ่ายทำ Barbaro  ยังได้โทรหา Baez เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของเธอด้วย ซึ่งการสนทนาครั้งนั้นทำให้ Barbaro คลายความกดดัน และสามารถถ่ายทอดบทบาทได้อย่างเต็มที่

นอกจากนี้ยังได้ Boyd Holbrook มารับบทเป็นบุรุษชุดดำ Johnny Cash นักร้องนักแต่งเพลงตำนานคันทรีผู้ยิ่งใหญ่ Dan Fogler รับบทเป็น Albert Grossman ผู้จัดการสุดแกร่งของดีแลน Will Harrison รับบทเป็น Bobby Neuwirth เพื่อนสนิทและผู้จัดการทัวร์ ส่วนเหล่าสมาชิกวงดนตรีของดีแลนได้ Charlie Tahan มารับบทนักเล่นออร์แกน Al Cooper และ Eli Brown รับบทมือกีตาร์ Mike Bloomfield ร่วมด้วย  Eriko Hatsune รับบทเป็น Toshi ภรรยาของ Pete Seeger, Big Bill Morganfield รับบทเป็นนักดนตรีบลูส์ Jesse Moffette และ David Alan Basche รับบทเป็นโปรดิวเซอร์เพลง John Hammond รวมถึงบุคคลสำคัญในวงการดนตรีโฟล์กของอเมริกา เช่น P.J. Byrne รับบทเป็น Harold Leventhal โปรโมเตอร์ที่ให้การสนับสนุนเหมือนพ่อบุญธรรม และ Norbert Leo Butz รับบทนักดนตรีวิทยาผู้เคร่งครัด Alan Lomax และอีกมากมาย  ที่ต่างได้รับเสียงชื่นชมว่าเหมาะสมกับบทบาทที่สุด เติมเต็มให้โลกของ บ๊อบ ดีแลน ใน “A Complete Unknown ไร้ตัวตนคนเปี่ยมฝัน” เต็มไปด้วยมิติและความสมจริง

เตรียมไปเก็บเกี่ยวแรงบันดาลใจ พร้อมจุดไฟฝันครั้งใหม่กับ ทิโมธี ชาลาเมต์ และเหล่านักแสดงคุณภาพใน “A Complete Unknown ไร้ตัวตนคนเปี่ยมฝัน” ภาพยนตร์เรื่องเยี่ยมจากผลงานการกำกับเรื่องล่าสุดของ เจมส์ แมนโกลด์ 27 กุมภาพันธ์นี้ ในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ

โซเชียลมีเดีย:

X: @20thCenturyTH

Instagram: @20thCenturyStudiosTH

Facebook: @20thCenturyStudiosTH

Youtube: @20thCenturyStudiosTH

Hashtag: #ACompleteUnknownTH #ไร้ตัวตนคนเปี่ยมฝัน

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.