ทรัมป์สั่งศึกษาผลกระทบ เล็งขึ้นภาษีทองแดงนำเข้า หวังสกัดอิทธิพลจีนที่มีการทุ่มตลาดผ่านการอุนหนุนของภาครัฐ
รอยเตอร์ส (Reuters) รายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐสั่งทีมศึกษาการขึ้นภาษีทองแดงนำเข้า เพื่อฟื้นการผลิตทองแดงในประเทศ ซึ่งเป็นโลหะสำคัญต่อการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ยุทโธปกรณ์ พาวเวอร์กริด และสินค้าอุปโภคบริโภคอื่น ๆ
ทรัมป์ลงนามคำสั่งตรงไปยังฮาวเวิร์ด ลุคนิก (Howard Lutnick) รัฐบมนตรีพาณิชย์สหรัฐให้เริ่มสอบสวนด้านความมั่นคงภายใต้กฎหมาย Trade Expansion Act of 1962 มาตรา 232 ซึ่งเป็ฯกฎหมายเดียวกับที่ทรัมป์ใช้ขึ้นกำแพงภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมนำเข้า 25% ทั่วโลก
รอยเตอร์สอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่จากทำเนียบขาวผู้ไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนว่า อัตราภาษีจะเป็นอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับผลการสอบสวน ซึ่งทรัมป์ชอบตั้งไว้สูงเกินโควตา
ความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดของทรัมป์ ทำให้การค้าเสรีต้องพลิกกลับด้านอีกครั้ง ซึ่งทรัมป์มักวิพากษ์วิจารณ์อยู่เสมอว่าการค้าเสรีเป็นตัวทำลายฐานอุตสาหกรรมในสหรัฐ และหันมาโจมตีทางการค้าใส่เพื่อนบ้านอย่างแคนาดา เม็กซิโก ตลอดจนจีน คู่ขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์
ทรัมป์ออกคำสั่งขึ้นภาษีอยู่เรื่อย ๆ นับตั้งแต่หวนคืนทำเนียบเป็นสมัยสอง ซึ่งขณะนี้มีเพียงแค่การเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 10% เท่านั้นที่ถูกบังคับใช้ ขณะที่ภาษีนำเข้า 25% ที่จะเรียกเก็บกับแคนาดาและเม็กซิโก กำลังจะมีผลบังคับใช้ 4 มีนาคมนี้ ต่อด้วยภาษีเหล็ก อะลูมิเนียมนำเข้า และยานยนต์ที่จะตามมาหลังจากนั้นไม่นาน
ตามรายงานเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2025 ของคณะกรรมการการประชุม (Conference Board) พบว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคร่วงลงต่ำสุดในรอบสามปีครึ่ง หลังครัวเรือนคาดว่าภาวะเงินเฟ้อจะกลับมาอีกครั้ง
ปีเตอร์ นาวาร์โร (Peter Navarro) กล่าวว่า จีนบั่นทอนการแข่งขันและครอบงำการผลิตทองแดงทั่วโลกผ่านการอุดหนุนของภาครัฐ แบบเดียวกับที่ทำในภาคการผลิตเหล็กและอะลูมิเนียม
ตามข้อมูลจากสำนักงานสำมะโนประชากรสหรัฐ (U.S. Census Bureau data) ระบุว่าชิลี แคนาดา และเม็กซิโกจะได้รับผลกระทบจากกำแพงภาษีทองแดงนำเข้ามากที่สุด เนื่องจากประเทศเหล่านี้เป็นผู้กลั่นทองแดง ทองแดงผสมอัลลอยรายใหญ่ในปี 2024
ตามเอกสารสรุปข้อมูลสำคัญของทำเนียบขาว ระบุว่า การสวบสวนจะทำการประเมินความเสี่ยงจากการพึ่งพาทองแดงนำเข้า ไม่ว่าจะเป็นแร่ทองแดงดิบ หัวแร่ทองแดง (copper concentrate) ทองแดงผสมอัลลอย เศษทองแดง และสินค้าอื่น ๆ ที่มาจากทองแดง ซึ่งปี 2024 ที่ผ่านมา 45% ของทองแดงในตลาดมาจากการนำเข้า