หลังจากที่สำนักงานสลากฯ เริ่มจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลข 3 หลัก (สลาก N3) มาตั้งแต่งวดวันที่ 16 ต.ค. 2567 โดยทำเป็นแซนด์บอกซ์ (Sandbox) เริ่มจากขายในวงจำกัดผ่านจุดจำหน่าย “โครงการสลาก 80 บาท” ซึ่งจะทดสอบในระบบแซนด์บอกซ์ ระยะที่ 2 ผ่านผู้พิการที่เป็นตัวแทนจำหน่ายสลาก L6 แบบดิจิทัล จำหน่ายเป็นครั้งแรกในรูปแบบ Soft Launch ตั้งแต่งวดวันที่ 16 มี.ค. 2568 หรือเริ่มจำหน่าย 2 มี.ค. 2568 เป็นต้นไป
“พันโทหนุน ศันสนาคม” ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนล่าสุดว่า เป้าหมายการทำสลาก N3 ขึ้นมาเพื่อปิดช่องว่างสลาก L6 และตอบโจทย์เรื่องของอาชีพ เนื่องจากสลาก L6 มีปัญหาในเรื่องของการต้องมาแย่งกันเป็นตัวแทนจำหน่าย และไม่สามารถเลือกซื้อเลขที่ต้องการได้ แต่สลาก N3 ไม่ต้องแย่งกันมาเป็นตัวแทนจำหน่าย
ฉะนั้น ใครอยากที่จะมาประกอบอาชีพ สำนักงานสลากฯก็จะให้สลาก N3 โดยสลาก L6 ที่ทํามาตอนแรกในเรื่องของการที่จะแก้ไขปัญหาสลากไม่ให้เกินราคา โดยการขายผ่านดิจิทัล ส่วนสลาก N3 จะมาปิดช่องว่าง L6 ในเรื่องของการที่ไม่ต้องมาแย่งกันเป็นตัวแทนจำหน่าย และเป็นอีกทางเลือกในการประกอบอาชีพสำหรับผู้ที่ต้องการจำหน่ายสลากด้วยตนเอง
ทั้งนี้ยืนยันว่า สลาก N3 ไม่ได้ทํามาเพื่อสู้กับหวยใต้ดิน เพราะคนละลักษณะในเรื่องของการจ่ายเงิน แต่มีจุดแข็งอยู่เมื่อซื้อเลข 3 หลัก มีโอกาสถูกรางวัล 4 ประเภท สามตรง สามสลับหลัก สองตรง และรางวัลพิเศษ โดยหวังว่าผู้บริโภคจะหันกลับมาเล่นเกมที่ถูกกฎหมาย ไม่ถูกเอาเปรียบจากการพนันนอกระบบ
โดยตอนนี้ก็มีความพร้อมแล้ว โดยได้ทําสัญญากับตัวแทนรายย่อยที่จะขายสลาก N3 เรียบร้อย จากกลุ่มที่ 1.ตัวแทนโครงการสลาก 80 ที่มีจำนวน 819 ราย แล้วก็กลุ่มที่ 2 ตัวแทนผู้พิการที่เป็นตัวแทนจำหน่ายสลาก L6 แบบดิจิทัล อีกจำนวน 986 ราย รวมจำนวน 1,805 รายทั่วประเทศ
“งวดวันที่ 16 มี.ค.นี้ แน่นอน เรามีสลาก L6 แบบดิจิทัลอยู่แล้ว เมื่อบวกสลาก N3 เข้าไป จะทําให้รายย่อยจากเดิมถ้าเป็นตัวแทนแค่ 5 เล่ม มีกําไรต่อเดือนประมาณ 9,800 บาท ก็จะมี N3 สมทบให้อีก จะทำให้มีรายได้ต่อเดือน หากขายสลากหมดเพิ่มขึ้นมาอีก 15,000 บาท ซึ่งเทียบเท่าค่าแรงขั้นต่ำ ทั้งนี้ ระบบเป็นไปได้ดีมากในฝั่งของคนขายและคนซื้อ จะเสถียรและมั่นคงไม่มีผิดพลาด เพราะฉะนั้นการมีตัวแทนเพิ่มขึ้นไม่ได้มีความแปลกใหม่ แต่มีเรื่องของรายได้ของตัวแทนผู้พิการที่จะเพิ่มขึ้น”
หลังจากนั้น ตั้งแต่งวดวันที่ 1 เม.ย. 2568 เป็นต้นไป ตัวแทนจำหน่ายสลาก N3 จะมี “เครื่องแบบจำหน่ายสลาก N3” เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถสังเกตมองเห็นได้อย่างถูกต้อง เช่น ตัวแทนจำหน่ายต้องสวมเสื้อกั๊กของสำนักงานสลากฯอย่างชัดเจน มีภาพถ่ายตัวแทนจำหน่าย หมายเลขประจำตัว
“สำนักงานสลากฯยังไม่ได้เปิดขายออนไลน์ แต่ขายผ่านตัวแทนที่จะต้องเดินไปเจอตัว โดยผู้ซื้อจะต้องทำรายการและชำระเงินผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตังเท่านั้น โดยผ่านคิวอาร์โค้ดของตัวแทน ซึ่งผู้ที่สนใจซื้อสามารถค้นหาร้านค้าตัวแทนจำหน่ายผ่านแอป เป๋าตัง ได้ทั้ง 1,805 แห่งทั่วประเทศ โดยจะแสดงรูปร้านค้า เบอร์โทร.ร้านค้า ในพื้นที่ใกล้ท่าน ส่วนผู้พิการที่เดินจำหน่ายจะมีการระบุพื้นที่ในการจำหน่าย เพื่อให้สะดวกในการหาจุดจำหน่ายที่ใกล้ที่สุด”
“พันโทหนุน” กล่าวว่า นอกจากนี้ในกรณีที่เคยมีการทำรายการซื้อสลาก N3 ครั้งแรกแบบเจอตัวแทนจำหน่ายแล้ว สามารถบันทึกคิวอาร์โค้ดของตัวแทน สำหรับการซื้อสลาก N3 ในครั้งต่อไป โดยไม่ต้องพบตัวแทนจำหน่ายอีก เนื่องจากมีระบบฐานข้อมูลผู้ขาย-ผู้ซื้อ ที่เคยทำข้อมูลซื้อขายกันไว้เรียบร้อยแล้ว
“ตัวแทนจำหน่ายสมมุติไปเจอนาย ก. เมื่อซื้อสลาก N3 แล้ว นาย ก.ก็จะเมมเบอร์ไว้ รอบต่อไปไม่ต้องเจอตัวแทนจำหน่าย กดซื้อได้ทันที โดยวัตถุประสงค์อยากให้ตัวแทนจำหน่ายสลาก N3 เดินหาลูกค้าก่อน ยิ่งมีลูกค้าในลิสต์เยอะยิ่งดี เพราะว่าไม่รู้ว่า นาย ก. จะสามารถซื้อทุกงวดหรือไม่”
ทั้งนี้ ปัจจุบันการจำหน่ายสลาก N3 ในระยะที่ 3 ได้ปิดรับสมัครตัวแทนจำหน่ายแล้ว ส่วนตัวแทนจำหน่าย L6 แบบดิจิทัลที่อยู่ในระบบที่ไม่ใช่คนพิการ มีสมัครมาแล้วกว่า 30,000 ราย โดยในระยะต่อไปจะเปิดให้ผู้จำหน่ายสลาก L6 แบบใบ เข้ามาสมัครทั้งในระบบซื้อจองและที่เป็นโควตาที่เป็นรายย่อยเข้ามา โดยจะใช้เวลารับสมัคร 3 เดือน เนื่องจากคนในระบบมีจำนวนมาก
“สลาก N3 จะกำหนดกรอบการจำหน่ายไว้ที่ประมาณ 5 ล้านรายการต่องวด ซึ่งตอนนี้ตัวแทนมีอยู่แล้ว 1,805 รายทั่วประเทศ ซึ่งต้องมีตัวแทนเพิ่มอีกประมาณ 2,200 ราย เราจะเปิดให้สมัคร แต่ไม่ใช่ว่าจะได้ทุกคน ต้องมาจัดคิวลําดับ สุ่มเลือกเป็นจังหวัด เพื่อให้กระจายไปทั่วประเทศ และจัดคิวไว้หากมีการเพิ่มสลาก N3 ค่อยมาเรียกตัวแทนเพิ่ม เนื่องจากต้องควบคุมในเรื่องของจํานวน ไม่ใช่ว่าอยากจะให้จํานวนเป็น 10-20 ล้านรายการต่องวด ต้องค่อย ๆ ให้เติบโต เพราะจะมีเอฟเฟ็กต์หลายอย่าง สำนักงานสลากฯไม่อยากให้มากระทบกับ L6 แบบใบหรือดิจิทัลด้วย เพราะฉะนั้น ต้องให้โตไปด้วยกัน” ผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯกล่าว