วันที่ 2 มีนาคม 2568 เวลา 17.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า พ.ต.ท.อดีศร เจนประเสริฐศิลป์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองชุมพร รับแจ้งจาก ร.ต.ต.วิทวัส ศรีคง รอง สวป.สภ.เมืองชุมพร ว่า มีเหตุชายคลุ้มคลั่งปีนเสาเหล็กป้ายโฆษณา บริเวณหน้าร้านทรัพย์สมบูรณ์ ม.5 ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ชีพกู้ภัยสายชล มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์
ที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนสายเมืองชุมพร-ปฐมพร ขาออก พบชายทราบชื่อภายหลังคือนายอุดมพร อายุ 49 ปี อยู่บ้าน ม.6 ต.ขุนกระทิง อ.เมือง จ.ชุมพร สภาพสวมเสื้อแขนยาง กางเกงขายาว ที่ศีรษะสวมหมวกกันน็อก ยืนอยู่เสาเหล็กป้ายโฆษณา เกือบถึงยอดสุด ซึ่งมีความสูงกว่า 40-50 เมตร โดยโวยวายพอจับความได้ว่า มีปัญหาเรื่องมรดกกับพี่ชาย และมีรถกระบะ ขับมาป่วนเปี้ยนหน้าบ้านทั้งกลางวันและกลางคืน จนรู้สึกกลัวว่าจะถูกปองร้าย และจับใจความได้อีกว่า ถ้าเค้ากระโดดลงมาเพื่อฆ่าตัวตาย ลูกเมียยังเห็นศพ แต่ถ้าเค้าโดนอุ้มจากคนมีสี จะไม่เหลือร่างเลย
ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นางณัฐกาญจน์ เจ้าของร้ายทรัพย์สมบูรณ์ ผู้แจ้งเหตุ ทราบว่า ก่อนหน้านี้ นายอุดมพร ได้ขับ รถ จยย.มาจอดข้างร้าน ตรงบริเวณเสาเหล็กป้ายโฆษณา พร้อมบอกว่า จะขอน้ำขวด 3 ขวด ตนจึงได้ให้ไปและนายอุดมพร ยังได้ขอถุงใส่น้ำขวด ก่อนบอกตนเองว่า ตนเองจะปีนต้นเสาประท้วง พร้อมให้ตนช่วยไลฟ์สดให้ด้วย ตนเองก็ทำไม่เป็นและไม่คิดว่าจะทำจริง แต่พอสักพักนายอุดมพร ก็ปีนขึ้นไปเรื่อยๆจนสูง ตนเองก็พยายามทักท้วง ดึงเวลา แต่ก็จนแล้วจนรอดปีนขึ้นไป ตนเองจึงได้แจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบ
ในขณะเดียวกัน ด้านนางปิยะมาศ อรุณสาร ภรรยา ซึ่งได้ทราบเหตุ ก็ได้รุดมาที่เกิดเหตุพร้อมพยายามเกลี่ยกล่อมสามีอยู่ พร้อมเปิดเผยว่า สามีตนเองไม่ได้หลอนยา แต่ที่ทำเช่นนี้ก็มีรถมาป้วนเปี้ยนหน้าบ้านจริง ตามที่สามีบอกและรถกระบะก็มาติดต่อกันหลายคืนแล้ว จนสามีตนเองเกิดกลัวจนความเครียดมาก พยายามจะแจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบแล้ว แต่ก็ยังมีมาอย่างต่อเนื่องทุกคืน ส่วนสาเหตุนั้น ก็มาจากเรื่องพี่น้องกัน แต่จะถึงขนาดไหนนั้นก็ต้องสอบถามสามีถึงรายละเอียด
ต่อมาทางตำรวจได้ประสานไปทาง กัน จอมพลัง ได้และได้แจ้งถึงความต้องการของนายอุดมพร ว่า ถูกกดดันจากปัญหาภายในครอบครัว จนเกิดความระแวง ไม่กล้าจะไปไหน และต้องการให้ทาง กัน จอมพลัง ช่วยคุ้มครอง และหลังจาก กัน จอมพลัง ได้ทราบ จึงได้โทรศัพท์มายังนายอุดมพร พร้อมสัญญา ว่าจะดำเนินการให้ทุกอย่าง
โดยกันต์ จอมพลัง ได้ให้นายชูศักดิ์ ตระหง่าน ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดชุมพร เป็นตัวแทนทีมงานกันต์จอมพลัง รอเข้ารับตัวนายอุดมพร จึงลงมาจากเสาป้าย ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ขึ้นรถพยาบาลส่งตัวไปตรวจสุขภาพเบื้องต้นและจะเฝ้าดูแลความปลอดภัยให้ พร้อมกับให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวเนื้อหาตามที่เคยโพสทางโซเชียลไว้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ทางนายอุดมพร ได้เขียนจดหมาย 1 หน้า บนกระดาษ ขนาด เอ 4 พร้อมถ่ายโฟสต์เฟซบุ๊ก โดยมีใจความว่า ข้าพเจ้านายอุดมพร ขอให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ว่า มีรถยนต์หลายคัน หลายยี่ห้อ ติดตามข้าพเจ้า เป็นเวลาหลายวัน นับตั้งแต่ วันที่ประมาณ 16 เดือนกุมภาพันธ์ เป็นต้นมา และมีโดรนมาบินวนที่บ้านข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเกรงจะเป็นอันตรายต่อตัวข้าพเจ้าและทรัพย์สินของข้าพเจ้าและมีคนบอกว่าลักษณะนี้เป็นทีมที่มีอิทธิพล อาจมีการมายัดยาหรือสิ่งผิดกฎหมายได้ ข้าพเจ้าคิดถี่ถ้วนดีแล้ว หากข้าพเจ้าเป็นอันตรายหรือคนในครอบ(ครัว) ข้าพเจ้าคิดว่าเป็น นายอนันตนัฐ หรือชื่อเดิมคือนายอนันต์เป็นพี่ชายแท้ร่วมบิดา-มารดา เคยมีคดีฟ้องร้อง คดีขึ้นศาลมาแล้วย้อนไปประมาณ 10 ปีที่แล้ว เป็นที่ดินมรดกของมารดา คือนางนุ้ย ให้เป็นผู้ต้องสงสัยจ้างวานมาทำร้ายข้าพเจ้า เป็นบุคคลแรก คือนายอนันตนัฐ พี่ชายแท้ๆของข้าพเจ้า มีพฤติกรรมแกล้งหลอกทำดีกับข้าพเจ้าให้ข้าพเจ้าตายใจและขายที่ดินส่วนแบ่งให้ข้าพเจ้าในราคาถูก แค่ 250,000 บาทเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา นายอนันตนัฐ ผูกใจเจ็บข้าพเจ้าตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาแต่ข้าพเจ้าไม่รู้ และเข้ามาสวมรอย เมื่อรู้ว่าข้าพเจ้าได้มีเรื่อง มอเตอร์ไซค์หาย เมื่อ 10 มกราคม 68 ลงชื่อ นายอุดมพร อรุณสาร