เมื่อวันที่ 4 มีนาคม นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายกสมาคมร้านขายยาได้ออกจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เลขาธิการ อย. และผู้เกี่ยวข้อง ขอคัดค้านการยกระดับยาทรามาดอล ให้สามารถสั่งจ่ายได้เฉพาะแพทย์ในสถานพยาบาล ว่า สำหรับยาทรามาดอล เป็นยาแก้ปวดชนิดหนึ่ง ที่เดิมทีนั้นมีการอนุญาตให้จำหน่ายในร้านขายยาที่ได้รับการขึ้นทะเบียน (ขย.1) โดยกำหนดให้จำหน่ายได้ไม่เกินครั้งละ 20 เม็ด ร้านขายยาต้องมีการทำรายงานการสั่งจ่ายยา และต้องจำหน่ายโดยเภสัชกรประจำร้านขายยาเท่านั้น แต่ที่ผ่านมาพบว่ามีการนำยาแก้ปวดชนิดดังกล่าวไปใช้ในทางที่ผิด ด้วยการนำปผสมเป็นยาเสพติดอ่อนๆ ยังพบด้วยว่ามีการลักลอบขายให้คนที่ไม่จำเป็นต้องใช้ยาดังกล่าว ลักลอบขายในร้านที่ไม่มีเภสัชกร ตลอดจนมีการลักลอบผลิตยาปลอมออกมาขายเพื่อหวังผลนำไปประกอบเป็นยาเสพติดอื่น ทำให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีความห่วงใย จึงมีการหารือหลายฝ่าย และเห็นว่าควรมีการควบคุม ให้สั่งจ่ายโดยแพทย์ในสถานพยาบาลเท่านั้น ดังนั้น ขณะนี้จึงอยู่ระหว่างการรับฟังความเห็น จนถึงวันที่ 6 มี.ค.นี้ ในการออกเป็นประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ยาควบคุมพิเศษ ฉบับที่… (ยาทรามาดอล tramadol ตำรับยาเดี่ยว ชนิดรับประทาน) โดยเปิดรับฟังความคิดเห็นผ่าน เว็บไซต์ระบบกลางทางกฎหมาย
นพ.สุรโชคกล่าวต่อว่า สำหรับการออกประกาศให้ยาทรามาดอลเป็นยาควบคุมพิเศษ จะเป็นการสั่งจ่ายโดยแพทย์ในสถานพยาบาล เช่น โรงพยาบาล (รพ.) คลินิกเวชกรรม ไม่สามารถสั่งจ่ายโดยเภสัชกรร้านขายยาได้ ทั้งนี้ เพื่อควบคุมไม่ให้มีการนำไปใช้ในทางที่ผิด ส่วนผู้ที่จำเป็นต้องใช้ยาดังกล่าวนั้น ก็ยังสามารถไปรับได้ที่ รพ. โดยเฉพาะผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้ยาลดอาการปวดจากการรักษาโรค เช่น มะเร็ง ที่ต้องกินยาแก้ปวด แต่ไม่สามารถกินยาแก้ปวดแรงๆ ได้ หรือคนที่แพ้ยาแก้ปวดกลุ่มเอ็นเสด (NSIADs) เช่น คนไข้โรคตับ โรคไต เป็นต้น ส่วนคนที่ต้องกินยาแก้ปวดชนิดที่ไม่สามารถหาซื้อได้ตามปกติ ก็จะเป็นการป้องกันการเข้าถึงยาที่ไม่จำเป็นด้วย