นันทนา จี้ ก.ยุติธรรม ปมบุ้งเสียชีวิตในเรือนจำ ชี้เหลื่อมล้ำสิทธิรักษา เข้าถึงหมอ ยากพอๆประกันตัว
GH News March 04, 2025 03:40 PM

นันทนา ซัด ก.ยุติธรรม คุกมีไว้ขังคนจนจริงๆ เข้าถึงหมอในเรือนจำ ยากพอๆประกันตัว หวังผู้ต้องขังทุกคนได้รับการรักษาอย่างเท่าเทียมในฐานะมนุษย์ ต้องไม่มีเทวดาหรือสัมภเวสี

เวลา 09.30 น. วันที่ 4 มีนาคม ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา มีนายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 เป็นประธานการประชุม พิจารณาญัตติเรื่องขอเสนอให้วุฒิสภาพิจารณาปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรม และการบังคับใช้กฎหมาย ของ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร ส.ว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ และการเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา เสนอญัตติ เรื่อง ขอเสนอญัตติให้วุฒิสภาพิจารณาปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมาย

จากนั้นเวลา 09.50 น. น.ส.นันทนา นันทวโรภาส ส.ว. อภิปรายว่า คุกมีไว้ขังคนจนเป็นจริงหรือไม่ วิญญูชนย่อมรู้ดี และยิ่งไปกว่านั้นความเหลื่อมล้ำในการเข้ารักษาพยาบาลของผู้ต้องขัง ก็ยิ่งแตกต่างกันเหมือนอยู่กันคนละพิภพ ถ้ามีเงินมีอำนาจก็จะได้อัพเกรดเป็นเทวดาจุติมาที่วิมานชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ

ส่วนคนจนไม่มีอำนาจก็เป็นสัมภเวสีรอรับการรักษาอยู่แถวหน้าห้องพยาบาลในเรือนจำ ไม่ว่าจะป่วยหนักขนาดไหน ก็ห้ามออกไปรักษาที่ไหน ถ้าตายก็ต้องตายในเรือนจำ นี่หรือคือความยุติธรรมต่อผู้ต้องขังในสังคมไทย

ซึ่งสาเหตุที่ต้องเสียชีวิตลงคือ ความล่าช้าของการรักษาพยาบาลและไม่มีโอกาสเข้าถึงแพทย์ ยา และโรงพยาบาล แค่โรงพยาบาลในเรือนจำยังไม่มีโอกาสเข้าถึง

น.ส.นันทนากล่าวต่อว่า ทั้งกรณีของ นายอำพล ตั้งนพกุล หรืออากง ที่ใช้เวลากว่า 1 เดือน 3 วัน นายอำพลถึงได้พบแพทย์ ถ้าได้ส่งตัวรวดเร็วภายใน 24 ชั่วโมง เหมือนส่งเทวดาไปชั้น 14 นายอำพลจะรอดหรือไม่ หรือกรณีของ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง นักกิจกรรมกลุ่มทะลุวัง ที่มีคำถามคือหากจะช่วยชีวิตของ น.ส.เนติพร ทำไมไม่นำส่งโรงพยาบาลที่ใกล้เรือนจำ

หากส่งไปที่โรงพยาบาลตำรวจการฟื้นชีพอาจจะสำเร็จ หรือโรงพยาบาลตำรวจมีไว้ให้เทวดารักษาตัวเท่านั้น อาการโคม่าขนาดนี้ยังไม่ได้รับการอนุญาตให้ไปรักษาในโรงพยาบาลภายนอกจนเสียชีวิตในที่สุด เป็นการเหลื่อมล้ำหรือไม่

น.ส.นันทนากล่าวว่า ขณะนี้ยังมี นายสิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ หรือขนุน มศว นักกิจกรรม ได้ทำการอดอาหารประท้วงมาเป็นเวลา 12 วันแล้ว ด้วยเหตุผลที่ไม่ได้รับการประกันตัว ตอนนี้นายสิรภพถูกนำตัวไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพราะอาการเล็บเริ่มคล้ำ ผื่นขึ้น และไม่มีแรง

ขออย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย อย่าให้เขาเสียชีวิต ซึ่งการเข้าถึงหมอในเรือนจำเป็นเรื่องที่ยากพอๆ กับการได้ประกันตัว ขั้นตอนการพบหมอ และลงชื่อเข้าคิวพบหมอก่อน 08.00 น. รอคิว 1-2 วัน โควต้าหมอตรวจ 1 ต่อ 20 คน โดยมีหมอ 2 คน ตรวจครบโควต้าเริ่มใหม่พรุ่งนี้ สภาพภายในโรงพยาบาลราชทัณฑ์แออัด ห้องละ 30 เตียง

นายสิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ

โอกาสพบหมอพยาบาลน้อย คนไข้ดูแลกันเองแล้วก็ติดไข้กันเอง เจ้าหน้าที่ไม่มาดูแลคนป่วย บางครั้งผู้ต้องขังต้องนอนอยู่กับคนป่วยที่ตายแล้ว จนถึงเช้ารอผู้คุมมาจึงจะเคลื่อนย้ายศพออกไปได้ นี่คือความทุกข์ที่เกิดจากความเหลื่อมล้ำและเลือกปฏิบัติกับผู้ต้องขัง

น.ส.นันทนากล่าวอีกว่า ขณะนี้มีผู้ต้องขังจำนวนมากที่ไม่สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่พึงได้รับตามสิทธิแห่งการเป็นมนุษย์ โดยในประเทศไทยปี 2563 กระทรวงยุติธรรมได้ออกกฎกระทรวงเรื่องการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษานอกเรือนจำที่สรุปได้ว่า ถ้าผู้ต้องขังมีอาการป่วยให้ส่งตัวไปรักษาในสถานพยาบาลของเรือนจำโดยเร็ว หากไม่สามารถรักษาได้ผู้บังคับบัญชาเรือนจำมีอำนาจอนุญาตส่งตัวรักษานอกเรือนจำได้ และถ้ามีเหตุจำเป็นสามารถส่งตัวไปรักษาในโรงพยาบาลเอกชนได้ ซึ่งข้อกำหนดเหล่านี้มีขึ้นเพื่อรักษาชีวิตของผู้ต้องขังทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน

“เราไม่คาดหวังว่าจะให้ผู้ต้องขังทุกคนต้องได้รับการรักษาที่ชั้น 14 ขอเพียงให้เขาเหล่านั้นได้เข้าถึงการรักษาตามสิทธิแห่งความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกันเท่านั้น จึงฝากให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้มอบสิทธิแห่งการรักษาพยาบาลของผู้ต้องขังทุกคนอย่างเท่าเทียมกันในฐานะมนุษย์ จะต้องไม่มีเทวดาหรือสัมภเวสีอีกต่อไป” น.ส.นันทนากล่าว

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.