ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับลดลงราว 2% หลังโอเปกคงมติเดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตตามแผน
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่าปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคามีดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับลดลงราว 2% สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 12 สัปดาห์ หลังสมาชิกกลุ่มโอเปกและชาติพันธมิตรตัดสินใจคงมติที่จะทยอยเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบจำนวน 138,000 บาร์เรลต่อวันตั้งแต่เดือน เม.ย.นี้เป็นต้นไป ส่งผลให้ตลาดกังวลว่าอุปทานน้ำมันดิบจะมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นและกดดันราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก
ตลาดจับตาผลกระทบจากแผนการขึ้นกำแพงภาษีนำเข้าของสหรัฐต่อแคนาดาและเม็กซิโกที่มีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 มี.ค.นี้ หลังโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ให้คำมั่นว่าจะกำหนดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโกที่ 25% ยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าประเภทพลังงานจากแคนาดาที่มีอัตราภาษีที่ 10%
ตลาดจับตาท่าทีสงครามรัสเซีย-ยูเครน หลังล่าสุดสหรัฐเปิดเผยว่ากำลังวางแผนผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย หลังทรัมป์พยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์กับมอสโกและยุติสงครามในยูเครน โดยทำเนียบขาวจะมีการเข้าหารือกับตัวแทนของรัสเซียในสัปดาห์นี้เพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์ทางการทูตและเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันทรัมป์ได้เผยว่าข้อตกลงเกี่ยวกับแร่หายากของสหรัฐ และยูเครนนั้นยังคงสามารถตกลงกันได้ แม้ก่อนหน้านี้จะผิดหวังจากการเจรจากับผู้นำยูเครนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ตาม
ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานน้ำมันเบนซินในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มตึงตัวมากขึ้น จากการที่โรงกลั่นในเกาหลีใต้และอินเดียเข้าสู่ฤดูกาลซ่อมบำรุง อย่างไรก็ดี ราคาได้รับแรงกดดันหลังตลาดคาดตัวเลขการส่งออกน้ำมันเบนซินจากจีนเดือน มี.ค. 68 มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 7 แสนตันจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 4 แสนตัน
ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคาดอุปสงค์น้ำมันดีเซลในจีนมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมการผลิตของจีนครั้งแรกในรอบ 3 เดือน อีกทั้งอุปทานน้ำมันดีเซลในภูมิภาคมีแนวโน้มตึงตัวมากขึ้นจากการที่โรงกลั่นหลายแห่งปิดซ่อมบำรุง อย่างไรก็ดี ราคาได้รับแรงกดดันจากอุปสงค์น้ำมันดีเซลในยุโรปที่ชะลอตัวจากปีก่อนหน้าจากภาวะเศรษฐกิจซบเซา