อดีตนักวิทยาศาสตร์เคมี
ผันตัวขุดบ่อ’เลี้ยงปลาหมู’
ออเดอร์สุดปัง-รายได้ดี

บนเนื้อที่ 5 ไร่ ใน ต.มิตรภาพ อ.แกดำ จ.มหาสารคาม เกษตรกรสาวได้ปรับที่ขุดบ่อ เพื่อเลี้ยงปลาสายพันธุ์ต่างๆ ส่งขายให้กับเพื่อนบ้านในระแวกข้างเคียง เพียงเพื่อต้องการกลับมาอยู่บ้านเกิด

ว่าที่ร้อยตรีหญิงจินตรา รักภักดี ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงปลาและพืชน้ำ ต.มิตรภาพ อ.แกดำ จ.มหาสารคาม เล่าว่า ก่อนที่จะมาทำเกษตร ตนทำงานที่กรุงเทพฯ เป็นนักวิทยาศาสตร์เคมี ทำงานได้เกือบ 10 ปี ก็ได้ลาออกกลับมาอยู่บ้าน ตอนที่กลับมาคิดแค่ว่าเราจะทำยังไงให้เรามีรายได้วันละ 300-400 บาท เหมือนกับตอนที่เราทำงานเป็นลูกจ้างเค้า เริ่มแรกก็เลี้ยงกุ้งฝอยในบ่อซีเมนต์ ก็ล้มลุกคลุกคลานมาก่อน ก่อนที่จะประสบผลสำเร็จในระดับนึง การตลาดของตนก็คือ ในช่วงเย็นก็จะเดินตามบ้าน สอบถามชาวบ้านว่าต้องการกุ้งฝอยเอาไว้ทำกับข้าวมั้ย ก็ได้ลูกค้ามาตลอด รายได้อยู่ที่ 200-300 บาท บางวันโชคดีหน่อยก็ได้ 400-500 บาท แค่นี้ก็พอใจแล้ว

แต่ด้วยความที่ผลผลิตมีไม่เพียงพอก็เลยขุดบ่อเพิ่ม ซึ่งตอนนี้มีบ่อดินทั้งหมด 11 บ่อ บนพื้นที่ 5 ไร่ และได้นำปลามาเลี้ยงเพิ่ม อีก 3-4 ชนิด ได้แก่ ปลาซิว ซึ่งตามธรรมชาติก็จะมีในช่วงน้ำหลาก พ่อของตนไปหามาจากแม่น้ำได้มา 4 ตัว แล้วก็เอามาขยายพันธุ์ได้ 200 ตัว จาก 200 ตัว ก็ขยายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นก็มาปลากระดี่ ซึ่งปัจจุบันหาตามแหล่งน้ำธรรมชาติได้ยากและยังเป็นที่ต้องการของตลาด เพราะปลากระดี่สามารถนำไปทำปลาร้าได้ ขายเป็นพ่อแม่พันธุ์ได้ ต่อมาก็เป็นปลารากกล้วย และเป็นปลาหมูในที่สุด

ซึ่งปลาหมู ถือว่าเป็นปลาเศรษฐกิจตัวใหม่ ที่ตอนนี้ผลผลิตยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า ซึ่งตอนแรกไม่คิดว่าจะเลี้ยง เพราะปลาหมูเป็นปลาแม่น้ำชี แต่ว่าบ้านที่ตนพักอาศัยอยู่ที่อำเภอแกดำ เป็นที่โคก หรือเป็นพื้นที่สูง ไม่ได้ติดแม่น้ำ กลัวว่าจะเลี้ยงไม่ได้ เพราะปลาหมูเป็นปลาที่ชอบน้ำไหล เพื่อนเลยบอกว่าให้ลองเอาไปเลี้ยงดูก่อน เพราะว่าตนเลี้ยงปลาซิวอยู่แล้ว พอได้ปลาหมูมาก็เอามาลงบ่อทั้งบ่อบกและบ่อดิน ไปศึกษาหาข้อมูลในยูทูบก็ไม่มีใครเลี้ยง ทำให้ต้องลองผิดลองถูกเอง ซึ่งก็ต้องศึกษาพฤติกรรมของเขา แรกๆ ไม่ได้ใส่ท่อพีวีซี ไม่ได้ใส่หิน จึงได้สอบถามเพื่อนว่าพฤติกรรมของปลาหมูเป็นอย่างไร เพื่อนบอกว่าปลาหมูจะชอบอยู่ตามโขดหิน ตนเลยปรับไปหาหินกรวด หินแม่น้ำที่ไม่มีเหลี่ยมมาใส่ และหาไม้น้ำมาลง ตอนนี้ลงต้นกระจับไว้ให้เป็นที่หลบร้อน และให้ปลาวางไข่ ก็ปรากฏว่าปลาหมูอยู่ได้ โดยในบ่อดินตนต่อท่อน้ำใช้ระบบโซลาร์เซลล์ เปิดน้ำให้ไหลลงบ่อตลอด 3 เดือน ส่วนบ่อบก ตนก็เปิดน้ำสายยางใส่ จำลองธรรมชาติเหมือนน้ำไหล ก็ปรากฏว่าปลาไข่และออกลูกได้ ตนจึงนำพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ไปลงในบ่อดินทุกบ่อที่มีอยู่ ทำให้ได้ผลผลิตปลาหมูมาจนถึงทุกวันนี้

ซึ่งปลาหมูที่ตนเลี้ยง หากเป็นบ่อบกก็จะนำผ้าพลาสติกรองบ่อ ใส่น้ำพักไว้ 5-7 วัน ก่อนจะลงปลา จำลองบ่อเลียนแบบธรรมชาติ เปิดสายยางใส่ให้น้ำไหล วางหินกรวด วางต้นไม้น้ำ และนำท่อพีวีซีมาวางไว้ เพราะธรรมชาติของปลาหมูจะชอบอยู่ตามโขดหิน ซอกหิน การวางท่อพีวีซี ปลาหมูก็จะเข้าไปอยู่อาศัยในท่อเสมือนอยู่ตามธรรมชาติ และรู้สึกว่าปลอดภัยจากศัตรู

การใช้อาหารจะให้หอย พวกหอยกาบ หรือหอยเชอรี่ ทุบเปลือกออก อาหารเม็ดจม และปลาเล็กปลาน้อยที่ตาย แต่ไม่เน่า ซึ่งก็จะเลี้ยงปลาได้ทุกชนิด ให้ช่วงเย็นๆ ส่วนราคาขายปลาหมู จะเริ่มจับขายได้ตั้งแต่ปลาหมู อายุ 3 เดือน ราคาตัวละ 8 บาท อายุ 6-7 เดือน ตัวละ 15 บาท อายุ 12 เดือน ตัวละ 25-35 บาท ถ้าเป็นไซซ์พ่อแม่พันธุ์ อายุ 1.5 ปีขึ้นไป ตัวละ 69 บาท รายได้วันละไม่ต่ำกว่า 500 ต่อวัน แต่ละเดือนก็จะอยู่ที่ 15,000-20,000 บาท แต่ถ้าปลาออกเยอะก็จะมีรายได้เดือนละ 30,000-40,000 บาท

หากสนใจปลาแม่น้ำชี อาทิ ปลาซิว ปลารากกล้วย ปลากระดี่ และปลาหมู สามารถติดต่อได้ที่ กัณฐิกาฟาร์ม บ้านประดู่ ต.มิตรภาพ อ.แกดำ จ.มหาสารคาม โทร 09-6190-3294, Facebook : จินตหรา กัณฐิกาฟาร์ม

ด้าน นายกุงชิง เรืองเจริญ ผู้อำนวยการกองสวัสดิการสังคม องค์การบริหารส่วนตำบลวังชมภู อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้มาดูงานที่ฟาร์มแห่งนี้ โดยในพื้นที่ ต.หนองบัวแดง อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ ถือเป็นต้นแม่น้ำชี สมัยก่อนปลาหมูมีเยอะตามธรรมชาติ แต่ปัจจุบันปลาหมูหายากมากขึ้น ชาวบ้านหาไม่ค่อยได้ ทางทีมผู้บริหารจึงเห็นว่าควรที่จะอนุรักษ์ไว้ จึงได้เปิดรับสมัครชาวบ้านที่สนใจอยากจะเลี้ยงปลาหมู ก็เลยทำโครงการขึ้น ได้สมาชิก 16 คนที่อยากจะเพาะเลี้ยงปลาหมู จึงดำเนินการจัดซื้อปลาหมู เพื่อนำไปให้สมาชิกทดลองเลี้ยง เพื่อเป็นการอนุรักษ์ และขยายพันธุ์ ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี หากเลี้ยงได้ก็จะสามารถสร้างอาชีพให้กับชาวบ้านได้ ซึ่งส่วนตัวก็เคยรับประทานปลาหมู รสชาติของปลาหมูอร่อย เป็นปลาหนัง หนังจะออกมันๆ นำไปปิ้ง ไปต้ม ไปย่าง ทำเมนูอะไรก็อร่อย เวลาไปเดินตลาดท้องถิ่น มีชาวบ้านเอามาขาย ก็จะอยู่ที่โลละ 150-200 บาท ถือว่าราคาสูง แต่ก็ไม่ได้หาซื้อได้ง่ายๆ

สำหรับเมนูในวันนี้คือ ปิ้งปลาหมู เริ่มต้นต้วยการติดเตาถ่าน รอไฟให้อ่อนลง นำปลาไปล้าง โรยเกลือเล็กน้อย จากนั้นก็ห่อใส่ใบตอง และนำลงย่างในเตาถ่าน สักพักก็ได้กลิ่นหอมๆ โชยมา เปิดใบตองออกดู ปลาสุกแล้ว เหลือแต่ให้แห้งอีกสักหน่อย จากนั้นก็จัดใส่จาน ปั้นข้าวเหนียวใหม่ จิ้มกับเนื้อปลาหมู งานนี้บอกได้คำเดียวเลยว่า…..แซ่บบบบบบ