รพ.วชิระภูเก็ต โชว์เทคโนโลยี
‘ส่องกล้องผ่าตัดรักษาโรคอ้วน’
ยกระดับบริการเชิงสุขภาพระดับโลก
ความอ้วน เป็นปัญหาสุขภาพและปัญหาสังคมไทย ที่นับวันทวีความรุนแรงมากขึ้น หลักๆ เกิดจากการบริโภคอาหารที่ไม่ถูกหลักโภชนาการ อาทิ ของทอด มัน หวาน และเค็ม ในปริมาณที่มากเกินกว่าความจำเป็นที่ร่างกายต้องการ ส่งผลให้โรคต่างๆ ตามมา
เมื่อเร็วๆ นี้ นายแพทย์วีระศักดิ์ หล่อทองคำ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการ “พัฒนาศักยภาพการผ่าตัดลดน้ำหนัก และการดูแลผู้ป่วยโรคอ้วนทุพพลภาพ Wisdom, Passion and Dedication :Factor improved Barriatric outcomes” ระหว่างวันที่ 6-7 มีนาคม 2568 โดยมี นายแพทย์ ฐากูร พูนธนานิวัฒน์กุล ศัลยแพทย์ชำนาญการ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต คณะแพทย์ พยาบาล ที่เกี่ยวข้องจากหลายจังหวัด เข้าร่วมฯ ณ ห้องประชุมราชพฤกษ์ชั้น 6 อาคารบ้านคุณพุ่ม โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
นายแพทย์ฐากูร พูนธนานิวัฒน์กุล ศัลยแพทย์ชำนาญการ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวว่า ในปัจจุบันพบว่า 1 ใน 10 ของประชากรไทยมีน้ำหนักเกินมาตรฐาน การที่น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้นสร้างปัญหาทางร่างกายและจิตใจ อาทิ ภาวะปวดเข่า ปวดสะโพก ปวดหลัง ภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจขณะหลับ อีกทั้งเพิ่มโอกาสการเกิดปัญหาของโรคเมตาบอลิก เช่น โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง ส่งผลให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง บางรายอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ บางครั้งแพทย์ได้รักษาโรคเรื้อรังต่างๆ แล้วยังไม่ได้ผล แต่เมื่อรักษาโรคอ้วนกลับทำให้โรคเรื้อรังเหล่านั้นหายไปได้ ส่วนปัญหาทางจิตใจ เช่น ถูกล้อเลียน ไม่เป็นที่ยอมรับจากสังคม ปัญหาสุขภาพจิต โรคซึมเศร้า ก่อให้เกิดการฆ่าตัวตาย เป็นต้น
โดยความอ้วน เกิดจากการมีความรู้ทางโภชนาการที่ไม่ถูกต้อง ปัจจุบันมีการรณรงค์ลดน้ำหนักมากขึ้น โดยการปรับอาหารจากนักโภชนาการ การแนะนำการออกกำลังกาย รวมถึงมียาหรือผลิตภัณฑ์อาหารที่ดูแลโดยแพทย์ในการช่วยควบคุมน้ำหนัก การรณรงค์ทางสังคมจากศิลปินผู้มีชื่อเสียงรณรงค์การออกกำลังกาย นโยบายจากภาครัฐที่สนับสนุน เช่น การเก็บภาษีสรรพสามิตตามระดับน้ำตาลในเครื่องดื่ม การบังคับให้งดใช้ไขมันทรานส์ ทั้งหมดนั้นส่งผลให้ประชาชนทุกคนมีสุขภาพที่ดีมีโอกาสควบคุมน้ำหนักไม่ให้เพิ่มขึ้นและสร้างโอกาสลดน้ำหนักได้มากขึ้น แต่ก็ยังมีผู้ป่วยอ้วนทุพพลภาพอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่สามารถลดได้
ดังนั้น การผ่าตัดลดน้ำหนัก คือโอกาสที่ทำให้ผู้ป่วยโรคอ้วนทุพพลภาพสามารถลดลงได้มาก ประโยชน์ของการรักษาโรคอ้วนโดยวิธีการผ่าตัด จะทำให้น้ำหนักตัวลดลง โดยทั่วไปสามารถทำให้น้ำหนักตัวลดลงได้เฉลี่ยประมาณร้อยละ 25 ถึง 40 ของน้ำหนักตัวตั้งต้น และจะลดได้มากน้อยเท่าไหร่ รวมถึงว่าจะสามารถลดน้ำหนักได้อย่างยั่งยืนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารและออกกำลังกายของผู้ป่วย
โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาโรคอ้วนโดยการผ่าตัดที่ รพ.วชิระภูเก็ต ประมาณ 500 ถึง 700 คนต่อปี โดยเฉลี่ยปีละ 40-50 ราย การผ่าตัดทำอยู่ทุกวัน ด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์
ปัจจุบันสิทธิการรักษาไม่ว่าจะเป็นบัตรทอง ประกันสังคมหรือสิทธิเบิกได้ของทางราชการ ครอบคลุมในการผ่าตัดแล้ว แต่มีเงื่อนไขผู้ป่วยจะต้องมีแนวโน้มหรือมีความตั้งใจจริงที่จะเข้ารับการผ่าตัดและมีการลดน้ำหนักก่อนการผ่าตัด
โดยจะมีเกณฑ์ในการพิจารณาผู้ป่วยว่าสามารถเบิกจากกองทุนของสิทธิการรักษาได้หรือไม่ ถ้าคนไข้มีน้ำหนักที่เข้าเกณฑ์มีโรคร่วมที่เข้าเกณฑ์และมีการติดตามอย่างใกล้ชิดว่ามีความตั้งใจที่จะเข้ารับการผ่าตัดร่วมกับในการลดน้ำหนักก่อนที่จะเข้ารับการผ่าตัด เราจะทำเรื่องขออนุมัติไปทางสิทธิกองทุนแต่ละสิทธิของการรักษา เมื่ออนุมัติแล้ว สามารถผ่าตัดได้ โดยมีค่าใช้จ่ายที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตจะเรียกเก็บส่วนเกินไว้เผื่อมีปัญหาในการรักษาอยู่ที่ 10,000 บาท ผู้ป่วยส่วนมากที่เข้ามาเป็นคนไทยในจังหวัดและที่อยู่ในภูมิภาคใกล้เคียงในภาคใต้
ในเป้าหมายหลังจากนี้จะเป็นผู้ป่วยต่างประเทศ เนื่องจากเป้าหมายในการพัฒนาศักยภาพของโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตที่จะให้เป็นศูนย์ medical tourism ที่จะเป็นดูแลผู้ป่วยชาวต่างชาติรวมถึงกลุ่มของ wellness สุขภาพดียั่งยืน ในกลุ่มชาวต่างประเทศที่อาศัยในจังหวัดภูเก็ตจะเป็นเป้าหมายแรก เป็นหน่วยพยาบาลรักษาแรกที่พยายามให้ได้มาตรฐานระดับนานาชาติ ได้รับความมั่นใจว่าโรงพยาบาลรัฐบาลสามารถพัฒนาศักยภาพดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้ได้
“และขอฝากถึงประชาชน เรื่องการผ่าตัดลดน้ำหนักไม่ใช่เป็นทางเลือกแรกที่แก้ไขปัญหาโรคอ้วน โดยเริ่มต้นขอให้ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายอย่างถูกต้องสม่ำเสมอจะสามารถทำให้น้ำหนักลดลงได้” นายแพทย์ฐากูร กล่าว
ด้านนายแพทย์วีระศักดิ์ หล่อทองคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวว่า โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตเป็นโรงพยาบาลของรัฐบาล ที่ได้รับมาตรฐานการผ่าตัดรักษาโรคอ้วน ใน 10 ปีที่ผ่านมา ได้ผ่าตัดคนไข้กว่า 3,400 ราย เป็นเทคโนโลยีที่น่าเรียนรู้ สามารถถ่ายทอดประสบการณ์และ sharing ได้ เป็นสิ่งที่ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนได้เรียนรู้ประสบการณ์การผ่าตัดรักษาโรคอ้วน
การที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตได้ผ่านการรับรองจากสถาบันจากประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากจะต้องดูแลผู้ป่วยโรคอ้วนชาวต่างชาติด้วย จึงเป็นการพัฒนาศูนย์ความเป็นเลิศที่จะต้องได้รับมาตรฐานระดับนานาชาติ และต้องคงคุณภาพของทีมต่อเนื่อง รวมทั้งขอให้ผู้เข้ารับการประชุมวิชาการ ได้วางแผนการจัดซื้อจัดจ้างเครื่องมือในการผ่าตัดที่มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
“ดังนั้น การประชุมเชิงวิชาการครั้งนี้ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตยินดีเป็นสถานที่ให้ได้รับการเรียนรู้การผ่าตัด รักษาโรคอ้วนโดยวิธีการส่องกล้อง รวมทั้งอีกหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโรคอ้วน ที่สำคัญการรักษาโรคอ้วนต้องมาจากความตั้งใจจริงของผู้ที่จะลดความอ้วน ก่อนการผ่าตัดจึงต้องทำความรู้ความเข้าใจกับผู้ป่วยก่อนรับการผ่าตัดและหลังการผ่าตัดถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน การออกกำลังกายที่ดี และยั่งยืนจะนำสู่ความสำเร็จของการลดความอ้วนได้”