ยกฟ้อง คดี ม.ร.ว.ปรียนันทนา ฟ้อง ‘ณัฐพล-ฟ้าเดียวกัน’ 50 ล้าน โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องตั้งแต่ต้น
GH News March 07, 2025 04:40 PM

ศาลแพ่งยกฟ้อง คดี ม.ร.ว.ปรียนันทนา ฟ้อง ‘ณัฐพล ใจจริง-ฟ้าเดียวกัน’ ละเมิดไขข่าว เรียก 50 ล้าน เผยโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องตั้งแต่ต้น

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 พฤศจิกายน ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก นัดอ่านคำพิพากษาคดีที่ ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต เป็นโจทก์ฟ้อง ผศ.ดร.ณัฐพล ใจจริง ผู้เขียนวิทยานิพนธ์และหนังสือ เป็นจำเลยที่ 1 รศ.ดร.กุลลดา เกษบุญชู มี้ด อดีตอาจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ เป็นจำเลยที่ 2 นายชัยธวัช ตุลาธน บรรณาธิการหนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ เป็นจำเลยที่ 3 น.ส.อัญชลี มณีโรจน์ บรรณาธิการหนังสือ ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี เป็นจำเลยที่ 4 ห้างหุ้นส่วนจำกัดสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ผู้จัดพิมพ์หนังสือทั้ง 2 เล่ม เป็นจำเลยที่ 5 นายธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน เป็นจำเลยที่ 6 ในข้อหา “ละเมิดไขข่าวด้วยข้อความฝ่าฝืนความจริง” และเรียกค่าเสียหายจำนวน 50 ล้านบาท

ต่อมา เดือนมิถุนายน 2566 โจทก์ได้ถอนฟ้อง รศ.ดร.กุลลดา เกษบุญชู มี้ด

  • ฟ้อง ‘ณัฐพล ใจจริง-ฟ้าเดียวกัน’ 50 ล้าน เขียนธีสิส ป.เอก ทำราชสกุลรังสิตเสียหาย
  • ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต ถอนฟ้อง ‘กุลลดา’ ในคดีไขข่าว ‘ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี’ แล้ว

ล่าสุด สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน เปิดเผยผลคำพิพากษาว่า ยกฟ้อง โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องตั้งแต่ต้น วิทยานิพนธ์/หนังสือไม่ทำให้โจทก์เสียหาย

พร้อมระบุว่า ศาลมีคำพิพากษายกฟ้องคดีที่ ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต (โจทก์) ฟ้อง ณัฐพล ใจจริง ผู้เขียนวิทยานิพนธ์เรื่อง “การเมืองไทยสมัยจอมพล ป. พิบูลสงครามฯ”, สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ผู้จัดพิมพ์หนังสือ “ขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ” และ “ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี”, รวมถึง บรรณาธิการบริหาร และ บรรณาธิการหนังสือทั้งสองเล่มนี้ (รวมจำเลยทั้งหมด 5 คน) ในข้อหา “ละเมิดไขข่าวด้วยข้อความฝ่าฝืนความจริง” และเรียกค่าเสียหายจำนวน 50 ล้านบาท

ประเด็นแรก ข้อความในวิทยานิพนธ์และหนังสือ มิได้กล่าวพาดพิงโจทก์หรือความเป็นอยู่ส่วนตัวของโจทก์และครอบครัว ทั้งเรื่องการรับรองรัฐประหาร 2490 และการเข้าแทรกแซงการเมืองสมัยจอมพล ป. ไม่มีความเกี่ยวข้องกับโจทก์ อันจะทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดในตัวโจทก์ อีกทั้งเมื่อกรมพระยาชัยนาทฯสิ้นพระชนม์ก่อนแล้ว จึงเป็นการฟ้องที่กล่าวอ้างว่าเสียหายต่อผู้ที่ไม่มีสภาพบุคคลแล้วไม่ได้ แม้เป็นหลานของกรมพระยาชัยนาทฯ ก็ไม่ได้เสียหายต่อโจทก์ทายาทชั้นหลานด้วย

ข้อเท็จจริงตามเนื้อหาในหนังสือเป็นอย่างไร โจทก์ไม่ทราบและยังไม่เกิด ดังนั้น เมื่อข้อความในหนังสือไม่สื่อความหมายถึงโจทก์ ย่อมไม่ทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดในตัวโจทก์ซึ่งเป็นทายาทชั้นหลานได้

ประเด็นที่สอง ส่วนที่โจทก์เบิกความว่า มีการชุมนุมแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อกรมพระยาชัยนาทฯ โดยมีผู้นำสีแดงมาสาดใส่อนุสาวรีย์กรมพระยาชัยนาทฯ รวมถึงการชุมนุมกดดันให้ยกเลิกชื่อถนนอันเป็นนามวิภาวดีรังสิตตามภาพข่าว ก็ไม่ได้ระบุว่าเป็นการชุมนุมปลุกระดมอันสืบเนื่องมาจากข้อความในวิทยานิพนธ์และหนังสือแต่อย่างใด จึงไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเสียหายของโจทก์

ประเด็นที่สาม โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เมื่อฟังว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยประเด็นอื่นต่อไป

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.