เมื่อวันที่ 10 มีนาคม นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา เปิดเผยว่า ปัญหาการใช้บุหรี่ไฟฟ้าของเด็กและเยาวชนไทยกำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่ากังวล โดยจากข่าวในสังคมออนไลน์ที่ปรากฏให้เห็นบ่อยครั้ง ว่าเด็กและเยาวชนหันมาใช้บุหรี่ไฟฟ้ากันมากขึ้น เนื่องจากภาพลักษณ์ภายนอกของบุหรี่ไฟฟ้าที่ผู้ผลิตตั้งใจออกแบบมาให้ดูน่ารัก น่าใช้ และน่าลอง ทั้งที่ความจริงแล้วล้วนประกอบไปด้วยสารเคมี สารปรุงแต่ง และสารพิษที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ อีกทั้งหากผสมสารเสพติดจะยิ่งทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ยาเสพติดอื่นๆ ในอนาคต รวมทั้งทำให้เกิดโรค "ปอดทะลุ" หรือ "ปอดรั่ว" ซึ่งเป็นภาวะที่อากาศรั่วออกจากปอดเข้าสู่ช่องเยื่อหุ้มปอด ทำให้ปอดแฟบ หายใจลำบาก และอาจส่งผลถึงขั้นหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันได้
ปัจจุบันมีหลักฐานทางวิชาการจำนวนมาก ที่ยืนยันว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพ เนื่องจากในน้ำยาและไอระเหยของบุหรี่ไฟฟ้า ประกอบไปด้วย สารเคมี และสารปรุงแต่งจำนวนมากซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง เช่น เบนซิน ฟอร์มัลดีไฮด์ แคดเมียม ตะกั่ว และสารหนู อีกทั้งภัยจากบุหรี่ไฟฟ้าก่อให้เกิดอันตรายมากมาย หนึ่งในนั้นทำให้เกิดโรค "ปอดทะลุ" หรือ "ปอดรั่ว" ซึ่งเป็นภาวะที่อากาศรั่วออกจากปอดเข้าสู่ช่องเยื่อหุ้มปอดทำให้ปอดแฟบหายใจลำบาก และอาจส่งผลถึงขั้นหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ซึ่งอาการของผู้ป่วยที่ปอดทะลุจากบุหรี่ไฟฟ้ามักเกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน และสร้างความทรมานอย่างมาก เช่น เจ็บหน้าอกทันทีรู้สึกเหมือนมีของหนักกดทับ หายใจลำบาก หายใจไม่สุด เหมือนปอดถูกบีบ หายใจเข้าแล้วเจ็บ ต้องหายใจสั้นๆ ในผู้ป่วยบางรายอาการรุนแรงจนตัวเขียว หายใจไม่ออก และหมดสติ หากอาการหนัก อาจต้องใส่สายระบายลมออกจากปอด หรือถึงขั้นต้องผ่าตัด ซึ่งขณะนี้ มีรายงานผู้ป่วยที่มีอาการดังกล่าวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชนที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นประจำ บางคนสูบเพียงไม่กี่ครั้งก็เกิดภาวะปอดรั่วกะทันหัน ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาล ดังนั้น บุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่โฆษณา เพราะไม่เพียงแต่มีสารเคมีอันตราย แต่ยังทำให้เกิดภาวะปอดทะลุได้แบบไม่ทันตั้งตัว นอกจากนั้น การสูบบุหรี่ไฟฟ้า ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ยาเสพติด เนื่องจากสารพิษในบุหรี่ไฟฟ้ามีความเข้มข้นสูงกว่าบุหรี่มวน จึงทำให้เด็กมีโอกาสเสพติดนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้าได้ง่าย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ยาเสพติดอื่นๆ ในอนาคต เช่น กัญชา กระท่อม และแอลกอฮอล์ เป็นต้น
การสูบบุหรี่ไฟฟ้า ไม่ใช่เพียงจุดเริ่มต้นของการเกิดปัญหาสุขภาพของเด็กและเยาวชนเท่านั้น หากแต่ยังเพิ่มโอกาสเสี่ยงทำให้เด็กและเยาวชนเริ่มต้นใช้ยาเสพติดอื่นๆ ด้วย ซึ่งจะยิ่งซ้ำเติมให้ประเทศชาติต้องสูญเสียทรัพยากรและงบประมาณในการดูแลรักษาโรคในระยะยาว ดังนั้น พ่อแม่ ผู้ปกครอง และครู/อาจารย์ ควรช่วยกันเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่เด็กและเยาวชนให้รู้เท่าทันอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อป้องกันไม่ให้บุหรี่ไฟฟ้ากลายเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาที่ร้ายแรงยิ่งขึ้นในอนาคต สำหรับผู้ที่ต้องการแจ้งเบาะแสการพบเห็นการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โทร. 1599 หรับผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า สามารถติดต่อขอคำปรึกษาได้ที่ สถานพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขใกล้บ้าน หรือโทรสายด่วน 1600 และสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422