สาวสุดช็อก เลิกงานกลับบ้านดึก เจอหนุ่มเสื้อแดงวิ่งตามขึ้นตึก ทำเสียงหื่นใส่ ตะโกนเรียกให้พ่อช่วย ก่อนคนร้ายรีบลงจากตึก ปั่นจักรยานหลบหนีไป
จากกรณีเมื่อเวลา 23.10 น.วันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา มีนักเรียนหญิงกลับมาจากบ้านเพื่อน โดยมีเพื่อนมาส่งที่หน้าบ้านเอื้ออาทรบางโฉลง อาคาร 1 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังจากนั้นเด็กได้เดินขึ้นตึก และสังเกตเห็นว่ามีผู้ชายใส่เสื้อสีแดง เดินเร็วตามมาที่หน้าตึกชั้น 1 เด็กจึงวิ่งขึ้นบันไดไปห้องตัวเองที่อยู่ชั้น 5 ด้วยความตกใจ โดยคนร้ายได้วิ่งตามอย่างกระชั้นชิดจนถึงชั้น 4 เด็กจึงร้องให้พ่อช่วย คนร้ายจึงวิ่งกลับลงมาแล้วปั่นจักรยานออกไป
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 12 มี.ค.68 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุ พบกับ นายน้อย (นามสมมติ) พ่อของผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อคืนลูกสาวเลิกงานเดินทางกลับมาที่พักโดยเพื่อนขี่รถจยย.มาส่งที่หน้าตึก และลูกกำลังเดินขึ้นตึก ไม่รู้ชายใส่เสื้อแดงมาจากไหนวิ่งตามลูกสาวขึ้นมาถึงชั้นที่ 4 ลูกสาวเห็นตกใจมากวิ่งหนีและร้องให้ตนช่วย ตนอยู่ในห้องพักชั้นที่ 5 ได้ยินเสียงลูกสาวจึงวิ่งออกมาดู แต่ไม่พบผู้ก่อเหตุ แล้วจึงวิ่งตามลงมาด้านล่างก็ไม่พบตัว
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าผู้ก่อเหตุเป็นชาย สวมเสื้อสีแดง ผิวคล้ำ รูปร่างผอม สูง ขี่จักรยานมาจากด้านในโครงการ มุ่งหน้าออกหน้าโครงการ กล้องวงจรปิดระหว่างตึกสามารถจับภาพไว้ได้ จนขี่มาถึงหน้าตึก 1 และจอดจักรยานไว้หน้าตึก ก่อนวิ่งตามผู้เสียหายขึ้นไปบนตึกอย่างกระชั้นชิด เมื่อหญิงสาวหันมาเห็นก็อยู่บนชั้น 2 แล้วจึงรีบวิ่งขึ้นไปจนถึงชั้น 4 แต่ชายเสื้อแดงยังวิ่งตามขึ้นมาอีก หญิงสาวจึงร้องตะโกนให้พ่อช่วยดังกล่าว ก่อนที่ชายเสื้อแดงจะกลับลงมาแล้วขี่จักรยานออกไปทางหน้าโครงการ
น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 25 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า หลังเลิกงานเดินทางกลับไปบ้านเหมือนรู้สึกว่ามีคนเดินตาม จนขึ้นไปด้านบนชั้น 2 จึงหันไปเห็นมีผู้ชายใส่เสื้อสีแดง ผิวดำๆ ผอมเกร็ง เหมือนกับจ้องหน้าตน และตนก็หันไปจ้องหน้าเขาพอดี ตนเริ่มรู้สึกว่าไม่ใช่เป็นคนในตึกแน่ๆ จึงรีบเดินเร็วขึ้น เขาก็เดินเร็วตาม และส่งเสียงแบบหื่นๆ
พอตนขึ้นไปถึงชั้น 3 ก็เริ่มวิ่ง เขาก็วิ่งตามขึ้นมาถึงชั้น 4 กำลังจะขึ้นชั้น 5 ที่เป็นที่พัก ตนจึงร้องให้คนช่วยว่ามีคนตามมา และเรียกให้พ่อออกมาช่วย ตอนนั้นรู้สึกว่าชายดังกล่าวหนีลงไปแล้ว พอตนขึ้นไปถึงชั้น 5 ตรงระเบียงเห็นว่าเขาขี่จักรยานหนีไปแล้ว และหันหลังมาดูว่ามีใครตามไหม และจังหวะนั้นพ่อตามลงไปไม่ทัน และในช่วงเวลานั้นไม่มีใครอยู่แถวหน้าตึกเลย รวมทั้งรปภ.ก็มาอยู่ในป้อมด้วย
จึงอยากฝากเตือนคนที่กลับบ้านคนเดียวหรือยามค่ำคืน อย่ามัวแต่เล่นโทรศัพท์ เวลาเดินเข้าบ้านหรือเดินทาง ต้องคอยมองว่ามีใครตามมาหรือไม่ ตนโชคดีที่ไม่เดินเล่นโทรศัพท์ และไม่ได้จดจ่อกับโทรศัพท์ หรือโทรให้คนที่บ้านมารับ เวลากลับบ้านตอนดึกๆ เพื่อความปลอดภัยของตนเอง