นักท่องเที่ยวจีนร่วงหนัก ! เผยอินฟลูเอนเซอร์จีนเล่นแรง อัดคลิปลงยูทูบออนแอร์ทั่วโลก เตือนคนจีนให้เลี่ยงเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวที่มีคนจีนเยอะในประเทศไทย ทั้งละแวกพระพรหมเอราวัณ วัดพระแก้ว วัดอรุณ เยาวราช สยามสแควร์ ไอคอนสยามจี้รัฐจัดการโดยด่วน

นายสุรวัช อัครวรมาศ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการท่องเที่ยวสภาผู้แทนราษฎร และอดีตรองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า นับตั้งแต่เกิดเหตุการลักพาตัวนักแสดงจีนเมื่อกลางเดือนมกราคม ต่อเนื่องถึงเหตุการณ์ปราบคอลเซ็นเตอร์ของรัฐบาลตลอดช่วงเดือนกุมภาพันธ์ รวมถึงล่าสุดที่มีการส่งตัวชาวอุยกูร์กลับประเทศจีนของรัฐบาลไทย ส่งผลให้ตลาดนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยชะลอตัวต่อเนื่องและรุนแรง

โดยล่าสุดยังพบว่ามีอินฟลูเอนเซอร์ชาวจีน “เหล่าฮั้น” ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นด้วยการอัดคลิปวิดีโอเผยแพร่ผ่านช่องทาง youtube ในจีนและทั่วโลกซ้ำเติมอีกระลอก โดยระบุว่า “กรุงเทพฯ ที่รวมตัวกันของคนจีน อย่าไป”

พร้อมสาระสำคัญสรุปได้ว่า ช่วงนี้แหล่งท่องเที่ยวกรุงเทพฯ และใกล้เคียงจะเห็นถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมาก เหตุผลคือเรื่องที่ทางประเทศไทยได้ส่งกลับนักโทษที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย (อุยกูร์) ที่เข้ามาเมื่อ 11 ปีที่แล้ว คืนให้กับประเทศจีน ซึ่งเป็นที่มาของการเกิดระเบิดที่พระพรหมเอราวัณ ซึ่งการส่งกลับในครั้งนี้ อเมริกาได้ประกาศคำเตือนด้านท่องเที่ยวในประเทศไทย ไทยเองก็มีมาตรการป้องกันมากขึ้นก็เพราะกลัวเหตุการณ์เดิมจะเกิดขึ้นอีก

และย้ำว่า ถึงแม้ว่าโอกาสจะเกิดขึ้นมีไม่มาก แต่ในช่วงนี้ไม่ว่าท่านจะอยู่ในเมืองไทย หรือมาเที่ยวต้องเพิ่มความระวังในที่คนเยอะ โดยเฉพาะที่คนจีนเยอะ ๆ ห่างได้เป็นดี เช่น ละแวกพระพรหมเอราวัณ วัดพระแก้ว วัดอรุณ เยาวราช สยามสแควร์ ไอคอนสยาม สถานที่เหล่านี้เดือนนี้ไปให้น้อย เกรงว่าจะมีคนนำเหตุการณ์ 10 ปีที่แล้วมาสร้างสถานการณ์จึงก็ต้องระวัง

นายสุรวัชกล่าวว่า หลังอินฟลูเอนเซอร์ชาวจีนรายนี้ได้โพสต์คลิปวิดีโอลง youtube เตือนนักท่องเที่ยวชาวจีน ก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในกลุ่มชาวจีนว่า “อย่ามาเที่ยวไทย” โดยให้เหตุผลว่าประเทศไทยมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย

“อินฟลูเอนเซอร์รายนี้ใช้ชีวิตอยู่ในไทยมานานกว่า 10 ปี แต่นำเสนอข้อมูลของประเทศไทยที่ไม่เป็นความจริง และยังสร้างความตื่นตระหนกให้กับนักท่องเที่ยว ถือเป็นการกระทำที่สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย” นายสุรวัชกล่าวและว่า

ในฐานะที่ตนอยู่ในธุรกิจการท่องเที่ยวอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จ เพื่อปกป้องภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่อไป