GUNKUL รุกธุรกิจพลังงานสีเขียว ตั้งเป้าใหญ่รายได้เกิน 35,000 ล้าน ใน 3 ปี
PUM Online March 13, 2025 10:21 AM

กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง หรือ GUNKUL ตั้งเป้ากำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานสีเขียวสะสม 2,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2570 พร้อมตั้งเป้ารายได้เติบโต 10-15% ทุกปี รวม 3 ปี กว่า 35,000 ล้านบาท จากการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ พร้อมยังคงรักษาการเป็นผู้นำพลังงานสีเขียวเบอร์ 2 ของประเทศ

นางสาวนฤชล ดำรงปิยวุฒิ์ ดำรงตำแหน่งประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL ผู้นำด้านพลังงานสีเขียวแบบครบวงจรใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของไทย เปิดเผยว่า สำหรับปี 2568 นี้ บริษัทได้วางวิสัยทัศน์ใหม่ในการเดินหน้า ที่จะเป็น “พาร์ตเนอร์ในด้านพลังงานสีเขียวและโครงสร้างพื้นฐานแห่งภูมิภาคเอเชีย” เพื่อสร้างการเติบโต และสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหุ้น รวมถึงดูแลทุกภาคส่วน

โดยนำ 3 ธุรกิจหลักมาต่อยอดด้วย 3 กลยุทธ์แบบบูรณาการเป้าหมาย 3 ปี (2568-2670) จะต้องมีรายได้รวมเติบโตกว่า 35,000 ล้านบาท หรือมีรายได้เฉลี่ยเติบโตปีละ 10-15%

ทั้งนี้ บริษัทได้วางงบประมาณในการลงทุนตลอด 3 ปี ไว้ที่ 12,000 ล้านบาท ซึ่งจะให้ความสำคัญไปในธุรกิจใหม่ เช่น โซลาร์แบตเตอรี่ Green Data Center เป็นต้น และเพื่อให้บริษัทเติบโตไปได้ตามเป้าหมาย บริษัทพร้อมต่อยอด 3 ธุรกิจสำคัญ ได้แก่ 1.ธุรกิจผลิตไฟฟ้า และพลังงานสะอาด 2.ธุรกิจก่อสร้างโรงไฟฟ้า และระบบอินฟราสตรักเจอร์ และ 3.ธุรกิจผลิตอุปกรณ์สำหรับไฟฟ้า โดยปี 2567 นี้จะเริ่มเห็นรายได้ที่แน่ชัด รวมไปถึงเป้าหมายทำให้หุ้น GUNKUL ได้ AAA ESG SET Rating ในปีนี้

ทั้งนี้ ปัจจุบัน GUNKUL มีโรงไฟฟ้าพลังงานสีเขียวทั้งหมด 1,479 เมกะวัตต์ โดยมี 832 เมกะวัตต์ ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการรอรับรู้รายได้ นอกจากนี้ บริษัทยังมีมูลค่างานรอรับรู้รายได้ (backlog) กว่า 3,800 ล้านบาท อีกทั้งบริษัทยังมีแผนที่จะศึกษาการลงทุนในต่างประเทศ โดยยังให้ความสำคัญในเรื่องของการลงทุนร่วมกับ Partner ในต่างประเทศ สำหรับประเทศที่ศึกษาจะเข้าไปขยายการลงทุน เช่น ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน เวียดนาม ญี่ปุ่น เป็นต้น โดยเน้นประเทศที่ความเสี่ยงน้อยที่สุด

3 กลยุทธ์สำคัญ

นางสาวนฤชลกล่าวอีกว่า ภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่ของการเป็น “พาร์ตเนอร์ในด้านพลังงานสีเขียวและโครงสร้างพื้นฐานแห่งภูมิภาคเอเชีย” ที่จะเดินหน้าธุรกิจใน 3 ปีจากนี้ บริษัทยังได้มีการกำหนดกลยุทธ์ ‘สมการความก้าวหน้า’ ที่สื่อถึงการเติบโตอย่างเป็นระบบและมีความมั่นคง โดยมีสารตั้งต้นจากศักยภาพด้าน Profit People และ Planet ของบริษัท ที่สนับสนุนให้สามารถนำความเชี่ยวชาญด้านพลังงานแบบครบวงจรของ GUNKUL ผนวกเข้ากับกลยุทธ์ใหม่ เพื่อบรรลุผลลัพธ์

สำหรับกลยุทธ์สำคัญที่เป็น 3 แนวทางทำให้ธุรกิจเติบโตไปได้นั้น ได้แก่

1.Build Business Muscles เปรียบเสมือนการสร้างกล้ามเนื้อทางธุรกิจที่แข็งแรงทั้งธุรกิจเดิมและธุรกิจในอุตสาหกรรมใหม่ ที่ GUNKUL สามารถสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน อันมาจากประสบการณ์ด้านพลังงานกว่า 40 ปี มุ่งเน้นการเติบโตรายได้ของ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก และต่อยอดสู่ธุรกิจในอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ที่จุดแข็งของกันกุลสามารถสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน (Competitive advantage) ได้

2.Trim Operational Fat แนวคิดนี้หมายถึงการปรับธุรกิจให้มีความคล่องตัวมากขึ้น โดยการปรับกระบวนการทำงานให้เอื้อต่อการเติบโต ลดขั้นตอนและต้นทุนการดำเนินงานที่ไม่จำเป็นออก ซึ่งในด้านธุรกิจจะโฟกัสเรื่องของการนำเทคโนโลยีเข้ามาบริหารจัดการโรงไฟฟ้าแบบ 100% เพื่อให้เกิดการจัดสรรคนและเวลาอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมไปถึงการศึกษาเรื่องของโอกาสในการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกล้ามเนื้อทางธุรกิจอย่างจริงจัง

3.Create Stakeholder Impact เป็นการสร้างกลยุทธ์ที่ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนองค์กรอย่างยั่งยืนแบบไม่ฉาบฉวย แต่ GUNKUL วางความยั่งยืนเป็นพื้นฐานในการดำเนินธุรกิจ ควบคู่ไปกับการดูแลทุกภาคส่วนอย่างเหมาะสม

ตั้งเป้าเพิ่มพอร์ตโฟลิโอ 2,000 เมกะวัตต์

นางสาวนฤชลกล่าวเพิ่มว่า บริษัทมีแผนใน 3 ปี จะเพิ่มโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดในพอร์ตโฟลิโอทั้งในไทยและต่างประเทศทั้งหมดเป็น 2,000 เมกะวัตต์ พร้อมทั้งจะเดินหน้าต่อยอดธุรกิจแบตเตอรี่ ทั้งในระดับเชิงพาณิชย์และระดับโครงข่าย และกำลังศึกษาโอกาสในการทำธุรกิจพลังงานสีเขียวใหม่ ๆ เช่น SMR, Green hydrogen และในช่วงปลายปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทได้ผ่านคุณสมบัติและได้รับการคัดเลือกเพิ่มขึ้นอีกกว่า 319 เมกะวัตต์ ทั้งโครงการพลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาเพิ่มเติม

นอกจากนี้ บริษัทได้วางแผนขยายบริการรับเหมาวิศวกรรมไฟฟ้าและอินฟราสตรักเจอร์ สู่ตลาดแรงดันสูง 115 kV-500 kV ซึ่งมีความเฉพาะทางสูง ผู้เล่นในตลาดยังมีจำนวนไม่มากนัก และยังมองไปถึงการต่อยอด ธุรกิจด้านสายส่งระบบสื่อสาร ซึ่งต่อยอดจากธุรกิจสายส่งพลังงานไฟฟ้า

ส่วนกลุ่มธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้า ก็ได้มีการเตรียมความพร้อมที่จะเปิดตลาดใหม่สำหรับกลุ่มอุปกรณ์ไฟฟ้าในระดับแรงดันกลางจนถึงแรงดันสูงเพิ่มเติม และจะเข้าประมูลโครงการของทั้งภาครัฐและเอกชนในปี 2568 ที่เติบโตสอดคล้องกับความต้องการโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานสะอาด และแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า (แผน PDP) ฉบับล่าสุด

ซึ่งตั้งเป้าให้แหล่งพลังงานหมุนเวียนมีสัดส่วนเป็น 51% ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดภายในปี 2580 หรือคิดเป็นมูลค่าตลาดกว่า 1 ล้านล้านบาท ทั้งหมดนี้จะส่งผลให้บริษัท ไม่เพียงเติบโตทั้งในด้านรายได้ แต่ยังสามารถรักษาศักยภาพในการทำกำไรที่ดีได้อีกด้วย

ส่วนธุรกิจใหม่ ๆ หรือ New S-curve บริษัทกำลังมองหาอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ที่ไม่จำกัดแค่พลังงาน แต่กำหนดชัดเจนว่าต้องเป็นอุตสาหกรรมที่อยู่ในเทรนด์ความสนใจของประเทศ โดยมีพลังงานสะอาดเป็นหนึ่งในกุญแจขับเคลื่อนความสำเร็จที่สำคัญ เนื่องจาก GUNKUL มีความเชี่ยวชาญทางด้านพลังงานที่สามารถช่วยดูแลโครงการทั้งห่วงโซ่คุณค่า จึงเป็นที่มาของธุรกิจใหม่ ได้แก่ ศูนย์ข้อมูล สีเขียว หรือ Green Data Center และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ (Infrastructure Development) ซึ่งต่างเป็นพื้นที่ทางธุรกิจใหม่ ทั้งคู่ที่ได้รับการสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐ

รวมไปถึงการทำ Coinvestment สร้างความร่วมมือด้านการลงทุนร่วมกับพันธมิตรบริษัทในไทยและบริษัทต่างชาติเพื่อให้เกิด Green S-curve อื่น ๆ ต่อไป เพื่อพุ่งไปสู่เป้าหมายรายได้ในกรอบ 3 ปีที่ตั้งไว้

สรุปรายได้ปี 2567

โดยสรุปในปี 2567 ที่ผ่านมา GUNKUL ทำผลประกอบการณ์ได้เป็นอย่างดี มีรายได้เพิ่มขึ้น 24% เป็น 9,400 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,661 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% ซึ่งนับว่าเป็นความสำเร็จ ที่มาจาก 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่

1.ธุรกิจผลิตไฟฟ้า และพลังงานสะอาด บรรลุสัญญาโครงการพลังงานใหญ่และเติบโตในกลุ่มโซลาร์รูฟท็อป ทำให้ปัจจุบันกำลังผลิตสะสมเป็น 1,479 เมกะวัตต์ ส่งผลให้ GUNKUL มีกำลังการผลิตพลังงานสะอาดเป็นอับดับที่ 2 ของประเทศ

2.ธุรกิจก่อสร้างโรงไฟฟ้า และระบบอินฟราสตรักเจอร์ รายได้เติบโตกว่า 80% ซึ่งมาจากประสบการณ์ EPC ครอบคลุมตั้งแต่โรงไฟฟ้า สายส่งไฟฟ้า และสถานีไฟฟ้าในทุกระดับแรงดัน

3.ธุรกิจผลิตอุปกรณ์สำหรับไฟฟ้า ทำยอดขายเติบโต 28% ด้วยเช่นกัน ล่าสุดบริษัทได้วางแผนงานเพื่อสานต่อความสำเร็จอย่างมั่นคงและยั่งยืน ภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่ “The Most Recognized Partner in Inclusive Green Energy and Infrastructure across Asia” ผู้นำในการเป็นพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจด้านพลังงานสีเขียวและอินฟราสตรักเจอร์แบบครบวงจรแห่งภูมิภาคเอเชีย

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.