การเป็นเจ้าของบ้านถือเป็นหนึ่งในความฝันของคนไทยหลายคน แต่ในบางครั้ง สถานการณ์ทางการเงินที่ไม่คาดคิดอาจทำให้การผ่อนบ้านกลายเป็นภาระหนักเกินกว่าที่จะแบกรับไหว ไม่ว่าจะเป็นการตกงาน รายได้ลดลง หรือมีค่าใช้จ่ายฉุกเฉินที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้ เมื่อเจอปัญหาผ่อนบ้านไม่ไหว หลายคนอาจคิดว่าสามารถขายคืนธนาคารได้ แต่จริง ๆ แล้วมีทางออกอะไรบ้าง ? บทความนี้ เราจะพาทุกคนมาสำรวจทางออกสำหรับปัญหาผ่อนบ้านไม่ไหว พร้อมแนะนำวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมเพื่อให้ทุกคนผ่านพ้นวิกฤติทางการเงินนี้ไปได้
หลายคนอาจเข้าใจผิดคิดว่า เมื่อผ่อนบ้านไม่ไหว สามารถนำบ้านไปขายคืนให้กับธนาคารได้โดยตรง ความจริงแล้ว ธนาคารเป็นผู้ให้เรายืมเงินเพื่อซื้อบ้าน ไม่ใช่ผู้ขายบ้าน ดังนั้น เราไม่สามารถขายบ้านคืนให้ธนาคารได้โดยตรง แต่ที่ทำได้คือ การขายบ้านให้บุคคลอื่น แม้ว่าเรายังผ่อนชำระอยู่ก็ตาม โดยผู้ซื้อจะจ่ายเงินเพื่อรับกรรมสิทธิ์บ้าน และเราจะนำเงินก้อนนี้ไปปิดหนี้กับธนาคาร หลังจากนั้นจึงโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้ซื้อใหม่ ซึ่งเป็นทางออกที่สามารถทำได้เมื่อประสบปัญหาผ่อนบ้านไม่ไหว
หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหาผ่อนบ้านไม่ไหว ไม่ต้องกังวลเกินไป เพราะยังมีทางออกให้แก้ไขสถานการณ์ได้ แม้จะไม่สามารถขายคืนธนาคารได้โดยตรง แต่มีวิธีอื่น ๆ ที่ช่วยบรรเทาภาระการผ่อนบ้านได้ โดยเราได้รวบรวม 5 ทางออกสำหรับคนที่กำลังเผชิญกับปัญหานี้ ซึ่งอาจช่วยให้คุณมีทางเลือกในการแก้ไขปัญหา และผ่านวิกฤติทางการเงินไปได้ ตามไปดูกันเลย
สำหรับผู้ที่ผ่อนบ้านไม่ไหว แต่ยังมีความสามารถในการชำระหนี้บางส่วน สามารถติดต่อธนาคารเพื่อขอชำระค่าบ้านในจำนวนที่น้อยกว่างวดปกติได้ ธนาคารบางแห่งอาจยินยอมหากยอดชำระในแต่ละเดือนสูงกว่าดอกเบี้ยตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป วิธีนี้เป็นทางออกชั่วคราวที่ช่วยลดภาระการผ่อนชำระในช่วงที่การเงินตึงเครียด โดยทั่วไปจะทำได้ไม่เกิน 2 ปี และสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ข้อดีของวิธีนี้คือ ช่วยลดภาระการผ่อนบ้านในช่วงที่มีปัญหาทางการเงิน ทำให้มีสภาพคล่องมากขึ้นในระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตาม มีข้อจำกัดตรงที่เมื่อไม่ได้ชำระหนี้เต็มจำนวน จะทำให้เกิดภาระดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น และในอนาคตจะต้องหาเงินเพิ่มเพื่อมาชำระคืน
หากคุณผ่อนบ้านไม่ไหวเนื่องจากภาระดอกเบี้ยที่สูงเกินไป การขอลดอัตราดอกเบี้ยกับธนาคารอาจเป็นทางออกที่ดี วิธีนี้เรียกว่า “การรีเทนชั่น” (Retention) เป็นการเจรจากับธนาคารที่คุณใช้สินเชื่ออยู่ในปัจจุบัน โดยทั่วไปธนาคารจะพิจารณาให้หลังจากที่คุณผ่อนชำระดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรกเสร็จสิ้นแล้ว
ข้อดีของวิธีนี้คือ จะได้ดอกเบี้ยที่ถูกลง และใช้เวลาไม่นานในการอนุมัติ แต่มีข้อจำกัดคือ อัตราดอกเบี้ยใหม่ที่ได้รับจะเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนดเท่านั้น คุณไม่สามารถต่อรองได้มากนัก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประวัติการชำระเงินและความสัมพันธ์กับธนาคารของคุณด้วย
อีกวิธีหนึ่งในการแก้ปัญหาผ่อนบ้านไม่ไหว คือ การติดต่อธนาคารเพื่อขอขยายระยะเวลาในการผ่อนชำระให้ยาวนานขึ้น เช่น จากเดิมที่คุณต้องผ่อนอีก 10 ปี ก็ขอขยายเป็น 15 ปี การขยายเวลาออกไปจะช่วยลดจำนวนเงินที่ต้องผ่อนในแต่ละเดือน ทำให้ภาระผ่อนน้อยลง โดยทั่วไปธนาคารจะพิจารณาขยายเวลาชำระหนี้ให้ไม่เกิน 30 ปี และอายุของผู้กู้รวมกับระยะเวลาที่ขยายออกไปต้องไม่เกิน 70 ปี
ข้อดีของวิธีนี้คือ ทำให้จำนวนเงินที่ต้องผ่อนต่อเดือนลดลง ช่วยให้มีเงินเหลือใช้มากขึ้น แต่ข้อจำกัดคือ คุณจะเป็นหนี้ยาวนานขึ้น แม้การผ่อนต่อเดือนจะลดลง แต่ดอกเบี้ยรวมตลอดอายุสัญญาจะเพิ่มขึ้น ทำให้ในระยะยาวต้องจ่ายเงินมากกว่าเดิม
สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาหนักถึงขั้นไม่สามารถชำระหนี้ได้เลยชั่วระยะเวลาหนึ่ง สามารถติดต่อธนาคารเพื่อขอพักชำระหนี้ได้ ธนาคารอาจพิจารณาให้พักชำระหนี้ตามระยะเวลาที่กำหนด เช่น 3-6 เดือน อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาที่พักชำระหนี้ ธนาคารยังคงคิดดอกเบี้ยปกติ และอาจนำไปเฉลี่ยให้จ่ายในเดือนต่อ ๆ ไป หรือเรียกเก็บท้ายสัญญาขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างคุณกับธนาคาร
ข้อดีของวิธีนี้คือ ช่วยให้คุณมีเวลาตั้งหลักในช่วงที่การเงินคับขัน เมื่อจัดการการเงินได้ดีขึ้น คุณสามารถกลับมาผ่อนชำระต่อได้ แต่ข้อจำกัดคือ มีการคิดดอกเบี้ยระหว่างพักชำระหนี้ ทำให้มีภาระดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นที่ต้องนำมาชำระในภายหลัง
การรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน คือ การขอสินเชื่อจากธนาคารใหม่เพื่อมาปิดสินเชื่อเดิมที่ใช้อยู่ โดยสินเชื่อใหม่จะมีอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่า และอาจมีสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ที่ดีกว่าเดิม ช่วยให้คุณจ่ายดอกเบี้ยลดลง และได้รับวงเงินเพิ่มอีกด้วย วิธีนี้เป็นทางออกที่ช่วยลดภาระดอกเบี้ย และเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินในแต่ละเดือนให้ดีขึ้น
ข้อดีของวิธีนี้คือ คุณสามารถเลือกธนาคารที่ต้องการรีไฟแนนซ์ได้ ได้อัตราดอกเบี้ยใหม่ที่ถูกลง ช่วยลดภาระดอกเบี้ยในระยะยาว แต่ข้อจำกัดคือ ต้องเตรียมเอกสารเพื่อยื่นขอกู้ใหม่ทั้งหมด มีค่าธรรมเนียมการกู้ที่ต้องจ่าย และต้องใช้เวลาในการพิจารณาอนุมัติ
เมื่อเผชิญกับปัญหาผ่อนบ้านไม่ไหว แม้เราจะไม่สามารถขายคืนให้ธนาคารได้โดยตรง แต่ยังมีทางออกอีกหลายวิธีที่ช่วยบรรเทาภาระการเงินได้ ไม่ว่าจะเป็นการขอชำระค่าบ้านต่ำกว่างวดปกติ การขอลดอัตราดอกเบี้ย การขยายระยะเวลาชำระหนี้ การพักชำระหนี้ชั่วคราว หรือการรีไฟแนนซ์บ้าน วิธีเหล่านี้ล้วนเป็นทางเลือกที่ช่วยให้เรายังสามารถรักษากรรมสิทธิ์ในบ้านไว้ได้ ทั้งนี้ สิ่งสำคัญคือการเลือกวิธีที่เหมาะสมกับสถานการณ์การเงินของตัวเอง และควรติดต่อธนาคารทันทีเมื่อพบปัญหา อย่าปล่อยให้เกิดการค้างชำระจนส่งผลเสียต่อประวัติทางการเงินในระยะยาว