เตือนผู้ปกครอง! ช่วงปิดเทอม เฝ้าระวังเด็กจมน้ำ แนะดูแลเด็กเล็กอย่างใกล้ชิด
GH News March 15, 2025 12:07 PM

เตือนผู้ปกครอง! ช่วงปิดเทอม เฝ้าระวังเด็กจมน้ำ แนะดูแลเด็กเล็กอย่างใกล้ชิด เผยจากข้อมูล ปี 67 พบเด็กจมน้ำช่วงปิดเทอม เสียชีวิตถึง 173 คน

วันเสาร์ที่ 15 มีนาคม 2568 เวลา 09.30 น. นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้หลายโรงเรียนกำลังเข้าสู่ช่วงปิดภาคเรียน ซึ่งทำให้เด็กมีเวลาว่างมากขึ้น ประกอบกับอากาศที่ร้อน ทำให้เด็กออกไปเล่นน้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติโดยไม่มีผู้ดูแล อาจนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุทางน้ำ เช่น การลื่นตกน้ำ การจมน้ำ หรือเสียชีวิตได้ ทั้งนี้ จากข้อมูลกองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข พบว่าในปี 2567 มีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จมน้ำเสียชีวิตในช่วงเดือนมีนาคม - พฤษภาคม ซึ่งตรงกับช่วงปิดเทอมถึง 173 คน หรือเฉลี่ยเกือบ 2 คนต่อวัน เฉพาะเดือนมีนาคม มีการจมน้ำมากที่สุด 70 คน รองลงมา คือเดือนเมษายน 58 คน และเดือนพฤษภาคม 45 คน

สำหรับข้อมูลการเสียชีวิตจากกรณีเด็กจมน้ำ พบว่าเป็นกลุ่มอายุ 10 - 14 ปี เสียชีวิตมากที่สุด ร้อยละ 39.3 รองลงมา คือ อายุ 5 - 9 ปี ร้อยละ 32.4 และอายุ 0 - 4 ปี ร้อยละ 28.3 โดย "เพศชาย" จมน้ำสูงกว่า "เพศหญิง" ถึง 2.8 เท่าตัว โดยจังหวัดที่มีการเสียชีวิตสูงที่สุด คือ นครราชสีมา 13 คน ปัตตานี 9 คน ศรีสะเกษ และอุดรธานี จังหวัดละ 8 คน และจากข้อมูลระบบรายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการตกน้ำ จมน้ำ (Drowning Report) ของกองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค ช่วงเดือน มีนาคม - พฤษภาคม ปี 2567 พบว่า แหล่งน้ำที่พบเด็กจมน้ำมากที่สุด ได้แก่  แหล่งน้ำเพื่อการเกษตรและแหล่งน้ำตามธรรมชาติ เช่น บ่อขุด สระน้ำ คลอง แม่น้ำ ร้อยละ 72.3 เขื่อน อ่างเก็บน้ำ ฝาย ร้อยละ 10.9 และสระว่ายน้ำ สวนน้ำ ร้อยละ 5.8  ทั้งนี้ สาเหตุเกิดจากการไปเล่นน้ำมากที่สุด ร้อยละ 72.3 รองลงมาคือ พลัดตกลื่น ร้อยละ 14.9

“รัฐบาลห่วงใยต่อปัญหาการจมน้ำเสียชีวิตของเด็กไทย ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนช่วยกันเฝ้าระวังและป้องกันอุบัติเหตุจากการจมน้ำ เพื่อให้เด็ก ๆ ได้ใช้ช่วงเวลาปิดเทอมอย่างปลอดภัยที่สุด แนะนำผู้ปกครองควรดูแลเด็กเล็กอย่างใกล้ชิด สำหรับกลุ่มเด็กโต ควรสอนให้เด็กรู้กฎความปลอดภัยทางน้ำ เช่น ไม่เล่นใกล้แหล่งน้ำ ไม่เล่นน้ำคนเดียว ไม่เล่นน้ำกันเองโดยไม่มีผู้ใหญ่ไปด้วย ไม่แกล้งจมน้ำ รู้จักประเมินแหล่งน้ำเสี่ยง ใส่เสื้อชูชีพทุกครั้ง และตลอดเวลาที่ทำกิจกรรมทางน้ำหรือนั่งเรือ และหากพบเห็นคนตกน้ำ ไม่ควรกระโดดลงไปช่วย เพราะอาจจมน้ำพร้อมกันได้ ควรใช้มาตรการ "ตะโกน โยน ยื่น"  ในส่วนของชุมชนควรมีการเฝ้าระวังแหล่งน้ำเสี่ยงในชุมชน ไม่ปล่อยให้เด็กลงไปเล่นน้ำ และมีการจัดการแหล่งน้ำเสี่ยงให้เกิดความปลอดภัย สำหรับสถานที่ที่เปิดให้บริการเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำควรดำเนินการ ดังต่อไปนี้ ติดป้ายคำเตือน จัดให้มีอุปกรณ์ช่วยคนตกน้ำบริเวณแหล่งน้ำ มีเสื้อชูชีพให้บริการและให้ใส่ทุกครั้งที่ทำกิจกรรมทางน้ำ กำหนดบริเวณสำหรับเล่นน้ำแยกออกจากบริเวณสัญจรทางน้ำ มีเจ้าหน้าที่ lifeguard คอยดูแล การประชาสัมพันธ์ในการดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด” นายอนุกูล กล่าว

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.