นายกฯสั่ง ฟันโทษสูงสุด ผู้รับเหมา-ผู้คุมงาน หากพบประมาทเลินเล่อ เซ่น อุบัติเหตุ ถ.พระราม2
GH News March 17, 2025 03:27 PM

“สุริยะ“ เผย ”นายกฯ“สั่ง ใช้กฎหมายจัดซื้อจัดจ้างฯ ฟันโทษสูงสุด “ผู้รับเหมา-ผู้คุมงาน” หากพบประมาทเลินเล่อเซ่น อุบัติเหตุถ.พระราม2 โต้ ไม่เกี่ยววัสดุไร้มาตรฐาน เผย จ้างวิศวกรรมสถาน หาที่ปรึกษา คุมกระบวนการก่อสร้างให้ปลอดภัย ยัน สิ้นปีนี้ก่อสร้างเสร็จแน่นอน

เมื่อเวลา 11.40 น.วันที่ 17 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล สุริยะรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แถลงผลประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานรับผิดชอบที่เกี่ยวข้อง เรื่องมาตรการความปลอดภัยในการก่อสร้างถนนและเส้นทางคมนาคม หลังเกิดอุบัติเหตุบริเวณพื้นที่ก่อสร้างถนนพระราม2 ว่า หน่วยงานในกำกับกระทรวงคมนาคม ได้รายงาน อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบริเวณถนนพระราม 2 ในโครงการทางด่วน พระราม 3 ดาวคะนอง จะมีผู้เสียชีวิต โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐได้สั่งการ ว่าหากเกิดจากความผิดของบริษัทผู้รับเหมา หรือผู้ควบคุมงาน ให้ กฎหมายที่มีอยู่โดยพิจารณาบทลงโทษสูงสุด ตาม พระราชบัญญัติจัดซื้อจัดจ้าง พ.ศ.2560 มาตรา 109 หมวด12 ว่าด้วยการทิ้งงาน

ผู้สื่อข่าวถามถึงการใช้มาตรการสมุดพก กับผู้รับเหมา นายสุริยะ กล่าวว่า ทางอธิบดีกรมบัญชีกลาง ระบุว่า สามารถใช้ข้อกำหนดของกฎหมายจัดซื้อจัดจ้างมาใช้ได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องรอสมุดพกมีผลบังคับ แต่หน่วยงานเจ้าของโครงการคือ ทางกรมทางหลวง หรือ กรมทางหลวงชนบท จะต้องไปใช้ดุลพินิจเอาเอง ทำให้เจ้าหน้าที่เกิดความเป็นห่วงอาจจะถูกฟ้องร้องได้ ดังนั้นจึงต้องตรวจสอบหากพบว่า เกิดจากความบกพร่องของผู้รับเหมา และมีผู้เสียชีวิต ก็จะใช้มาตรการลงโทษสูงสุด

เมื่อถามว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นสามารถเอาผิดผู้รับเหมาได้หรือไม่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า เพิ่งเกิดเหตุเมื่อสองวันที่แล้ว โดยการทางพิเศษ แห่งประเทศไทย(กทพ.) จะรีบตรวจสอบข้อเท็จจริง คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน1เดือน เพื่อหาข้อเท็จจริง

เมื่อถามย้ำว่านอกจากข้อสั่งการของนายกฯจะมีมาตรการอะไรออกมา เพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ นายสุริยะ กล่าวว่า ในช่วงการก่อสร้างยังดำเนินต่อไป เพื่อให้ประชาชนใช้เส้นทางถนนพระราม2และ พระราม 9 ที่เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยจึงเสนอให้สภาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย เข้ามาตรวจสอบกระบวนการดำเนินงานโดยจะใช้วิธีการจัดจ้างที่ปรึกษา เข้ามาดูกระบวนการทั้งหมดให้เป็นกิจลักษณะ เพื่อให้การก่อสร้างเกิดความปลอดภัยสูงสุด ที่ผ่านมาทางกระทรวงเป็นการร้องขอให้เข้ามาช่วยดูโดยไม่ได้จ่ายค่าจ้าง

เมื่อถามว่านายกฯสั่งเอาผิด ที่ปรึกษาโครงการตรงนี้จะตรวจสอบควบคู่ไปด้วยหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า ถูกต้อง ถ้าสอบสวนพบว่าเป็นความผิดพลาดของบริษัทที่ปรึกษา จะให้ดำเนินฟ้องร้องทั้งคดีอาญาและทางแพ่ง และอาจถึงริบใบอนุญาต ที่ปรึกษา ทั้งนี้ขอให้มั่นใจว่าที่ผ่านมา โครงสร้างการต่างๆ ยังไม่มีโครงการไหนที่ไม่แข็งแรง เพราะการออกแบบเป็นไปตามมาตรฐานวิศวกรรม แต่ในช่วงควบคุมงานอาจเป็นความประมาทเลินเล่อของผู้รับเหมา จึงทำให้เกิดอุบัติขึ้น

เมื่อถามถึงข้อสังเกตวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้างอาจไม่ได้มาตรฐาน นายสุริยะ กล่าวว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องวัสดุ โดยกรมทางหลวง ตรวจสอบในเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา แต่เป็นเพราะขั้นตอนการก่อสร้างที่บริษัทผู้รับเหมาและลูกจ้างไม่ได้ทำตามขั้นตอน

ผู้สื่อข่าวถามว่าการเกิดเหตุซ้ำถือว่าเป็นความหละหลวม หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ขอย้ำว่าได้กำชับกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท และหน่วยงานที่ต้องก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ เน้นย้ำผู้รับเหมาให้คำนึงเรื่องความปลอดภัย แต่เวลาผ่านไปเป็นปียังเกิดเหตุซ้ำจึงเป็นที่มาการเสนอมาตรการสมุดพก ในการตัดคะแนนหากเกิดอุบัติเหตุและมีผู้เสียชีวิต จะขึ้นแบล๊กลิสต์บริษัทนั้น ไม่สามารถเสนอราคาประมูล ได้ก็จะขาดรายได้ ขาดสภาพคล่องทางการเงิน ดังนั้นผู้รับเหมาจะต้องทำงานด้วยความระวัง ไม่ให้ถูกแบล๊กลิสต์ โดยอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ยังไม่มีการ ขึ้นแบล๊กลิสต์

ผู้สื่อข่าวถามว่า มาตรการสมุดพก จะเสร็จบังคับใช้ได้เมื่อใด นายสุริยะ กล่าวว่า อย่างช้าไม่เกินสิ้นเดือนเม.ย.นี้ จะเรียบร้อย เมื่อถามย้ำว่ามาตรการสมผลจะใช้ย้อนหลังไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า กำลังดูอยู่และพิจารณาว่าจะทำอย่างไรดี ส่วนที่มีกระแสดราม่าว่าก่อนหน้านี้ไม่สามารถเอาผิดผู้รับเหมาได้นั้น อย่างที่บอกว่าเราเคยพูดแล้วไม่สามารถทำได้ และในตัวสัญญาว่าจ้างไม่ได้มีเรื่องของการห้ามรับงานอีก จึงต้องมีมาตรการสมุดพก

เมื่อถามว่าจะต้องมีการทบทวนเรื่องการสัญญาว่าจ้าง จะมีกรณีซอยสัญญาจำนวนมาก รองนายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ตรงกับใจ เพราะที่ผ่านมามีการซอยสักช่วงก่อสร้างไม่กี่กิโลเมตร เช่น กรณีพระราม 2 มี 14 สัญญาทำให้บางสัญญาไม่เสร็จจนเกิดฟันหลอ จึงสังสั่งการว่าต่อไปนี้ให้แบ่งสัญญาเท่าที่จำเป็น

ผู้สื่อข่าวถามมองอย่างไรกับความเชื่อให้พึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้การก่อสร้างราบรื่น นายสุริยะ กล่าวว่า เข้าใจความรู้สึกของประชาชนที่เกิดความไม่มั่นใจ จึงต้องมีการห้ามรับเงิน แต่มาตรการแบล๊กลิสต์ก็ต้องทำไปในขณะที่การก่อสร้างยังต้องดำเนินต่อ จึงต้องว่าจ้างให้ทางวิศวกรรมสถาน เข้ามาอธิบายขั้นตอนการก่อสร้างเพื่อให้เกิดมาตรฐาน

เมื่อถามถึงกระแสสังคมเรียกร้องให้รัฐมนตรีแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้ด้วยการลาออก รองนายกฯ กล่าวว่า เมื่อกระทรวงคมนาคมมีมาตรการและการขึ้นแบล๊กลิสต์ผู้รับเหมาที่ชัดเจนเชื่อว่าสถานการณ์ต่างๆจะดีขึ้นอย่างแน่นอน และยืนยันว่า กำหนดการก่อสร้างบริเวณถนนพระราม2 จะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้แน่นอน

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.